สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายซื้อขาย เช่าทรัพย์ เช่าซื้อ (ครั้งที่ 13-14)

สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายซื้อขาย เช่าทรัพย์ เช่าซื้อ (ครั้งที่ 13-14)
อาจารย์ฉันทวัธน์ วรทัต
วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม 2568
**********

1. ผู้ให้คำมั่นจะให้เช่าตายหรือเป็นคนไร้ความสามารถ 
-ม.169 วรรคสอง "การแสดงเจตนาที่ได้ส่งออกไปแล้วย่อมไม่เสื่อมเสียไป แม้ภายหลังการแสดงเจตนานั้นผู้แสดงเจตนาจะถึงแก่ความตาย หรือถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ" 
-ม.360 "บทบัญญัติแห่งมาตรา 169 วรรคสอง นั้น ท่านมิให้ใช้บังคับ ถ้าหากว่าขัดกับเจตนาอันผู้เสนอได้แสดง หรือหากว่าก่อนจะสนองรับนั้น คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้รู้อยู่แล้วว่าผู้เสนอตายหรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ"
-ผู้ให้เช่าโอนทรัพย์สินให้คนบุคคลภายนอก คำมั่นจะให้เช่าที่ระบุไว้ในสัญญาเช่านั้น ไม่โอนไปยังผู้รับโอน เพราะผู้ให้เช่ามีสิทธิและหน้าที่ตามป.พ.พ. ส่วนเรื่องคำมั่นจะให้เช่าไม่มีบัญญัติในป.พ.พ. ผู้รับโอนไม่ต้องผูกพันคำมั่นนั้น
-ฎ.4655/2566 ทำสัญญาเช่า 30 ปี และมีคำมั่นจะให้เช่าอีก 2 คราว ๆ ละ 30 ปี ซึ่งได้มีการชำระค่าเช่า 30 ปี และค่าเช่าตามคำมั่นครบแล้ว แสดงให้เห็นเจตนาหลีกเลี่ยงม.540 สัญญาที่ต่อสัญญาเช่าอีก 2 คราว ๆ ละ 30 ปี จึงตกเป็นโมฆะ วัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย
-ม.540 "อันอสังหาริมทรัพย์ ท่านห้ามมิให้เช่ากันเป็นกำหนดเวลาเกินกว่าสามสิบปี ถ้าได้ทำสัญญากันไว้เป็นกำหนดเวลานานกว่านั้น ท่านก็ให้ลดลงมาเป็นสามสิบปี
  อนึ่ง กำหนดเวลาเช่าดังกล่าวมานี้ เมื่อสิ้นลงแล้วจะต่อสัญญาอีกก็ได้ แต่ต้องอย่าให้เกินสามสิบปีนับแต่วันต่อสัญญา"

2. สัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา (ไม่มีในตัวบท)
-สัญญาเช่าปกติ คือ ผู้เช่าชำระค่าเช่าแก่ผู้ให้เช่า
-สัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา นอกจากต้องชำระค่าเช่าแล้ว ผู้เช่ายังต้องทำบางอย่างเพิ่มขึ้นเพื่อตอบแทนพิเศษที่ได้เช่าทรัพย์สินนั้น อาจจะได้เช่าเป็นเวลานาน จึงใช้บทบัญญัติเรื่องเช่าทรัพย์ กับเรื่องสัญญาต่างตอบแทนมาปรับใช้
-มีได้ทั้งสังหาริมทรัพย์ สังหาริมทรัพย์ชนิดพิเศษ และอสังหาริมทรัพย์ แต่คดีส่วนใหญ่จะเป็นอสังหาริมทรัพย์
2.1) มีการตกลงผู้เช่าปลูกสร้างทรัพย์สินในที่ดินที่เช่า และยกกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างให้แก่ผู้ให้เช่าเป็นการตอบแทน เป็นสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา
-เช่น ตึกแถวบ้านเรือน ลานจอดรถ อาคารจอดรถ ไม้ยืนต้น 
-ถมดินในหนองเพื่อปลูกสร้างบ้านและจะให้เช่าตลอดชีวิต เป็นสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา ฎ.2239/2521 , ถมดินเพื่อปลูกสร้างห้องแถว เพื่อประโยชน์ทางการค้าของผู้เช่า ไม่เป็นสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา ฎ.1051/2514
2.2) มีการตกลงกันว่าผู้เช่าจะต่อเติม ทำเพิ่ม ซ่อมแซมใหญ่ ในทรัพย์สินที่เช่าอยู่ เพื่อจะได้เช่าทรัพย์สินต่อไปอีก เป็นสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา
-ถ้าตกลงว่า ผู้เช่าปรับปรุง บำรุงรักษา ซ่อมแซมเล็กน้อย เป็นหน้าที่ของผู้เช่าอยู่แล้วตามม.553 "ผู้เช่าจำต้องสงวนทรัพย์สินที่เช่านั้นเสมอกับที่วิญญูชนจะพึงสงวนทรัพย์สินของตนเอง และต้องบำรุงรักษาทั้งทำการซ่อมแซมเล็กน้อยด้วย" ไม่เป็นสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา
-การต่อเติม ทำเพิ่ม ซ่อมแซมใหญ่ เพื่อประกอบการค้า และเพื่อประโยชน์ในการประกอบธุรกิจ ไม่เป็นสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา
-ผู้เช่าต่อเติม ทำเพิ่ม ซ่อมแซมใหญ่โดยพลการ เพื่อความสะดวกสบายเพื่อธุรกิจการค้าของผู้เช่าเอง ไม่เป็นสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา
2.3) มีข้อตกลงผู้เช่าช่วยออกเงินค่าก่อสร้างจะได้เช่า เป็นสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา
-ถ้ามีสิ่งก่อสร้างอยู่แล้ว แต่ผู้เช่าจ่ายเงินแป๊ะเจี๊ยะ เงินกินเปล่า ถือเป็นค่าเช่าล่วงหน้า เป็นส่วนหนึ่งของค่าเช่า เป็นสัญญาเช่าทั่วไป ไม่ใช่เงินช่วยค่าก่อสร้าง ไม่เป็นสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา

3. ข้อแตกต่างของสัญญาเช่าธรรมดา กับสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา
3.1) ไม่ตกอยู่ภายใต้บังคับม.538
-สัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดาไม่อยู่ในบังคับของม.538 
3.2) คู่สัญญาต่างฝ่ายต่างฟ้องร้องให้มีการจดทะเบียนการเช่าได้ตลอดเวลา 
-สัญญาเช่าปกติ ต้องจดทะเบียนวันทำสัญญา
3.3) ผู้เช่าตาย สัญญาเช่าไม่ระงับ
-สัญญาเช่าปกติ ผู้เช่าตาย สัญญาเช่าระงับ

4. ข้อเหมือนกันของสัญญาเช่าธรรมดา กับสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา
-ผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่า ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ ตามม.560
-โอนทรัพย์สินที่เป็นสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา ผู้รับโอนผูกพันอย่างสัญญาเช่าธรรมดา เหมือนการโอนตามสัญญาเช่าทั่วไปตามม.569 เพราะสิทธิหน้าที่เป็นไปตามที่บัญญัติในป.พ.พ. (สัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดาไม่มีบัญญัติไว้)
-ผู้ให้เช่าตามสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดาถึงแก่ความตาย สิทธิหน้าที่ตกแก่ทายาท ทายาทไม่ถือเป็นบุคคลภายนอก ถือว่าเป็นผู้เข้ามาแทนที่เลย ทายาทนั้นจึงต้องผูกพันตามสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา ฎ.1236/2501 , 2526/2531

5. สัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา ระงับเมื่อสิ้นเมื่อ 
5.1) กำหนดเวลาเช่า 
5.2) คู่สัญญาบอกเลิกสัญญา

