สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายหุ้นส่วน บริษัท (ครั้งที่ 8)
สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายหุ้นส่วน บริษัท (ครั้งที่ 8)
อาจารย์พรภัทร์ ตันติกุลานันท์
วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม 2568
**********
1. ปกติวิชานี้ จะออกข้อสอบสลับกัน สมัย76 ออกหุ้นส่วน , สมัย77 ออกบริษัท แต่ก็มีแนวคิดที่จะออกบริษัทเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีแนวฎีกาใหม่มากขึ้น , วิชานี้มีประมาณ 250 มาตรา มีจำนวนมาก นักศึกษาจึงควรอาศัยความเข้าใจเป็นหลัก และข้อสอบจะเน้นที่หลักกฎหมาย หรือฎีกาที่เป็นเรื่องพื้นฐานตรงตามตัวบท , อาจารย์ตรวจข้อสอบพบว่านักศึกษาใช้คำผิด เช่น ใช้คำว่าหุ้นส่วนในเรื่องบริษัท ที่ถูกต้องคือผู้ถือหุ้น
2. หัวข้อที่อาจารย์รับผิดชอบ
-ลักษณะของบริษัทจำกัด
-การจัดตั้งบริษัทจำกัด
-ทุนของบริษัท (หุ้น) และผู้ถือหุ้น
-การจัดการงานของบริษัท เรื่องที่ประชุมผู้ถือหุ้นออกข้อสอบบ่อย การประชุมใหญ่ชอบหรือไม่ เพิกถอนได้ไหม
-เงินปันผลและเงินทุนสำรอง
-การเพิ่มทุนและลดทุน สมัย77 ออกข้อสอบเรื่องเพิ่มทุน
3. ลักษณะของบริษัทจำกัด
3.1) จัดตั้งโดยสัญญาตั้งแต่ 2 คน นำทุนมาเข้ากัน ทำกิจการร่วมกัน เพื่อหากำไร
-ม.1097 "บุคคลใด ๆ ตั้งแต่สองคนขึ้นไปจะเริ่มก่อการและตั้งเป็นบริษัทจำกัดก็ได้ โดยเข้าชื่อกันทำหนังสือบริคณห์สนธิ และกระทำการอย่างอื่นตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้"
-ม.1012 "อันว่าสัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปตกลงเข้ากันเพื่อกระทำกิจการร่วมกัน ด้วยประสงค์จะแบ่งปันกำไรอันจะพึงได้แต่กิจการที่ทำนั้น"
-ม.1012 "อันว่าสัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปตกลงเข้ากันเพื่อกระทำกิจการร่วมกัน ด้วยประสงค์จะแบ่งปันกำไรอันจะพึงได้แต่กิจการที่ทำนั้น"
-1012 ใช้กับเรื่องบริษัทด้วย
-บริษัทมีลักษณะเป็นผู้ถือหุ้น
3.2) แบ่งทุนเป็นหน่วย (หุ้น) เท่ากัน
-ม.1096 "อันว่าบริษัทจำกัดนั้น คือบริษัทประเภทซึ่งตั้งขึ้นด้วยแบ่งทุนเป็นหุ้นมีมูลค่าเท่า ๆ กัน โดยผู้ถือหุ้นต่างรับผิดจำกัดเพียงไม่เกินจำนวนเงินที่ตนยังส่งใช้ไม่ครบมูลค่าของหุ้นที่ตนถือ"
-บริษัทจดทะเบียนทุนทั้งหมด = ทุนเรือนหุ้น แบ่งออกเป็นหน่วย = หุ้น (แต่ละหุ้นมีมูลค่าจดทะเบียนเท่ากัน)
-เช่น บริษัทมีทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท แบ่งทุนเป็นหุ้น 10,000 หุ้น มูลค่าจดทะเบียนต่อหุ้น 100 บาทต่อหุ้น (เท่ากันทั้งหมด) ทั้ง 10,000 หุ้น มีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 คน
3.3) ผู้ถือหุ้นรับผิดจำกัดเพียงมูลค่าหุ้นที่ยังส่งไม่ครบ
