สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายครอบครัว (ครั้งที่ 1)

สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายครอบครัว (ครั้งที่ 1)
อาจารย์ชาติชาย อัครวิบูลย์
วันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม 2568
**********

1. ถ้านักศึกษาทำงานและเรียนไปด้วย มีเวลาน้อย ควรอ่านทบทวนตัวบทกฎหมาย เพราะถ้าไม่ได้หลักกฎหมาย ก็ปิดหนทางที่จะปรับข้อกฎหมายในข้อสอบ

2. กฎหมายครอบครัว แก้ไขเรื่องสมรสเท่าเทียม ใช้บังคับเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 การศึกษาจะต้องปรับเปลี่ยนความคิด การสมรสเท่าเทียม โดยไม่คำนึงถึงเพศ เพิ่มสิทธิเพศเดียวกันสามารถสมรสกันได้ เป็นการปรับแก้ถ้อยคำของกฎหมาย

3. ลักษณะ2 บิดามารดากับบุตร ก็ยังใช้คำว่า ชาย หญิง บุตร ตามธรรมชาติ

4. การหมั้น เป็นได้ทั้ง ชายหมั้นหญิง , หญิงหมั้นชาย , ชายหมั้นชาย , หญิงหมั้นหญิง เพราะม.1437 การหมั้นจะสมบูรณ์เมื่อฝ่ายผู้หมั้นได้ส่งมอบหรือโอนทรัพย์สินอันเป็นของหมั้นให้แก่ผู้รับหมั้น เพื่อเป็นหลักฐานว่าจะสมรสกับผู้รับหมั้น

5. โครงสร้างของ บรรพ 5 ครอบครัว
ลักษณะ 1 การสมรส
  หมวด 1 การหมั้น
  หมวด 2 เงื่อนไขแห่งการสมรส
  หมวด 3 ความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรส
  หมวด 4 ทรัพย์สินระหว่างคู่สมรส
  หมวด 5 ความเป็นโมฆะของการสมรส
  หมวด 6 การสิ้นสุดแห่งการสมรส
ลักษณะ 2 บิดามารดากับบุตร
  หมวด 1 บิดามารดา
  หมวด 2 สิทธิและหน้าที่ของบิดามารดาและบุตร
  หมวด 3 ความปกครอง
  หมวด 4 บุตรบุญธรรม
ลักษณะ 3 ค่าอุปการะเลี้ยงดู

6. ความหมายของการหมั้น ไม่มีนิยามไว้ อาจารย์สรุปให้ว่า การหมั้นคือการที่คู่หมั้นทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่าจะทำการสมรสโดยมีของหมั้น

7. หลักเกณฑ์การหมั้น
  1) ต้องเป็นข้อตกลงระหว่างบุคคลสองคน ซึ่งอาจต่างเพศกันหรือไม่ก็ได้
  2) เป็นข้อตกลงว่าจะสมรสกัน
  *เพียงแต่ตกลงว่าจะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา โดยไม่มีเจตนาสมรสกันจริง ไม่ใช่การหมั้น
  3) คู่สัญญาหมั้น มีใครบ้าง (มองในแง่ความรับผิด)
  -ตัวผู้หมั้น และ ผู้รับหมั้น
  -บิดามารดาของผู้หมั้นและผู้รับหมั้นที่เป็นคู่หมั้น
  -บุคคลผู้กระทำในฐานะเช่นบิดามารดาของคู่หมั้น
  4) การหมั้นต้องมีของหมั้น ม.1437 วรรคหนึ่ง ของหมั้นจึงเป็นสาระสำคัญ
  5) การหมั้นต้องมีวัตถุประสงค์ที่ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน

8. ลักษณะของของหมั้น
  1) ต้องเป็นทรัพย์สิน อาจเป็นสิทธิเรียกร้องก็ได้ ราคามากน้อยไม่สำคัญ
  2) ต้องเป็นทรัพย์สินที่ผู้หมั้นส่งมอบหรือโอนให้แก่ผู้รับหมั้น
  *จะต้องมีการส่งมอบ หากไม่มีการส่งมอบ ไม่มีของหมั้น สัญญาหมั้นไม่เกิด
  *จะตกลงให้เป็นหนี้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการไม่ได้ เช่น จะพาผู้รับหมั้นไปเที่ยวต่างประเทศ
  *ถ้ายังไม่ส่งมอบ เพียงแต่ทำสัญญากู้เงินให้อีกฝ่ายยึดถือไว้เป็นประกัน เป็นเรื่องตกลงจะให้ทรัพย์สินในภายหน้า ไม่เป็นของหมั้น ผู้รับหมั้นจะฟ้องเรียกเงินจากผู้หมั้นตามสัญญากู้ไม่ได้ (ซึ่งต่างจากสินสอดที่สามารถฟ้องเรียกได้ เมื่อการสมรสไม่เกิดขึ้นเพราะความผิดของผู้หมั้น)
  3) ของหมั้นเป็นหลักฐานว่า ผู้หมั้นจะสมรสกับผู้รับหมั้น จึงต้องมีเจตนาจะสมรส มิใช่มอบเงินให้เพื่อขอขมา เพื่ออยู่กันด้วยกัน หรือโดยไม่มีเจตนาจะจดทะเบียนสมรส
  *เมื่อไม่มีเจตนาจะสมรส ก็ไม่เป็นของหมั้น ผู้หมั้นเรียกคืนไม่ได้
  *การตกลงว่าจะสมรส แต่ปรากฏว่ามีอายุไม่ครบ 18 ปีบริบูรณ์ การหมั้นเป็นโมฆะตาม ม.1435 เรียกคืนตามหลักลาภมิควรได้ เว้นแต่รู้ว่าอายุไม่ครบ 18 ปีบริบูรณ์ เป็นการชำระหนี้ตามอำเภอใจ

9. ผลของของหมั้น
  1) ของหมั้น ตกเป็นทรัพย์สินแก่ผู้รับหมั้น ม.1437 วรรคสอง
  2) เมื่อสมรสแล้ว ให้เป็นสินส่วนตัวของคู่สมรสที่เป็นผู้รับหมั้น ม.1471 (4)

***จบการบรรยาย***

ความคิดเห็น

10 บทความยอดนิยมประจำสัปดาห์

แนวข้อสอบ พนักงานราชการ (ข้อ 1 - 10)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (30 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 (55 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ชุดที่ 1)

แนวข้อสอบ ระเบียบฯ สารบรรณ (ชุดที่ 3)

สาระสำคัญ พ.ร.บ.สถิติ พ.ศ. 2550 (ฉบับเตรียมสอบ)

สาระสำคัญ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (ฉบับเตรียมสอบ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539

แนวข้อสอบ ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ พ.ศ.2562

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ชุดที่ 1)