6. สัญญาเช่าระงับโดยไม่ต้องมีการบอกเลิกสัญญา (เลิกออโต้) มี 4 กรณี
6.1) สิ้นกำหนดเวลาเช่า
-ม.564 "อันสัญญาเช่านั้น ท่านว่าย่อมระงับไปเมื่อสิ้นกำหนดเวลาที่ได้ตกลงกันไว้ มิพักต้องบอกกล่าวก่อน"
-สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ 5 ปี แต่ไม่จดทะเบียน กฎหมายให้บังคับกันได้ 3 ปี ม.538 , เช่าอสังหาริมทรัพย์เกิน 40 ปี ไม่ได้ทำสัญญา ลดเหลือ 30 ปี ม.540 กำหนดเวลาเช่าจริง ๆ ดูตามที่บังคับกันได้
-แม้กำหนดเวลาเช่าไว้ คู่สัญญาตกลงยกเลิกสัญญาได้ 
-ผู้ให้เช่าเป็นผู้ทรงสิทธิเก็บกิน ตายระหว่างที่ยังไม่ครบกำหนดเวลาเช่า สิทธิเก็บกินก็สิ้นไป แต่สัญญาเช่าไม่ระงับ ยังผูกพันเจ้าของที่ดินอยู่ ฎ.2297/2541
-เมื่อสิ้นกำหนดเวลา สัญญาเช่าระงับ ผู้เช่าต้องส่งมอบทรัพย์สินคืน , ถ้าอยู่ต่อไปก็เป็นละเมิด ผู้ให้เช่าก็ฟ้องขับไล่ เรียกค่าสินไหมที่อยู่โดยละเมิด
-เมื่อสิ้นกำหนดเวลา สัญญาเช่าระงับ ผู้เช่าต้องส่งมอบทรัพย์สินคืน ถ้าไม่คืน ผู้เช่าอยู่ต่อ ก็อาจเกิดสัญญาเช่าขึ้นใหม่ไม่มีกำหนดเวลา ตามม.570 และถ้าจะบอกเลิกก็ใช้วิธีการตามม.566 (ม.564+570+566)
-ม.570 ในเมื่อสิ้นกำหนดเวลาเช่าซึ่งได้ตกลงกันไว้นั้น ถ้าผู้เช่ายังคงครองทรัพย์สินอยู่ และผู้ให้เช่ารู้ความนั้นแล้วไม่ทักท้วงไซร้ ท่านให้ถือว่าคู่สัญญาเป็นอันได้ทำสัญญาใหม่ต่อไปไม่มีกำหนดเวลา
-ทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ 5 ปี แต่ไม่จดทะเบียน จึงบังคับกันได้ 3 ปี เมื่อครบ 3 ปี อยู่ต่อ ผู้ให้เช่าไม่ทักท้วง ก็เป็นสัญญาเช่าใหม่ไม่มีกำหนดเวลา มีข้อตกลงเช่นเดียวกับสัญญาเช่าเดิมทุกประการ
-ผู้ให้เช่าทักท้วง แล้วค่อยรับค่าเช่า ถือว่าทักท้วง , แต่ถ้าก่อนจะรับค่าเช่าไม่เคยทักท้วง เมื่อรับค่าเช่าแล้วจึงทักท้วง ถือว่าไม่ได้ทักท้วง เกิดสัญญาเช่าใหม่ ฎ.5142/2549
-สัญญาเช่าเดิมมีหลักฐานเป็นหนังสือ เมื่อเป็นสัญญาใหม่ตามม.570 ก็เป็นสัญญาเช่าที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
-ม.566 ถ้ากำหนดเวลาเช่าไม่ปรากฏในความที่ตกลงกันหรือไม่พึงสันนิษฐานได้ไซร้ ท่านว่าคู่สัญญาฝ่ายใดจะบอกเลิกสัญญาเช่าในขณะเมื่อสุดระยะเวลาอันเป็นกำหนดชำระค่าเช่าก็ได้ทุกระยะ แต่ต้องบอกกล่าวแก่อีกฝ่ายหนึ่งให้รู้ตัวก่อนชั่วกำหนดเวลาชำระค่าเช่าระยะหนึ่งเป็นอย่างน้อย แต่ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากว่าสองเดือน
-บอกเลิกด้วยวาจาก็ได้ ไม่ต้องทำเป็นหนังสือ
-บอกเลิกในวันที่กำหนดให้ชำระค่าเช่า เช่น กำหนดชำระค่าเช่าทุกวันที่ 5 ก็บอกกล่าวเลิกสัญญาไปถึงวันที่ 5 ก.ย. ให้ออกไปวันที่ 5 ต.ค. ถ้าไม่ออก วันที่ 6 ก็ฟ้องขับไล่ได้ (ถ้าชำระค่าเช่าทุกวันที่ 5 ในคำฟ้องจะต้องมีเลขวันที่ 5 จำนวน 2 เดือน บอกกล่าวชอบแล้ว) หรือถ้าบอกกล่าวตั้งแต่ 14 ส.ค. ก็ยิ่งดี ซึ่งครบระยะเวลาที่กฎหมายต้องการ ก็คือ 5 ก.ย. และ 5 ต.ค.