-ม.1096 "อันว่าบริษัทจำกัดนั้น คือบริษัทประเภทซึ่งตั้งขึ้นด้วยแบ่งทุนเป็นหุ้นมีมูลค่าเท่า ๆ กัน โดยผู้ถือหุ้นต่างรับผิดจำกัดเพียงไม่เกินจำนวนเงินที่ตนยังส่งใช้ไม่ครบมูลค่าของหุ้นที่ตนถือ"
-ถ้าชำระค่าหุ้นครบแล้ว หากบริษัทไม่สามารถชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ เจ้าหนี้ของบริษัทจะเรียกจากผู้ถือหุ้นอีกไม่ได้ แม้จะมีการโอนหุ้นไปอีกกี่ทอดก็ตาม
3.4) เป็นนิติบุคคล
-ม.1110 "เมื่อได้ประชุมตั้งบริษัทแล้ว ให้ผู้เริ่มก่อการบริษัทมอบการทั้งปวงให้แก่กรรมการของบริษัทเมื่อกรรมการได้รับการแล้ว ก็ให้ลงมือจัดการเรียกให้ผู้เริ่มก่อการและผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นทั้งหลายใช้เงินในหุ้นซึ่งจะต้องใช้เป็นตัวเงิน เรียกหุ้นหนึ่งไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบห้า ตามที่ได้กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวนบอกกล่าวป่าวร้องหรือหนังสือชวนให้ซื้อหุ้น"
-ม.1111 วรรคหนึ่ง "เมื่อจำนวนเงินซึ่งว่าไว้ในมาตรา 1110 ได้ใช้เสร็จแล้ว กรรมการต้องไปขอจดทะเบียนบริษัทนั้น..."
-ม.1015 "ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทเมื่อได้จดทะเบียนตามบัญญัติแห่งลักษณะนี้แล้ว ท่านจัดว่าเป็นนิติบุคคลต่างหากจากผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นทั้งหลายซึ่งรวมเข้ากันเป็นหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้น"
-เมื่อจดทะเบียนแล้ว ก็เป็นนิติบุคคล
3.5) คุณสมบัติของผู้ถิอหุ้นไม่เป็นสาระสำคัญ
-ม.1132 "ในเหตุบางอย่างเช่นผู้ถือหุ้นตายก็ดี หรือล้มละลายก็ดี อันเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเป็นผู้มีสิทธิจะได้หุ้นขึ้นนั้น หากว่าบุคคลนั้นนำใบหุ้นมาเวนคืน เมื่อเป็นวิสัยจะทำได้ ทั้งได้นำหลักฐานอันสมควรมาแสดงด้วยแล้ว ก็ให้บริษัทรับบุคคลนั้นลงทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้นสืบไป"
-ต่างจากกรณีห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนและจดทะเบียน ถ้าหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งตายหรือล้มละลาย ห้างเลิกกันม.1055(5) เพราะคุณสมบัติของหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญเป็นเรื่องสำคัญ (ยกเว้นหุ้นส่วนจำกัดความรับผิด คุณสมบัติไม่เป็นสาระสำคัญ ม.1091)
4. การจัดตั้งบริษัทจำกัด
4.1) ผู้เริ่มก่อการ 2 คน ทำหนังสือบริคณห์สนธิไปจดทะเบียน
-ม.1097 "บุคคลใด ๆ ตั้งแต่สองคนขึ้นไปจะเริ่มก่อการและตั้งเป็นบริษัทจำกัดก็ได้ โดยเข้าชื่อกันทำหนังสือบริคณห์สนธิ และกระทำการอย่างอื่นตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้"-ม.1098 "หนังสือบริคณห์สนธินั้น ต้องมีรายการดังต่อไปนี้ คือ
(1) ชื่อบริษัทอันคิดจะตั้งขึ้น ซึ่งต้องมีคำว่า "จำกัด" ไว้ปลายชื่อนั้นด้วยเสมอไป
(2) ที่สำนักงานของบริษัทซึ่งบอกทะเบียนนั้นจะตั้งอยู่ ณ ที่ใดในพระราชอาณาเขต
(3) วัตถุที่ประสงค์ทั้งหลายของบริษัท
(4) ถ้อยคำสำแดงว่า ความรับผิดของผู้ถือหุ้นจะมีจำกัด
(5) จำนวนทุนเรือนหุ้นซึ่งบริษัทคิดกำหนดจะจดทะเบียนแบ่งออกเป็นหุ้นมีมูลค่ากำหนดหุ้นละเท่าไร
(6) ชื่อ สำนัก อาชีวะ และลายมือชื่อของบรรดาผู้เริ่มก่อการ ทั้งจำนวนหุ้นซึ่งต่างคนต่างเข้าชื่อซื้อไว้คนละเท่าใด"
-จะต้องเป็นบุคคลธรรมดา ไม่ใช่นิติบุคคล
-ม.1098(6) ผู้เริ่มก่อการ ต้องเข้าชื่อซื้อหุ้นด้วย
-ม.1099 "หนังสือบริคณห์สนธินั้น ให้ทำเป็นต้นฉบับไว้ไม่น้อยกว่าสองฉบับ และให้ลงลายมือชื่อของบรรดาผู้เริ่มก่อการ โดยมีพยานลงชื่อรับรองด้วยสองคน และให้นำฉบับหนึ่งไปจดทะเบียน
ถ้าการจดทะเบียนบริษัทมิได้ทำภายในสามปีนับแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ ให้หนังสือบริคณห์สนธินั้นสิ้นผล"
ถ้าการจดทะเบียนบริษัทมิได้ทำภายในสามปีนับแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ ให้หนังสือบริคณห์สนธินั้นสิ้นผล"
-ม.1101 "บุคคลซึ่งเป็นกรรมการของบริษัทจำกัดจะรับผิดโดยไม่จำกัดก็ได้ ถ้ากรณีเป็นเช่นนั้นไซร้ ท่านว่าต้องจดแถลงความรับผิดเช่นนั้นลงไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิด้วย
อันความรับผิดโดยไม่จำกัดของผู้เป็นกรรมการนั้น ย่อมถึงที่สุดเมื่อล่วงเวลาสองปีนับแต่วันที่ตัวเขาออกจากตำแหน่งกรรมการ"
อันความรับผิดโดยไม่จำกัดของผู้เป็นกรรมการนั้น ย่อมถึงที่สุดเมื่อล่วงเวลาสองปีนับแต่วันที่ตัวเขาออกจากตำแหน่งกรรมการ"
4.2) ผู้เริ่มก่อการจัดให้มีผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นจนครบ
-ม.1100 ผู้เริ่มก่อการทุนคน ต้องลงชื่อซื้อหุ้น ๆ หนึ่งเป็นอย่างน้อย
-ม.1102 ห้ามชี้ชวนประชาชนให้ซื้อหุ้น (เป็นความผิดอาญา) ต้องแสดงเจตนาเสนอขายหุ้นโดยตรง ไม่ใช่ประกาศโฆษณาแก่สาธารณชน เพราะไม่มีการควบคุมการบริหารงานบริษัทจำกัด อาจเกิดความเสียหาย (บริษัทมหาชนจำกัดประกาศชี้ชวนประชาชนได้ ทั้งนี้ตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ)
-ม.1104 จำนวนหุ้นทั้งหมดซึ่งบริษัทคิดจะจดทะเบียนนั้น ต้องมีผู้เข้าชื่อซื้อหรือออกให้กันเสร็จก่อนการจดทะเบียนของบริษัท เพราะบริษัทเป็นนิติบุคคล ต้องมีคนซื้อหุ้นแน่นอน ป้องกันความเสียหายแก่ประชาชน
-ม.1105 ประกอบม.1117 มูลค่าของหุ้น ๆ หนึ่ง มิให้ต่ำกว่าห้าบาท มูลค่าหุ้นเท่าใดก็ได้ แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 5 บาท , จะออกหุ้นโดยกำหนดราคาต่ำกว่ามูลค่าไม่ได้ เจ้าหนี้เสียเปรียบ เช่น บริษัทมีทุนจดทะเบียน 100 ล้าน มูลค่าหุ้นละ 10,000 บาท จำนวนหุ้น 10,000 หุ้น แต่ขายจริงหุ้นละ 200 บาท ทุนจะหายไป , กรณีออกหุ้นโดยราคาสูงกว่ามูลค่าของหุ้น ต้องกำหนดไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิ จึงจะจำได้