-บอกกล่าว 5 ก.ย. ให้ออกไปภายใน 7 วัน ก็เป็นการบอกกล่าวไม่ชอบ แต่ผู้ให้เช่าไปฟ้องขับไล่ 15 ต.ค. ถือว่ามีระยะเวลาที่กฎหมายต้องการแล้ว คือ 5 ก.ย. และ 5 ต.ค. ถือว่าบอกกล่าวชอบแล้ว
-ถ้าไม่กำหนดเวลาชำระค่าเช่ารายเดือน ก็ต้องชำระทุกสิ้นเดือน ตามม.559 ถ้าไม่มีกำหนดโดยสัญญาหรือโดยจารีตประเพณีว่าจะพึงชำระค่าเช่า ณ เวลาใด ท่านให้ชำระเมื่อสิ้นระยะเวลาอันได้ตกลงกำหนดกันไว้ทุกคราวไป กล่าวคือว่าถ้าเช่ากันเป็นรายปีก็พึงชำระค่าเช่าเมื่อสิ้นปี ถ้าเช่ากันเป็นรายเดือนก็พึงชำระค่าเช่าเมื่อสิ้นเดือน (ก่อนฟ้อง ก็ต้องมีวันสิ้นเดือน 2 ครั้ง)
-ไม่ได้กำหนดวันชำระค่าเช่า บอกเลิก 9 ก.ย. ฟ้อง 26 ต.ค. มีสิ้นเดือน ก.ย. เดือนเดียว จึงบอกเลิกไม่ชอบ
-ม.566 ตอนท้าย ไม่ต้องรอกำหนดวันชำระค่าเช่า บอกเลิก 14 ส.ค. ให้ออก 14 ต.ค. ถ้าไม่ออก 15 ต.ค. ก็ฟ้องขับไล่ได้ 
-ถ้าสัญญาเช่าทำไม่ถูกต้อง เช่น ไม่เป็นไปตามม.538 ก็เป็นการอยู่โดยละเมิด ฟ้องขับไล่ได้ทันที ไม่ต้องบอกกล่าวม.566 
-คำถาม ทำสัญญาเช่าที่ดิน 5 ปี แต่ไม่จดทะเบียน หลังจากครบ 3 ปี จะต้องบอกเลิกสัญญากันอย่างไร ? สัญญาเช่าฟ้องร้องบังคับกันได้ 3 ปี หลังจาก 3 ปี ก็เป็นการอยู่โดยสิ้นกำหนดเวลาเช่าไปแล้ว ถ้าผู้ให้เช่าไม่ทักท้วง ก็เกิดสัญญาเช่าใหม่ไม่มีกำหนดเวลาตามม.570 ก็ต้องบอกเลิกตามม.566 
  -กรณีนี้ ถ้าปรากฏว่าผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่า ผู้ให้เช่าก็บอกเลิกไม่น้อยกว่า 15 วัน ตามม.560 ซึ่งใช้ระยะเวลาสั้นกว่า ม.566 (ม.544 เอาทรัพย์สินออกให้เช่าช่วงโดยไม่ได้รับความยินยอม ก็บอกเลิกได้)
6.2) ทรัพย์ที่เช่าสูญหายไปทั้งหมด
-ม.567 "ถ้าทรัพย์สินซึ่งให้เช่าสูญหายไปทั้งหมดไซร้ ท่านว่าสัญญาเช่าก็ย่อมระงับไปด้วย" 
-ใช้ได้ทั้งสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ และไม่ต้องดูว่าเป็นความผิดของใคร
-ถ้าสูญหายทั้งหมด สัญญาเช่าก็ระงับ แม้ผู้เช่าจะซ่อม ก็ไม่ทำให้สัญญากลับมาใช้บังคับได้
-เช่าที่ดินและปลูกสร้างบ้านลงบนที่ดิน ต่อมาสิ่งปลูกสร้างถูกไฟไหม้ สัญญาเช่าที่ดินไม่ระงับ เพราะที่ดินที่เป็นทรัพย์ที่เช่าไม่ได้สูญหายไป ฎ.281-286/2502 , 1366/2505
6.3) ผู้เช่าตาย
-ม.17613/2555
-ถ้าผู้เช่าเป็นนิติบุคคล เมื่อนิติบุคคลสิ้นสภาพ สัญญาเช่าก็ระงับ ฎ.3323/2561
-ผู้เช่าหลายคน คนหนึ่งตาย การเช่าระงับเฉพาะตัวผู้เช่าที่ตาย , สัญญาเช่าระหว่างผู้เช่าที่ยังไม่ตายกับผู้ให้เช่าก็บังคับได้อยู่ ฎ.5859/2530
-สัญญาเช่าระงับ ไม่ตกทอดไปยังทายาทของผู้เช่า ผู้ให้เช่าจึงฟ้องขับไล่ทายาทของผู้เช่าได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าว
-ไม่ใช้กับสัญญาเช่าต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา
6.4) โอนสังหาริมทรัพย์ที่ให้เช่า สัญญาเช่าระงับ
-โอนอสังหาริมทรัพย์ สัญญาเช่าไม่ระงับ ตามม.569 บัญญัติยกเว้นไว้ รวมถึงที่ดิน น.ส.3 ที่มีเพียงสิทธิครอบครองด้วย สัญญาเช่าก็ไม่ระงับ ฎ.3368/2525 
-ม.569 "อันสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้นย่อมไม่ระงับไป เพราะเหตุโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินซึ่งให้เช่า
  ผู้รับโอนย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนซึ่งมีต่อผู้เช่านั้นด้วย"
-ม.569 ต้องมีสัญญาเช่าก่อน แล้วจึงมีการโอนกรรมสิทธิ์ภายหลัง 
-ม.569 วรรคสอง เป็นสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายเช่าทรัพย์ ถ้าเป็นสิทธิหน้าที่ในเรื่องอื่นที่กฎหมายเช่าทรัพย์ไม่ได้บัญญัติไว้ ก็ไม่โอนไปยังผู้รับโอน 
  --หน้าที่ผู้ให้เช่าไปเก็บเงินค่าเช่า ไม่โอน ไม่มีบัญญัติในกฎหมายเช่าทรัพย์ ฎ.3577/2532 
  --หน้าที่ผู้ให้เช่าต้องคืนเงินประกันค่าเช่า ไม่โอน ฎ.6190/2538 
  --คำมั่นว่าจะให้เช่า ไม่โอน
  --ข้อตกลงว่าถ้าผู้ให้เช่าไม่ให้เช่า จะต้องคืนเงินค่าก่อสร้างให้ผู้เช่า หรือต้องรับซื้อโรงเรือนจากผู้เช่า ไม่โอน
  --ข้อตกลงว่าถ้าผู้ให้เช่าจะขายทรัพย์สินที่ให้เช่า ต้องบอกผู้เช่าก่อน ไม่โอน
-กรณีเรื่องขายฝาก ตามม.502 
-ม.502 "ทรัพย์สินซึ่งไถ่นั้น ท่านว่าบุคคลผู้ไถ่ย่อมได้รับคืนไปโดยปลอดจากสิทธิใด ๆ ซึ่งผู้ซื้อเดิม หรือทายาท หรือผู้รับโอนจากผู้ซื้อเดิมก่อให้เกิดขึ้นก่อนเวลาไถ่
  ถ้าว่าเช่าทรัพย์สินที่อยู่ในระหว่างขายฝากอันได้จดทะเบียนเช่าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้วไซร้ ท่านว่าการเช่านั้นหากมิได้ทำขึ้นเพื่อจะให้เสียหายแก่ผู้ขาย กำหนดเวลาเช่ายังคงมีเหลืออยู่อีกเพียงใด ก็ให้คงเป็นอันสมบูรณ์อยู่เพียงนั้น แต่มิให้เกินกว่าปีหนึ่ง"
-ผู้ซื้อฝาก ไปทำสัญญาให้เช่าไม่เกิน 3 ปี ต่อมาผู้ขายฝากก็ไถ่คืน ผู้ไถ่คืนก็ได้รับไปโดยปลอดจากสิทธิใด ๆ สัญญาเช่าดังกล่าว ไม่ผูกพันผู้ไถ่ ตามม.502 วรรคหนึ่ง (ปกติ สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ไม่ระงับเพราะเหตุโอนกรรมสิทธิ์) 

***จบการบรรยาย***

ความคิดเห็น

10 บทความยอดนิยมประจำสัปดาห์

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (30 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 (55 ข้อ)

สาระสำคัญ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (ฉบับเตรียมสอบ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ชุดที่ 1)

แนวข้อสอบ พนักงานราชการ (ข้อ 1 - 10)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 (20 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558

แนวข้อสอบ ระเบียบฯ การลาของข้าราชการ (ชุดที่ 2)