-ม.1106 สัญญาเข้าซื้อหุ้น มีผลสำเร็จต่อเมื่อบริษัทจัดตั้งสำเร็จ เรียกเงินค่าหุ้นก่อนไม่ได้
4.3) ประชุมตั้งบริษัท และมอบการทั้งปวงให้กรรมการ
-ม.1107 วรรคหนึ่ง ผู้เริ่มก่อการเป็นผู้เตรียมการและนัดประชุมตั้งบริษัท (เป็นการประชุมใหญ่) หลังจากมีผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นชนิดที่ชำระด้วยเงิน ครบแล้ว
-ม.1108 กิจการที่ต้องทำในที่ประชุมตั้งบริษัท (1) ทำความตกลงตั้งข้อบังคับต่าง ๆ เช่น จำนวนกรรมการ การเรียกประชุมกรรมการ การประชุมผู้ถือหุ้น , (2) ให้สัตยาบันแก่บรรดาสัญญาซึ่งผู้เริ่มก่อการได้ทำไว้ และค่าใช้จ่ายอย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งเขาต้องออกไปในการเริ่มก่อบริษัท (ม.1113 ผู้เริ่มก่อการบริษัทต้องรับผิดร่วมกันและโดยไม่จำกัด...จนกว่าจะได้จดทะเบียนบริษัท) , (3) กำหนดจำนวนเงินให้ผู้เริ่มก่อการ หรือค่าตอบแทนแก่ผู้เริ่มก่อการ , (4) กำหนดจำนวนหุ้นบุริมสิทธิ , (5) กำหนดจำนวนหุ้นสามัญ หรือหุ้นบุริมสิทธิซึ่งออกให้ เหมือนหนึ่งว่าได้ใช้เต็มราคาแล้ว หรือได้ใช้แต่บางส่วนแล้ว เพราะใช้ให้ด้วยอย่างอื่นนอกจากตัวเงิน โดยแถลงในที่ประชุมว่าเพื่อแทนคุณแรงงานหรือตอบแทนทรัพย์สิน (การใช้ค่าหุ้นด้วยแรงงาน ทรัพย์สิน เป็นข้อยกเว้น เพราะทำให้เจ้าหนี้เสียหาย ปกติต้องใช้เป็นเงิน จึงต้องกำหนดไว้ขณะประชุมตั้งบริษัท , แรงงานต้องเป็นแรงงานที่ทำมาแล้ว , ม.1119 หุ้นทุก ๆ หุ้น จะต้องให้ใช้เป็นเงินจนเต็มค่า เว้นแต่หุ้นซึ่งออกตามม.1108(5) หรือม.1221) , (6) เลือกตั้งกรรมการ พนักงานสอบบัญชีชุดแรก และกำหนดอำนาจของคนเหล่านี้ด้วย
-ม.1109 ผู้เริ่มก่อการหรือผู้เข้าชื่อซื้อหุ้น จะออกเสียงลงคะแนนไม่ได้ถ้ามีส่วนได้เสียพิเศษในปัญหาที่ยกขึ้นวินิจฉัย โดยมติเสียงข้างมาก ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นทั้งหมด และ จำนวนหุ้น (ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งทั้งจำนวนคนและจำนวนหุ้น)
-ส่วนได้เสียพิเศษ คือ มีผลประโยชน์ส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องกับบริษัทยิ่งกว่าผลประโยชน์ที่มีในฐานะผู้ถือหุ้น , การตั้งเป็นกรรมการ เป็นส่วนได้เสียธรรมดา
-ม.1110 วรรคหนึ่ง เมื่อประชุมตั้งบริษัทแล้ว ให้ผู้เริ่มก่อการ มอบการทั้งปวงแก่กรรมการของบริษัท
ครั้งหน้า ต่อเรื่อง
4.4) กรรมการเรียกให้ผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นใช้ค่าหุ้นอย่างน้อยร้อยละ 25
4.5) กรรมการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัด
***จบการบรรยาย***
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น