สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายหุ้นส่วน บริษัท (ครั้งที่ 11-12)
สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายหุ้นส่วน บริษัท (ครั้งที่ 11-12)
อาจารย์พรภัทร์ ตันติกุลานันท์
วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม 2568
**********
1. การบริหารงานของบริษัท
-กรรมการเป็นผู้มีอำนาจบริหารงานของบริษัท
-ม.1144 กรรมการคนหนึ่งหรือหลายคนด้วยกันจัดการตามข้อบังคับของบริษัท และอยู่ในความครอบงำของที่ประชุมใหญ่แห่งผู้ถือหุ้นทั้งปวง
-ม.1168 วรรคสอง (4) กรรมการต้องรับผิดชอบร่วมกันบังคับการให้เป็นไปโดยถูกต้องตามมติของที่ประชุมใหญ่
-ม.1168 วรรคสอง (4) กรรมการต้องรับผิดชอบร่วมกันบังคับการให้เป็นไปโดยถูกต้องตามมติของที่ประชุมใหญ่
-ม.1167 ความเกี่ยวพันกันในระหว่างกรรมการและบริษัทและบุคคลภายนอก ให้บังคับตามบทบัญญัติว่าด้วยตัวแทน
-กรรมการไม่จำเป็นต้องถือหุ้น มีหน้าที่ปฏิบัติตามมติที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น โดยไม่ใช่ลูกจ้างของบริษัท แต่เป็นผู้แทนนิติบุคคล กฎหมายกำหนดให้มีฐานะเสมือนตัวแทนด้วยในเรื่องที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก
2. การแต่งตั้งกรรมการและการพ้นจากตำแหน่ง
-จำนวนกรรมการ เป็นไปตามข้อบังคับบริษัท ม.1108(1) และม.1144 หากไม่ได้กำหนด เป็นไปตามมติที่ประชุมใหญ่ ม.1150 อาจมีจำนวนเท่าใดก็ได้
-กรรมการชุดแรก แต่งตั้งโดยที่ประชุมตั้งบริษัท ม.1108(6)
-กรรมการชุดต่อ ๆ ไป ตั้งจากที่ประชุมใหญ่โดยมติธรรมดา ม.1151 โดยปกติ กรรมการจะพ้นจากตำแหน่งตามวาระ คือ ทุกครั้งที่ประชุมใหญ่สามัญ กรรมการ 1 ใน 3 ต้องออกจากตำแหน่ง โดยในปีแรกและปีที่สอง ถ้าไม่ได้ตกลงกัน ก็ให้จับสลาก ส่วนปีหลัง ๆ ให้กรรมการที่อยู่นานสุดออก ม.1152 , 1153 , 1171
-การพ้นจากตำแหน่ง เพราะลาออก ม.1153/1 , 1155 ความเป็นกรรมการสิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ใบลาออกไปถึงบริษัท โดยกรรมการที่ลาออกจะแจ้งการลาออกไปยังนายทะเบียนก็ได้ แต่เป็นหน้าที่บริษัทที่ต้องจดทะเบียนภายใน 14 วัน
-บริษัทจะเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเพื่อตั้งกรรมการ ม.1151 หรือคณะกรรมการตั้งกรรมการขึ้นทดแทนก็ได้ กรณีตั้งทดแทนมีระยะเวลาเท่าวาระของกรรมการผู้ออกไป ม.1155
-การพ้นจากตำแหน่ง เพราะล้มละลาย (ล้มละลายจริง ไม่ใช่พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด) หรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ ม.1154 บริษัทจะเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเพื่อตั้งกรรมการ ม.1151 หรือคณะกรรมการตั้งกรรมการขึ้นทดแทนก็ได้ กรณีตั้งทดแทนมีระยะเวลาเท่าวาระของกรรมการผู้ออกไป ม.1155
-การพ้นจากตำแหน่ง เพราะถูกถอดถอน ม.1151
--ที่ประชุมใหญ่ถอนโดยอาศัยอำนาจตามม.1151
--กรรมการที่ถูกถอนดังกล่าว อาจถูกตั้งขึ้นตาม มติที่ประชุมใหญ่ ม.1151 , คณะกรรมการ เพราะมีการลาออก ล้มละลาย ไร้ความสามารถ รวมทั้งตาย ขาดคุณสมบัติ ม.1155 , มติที่ประชุมใหญ่อันเนื่องมาจากถอนกรรมการเดิมและตั้งกรรมการใหม่ ม.1156
--เมื่อที่ประชุมใหญ่ถอนแล้ว อาจตั้งกรรมการแทนโดยที่ประชุมใหญ่เองตามม.1156 (ไม่ใช่ ม.1151) หรือคณะกรรมการตั้งกรรมการขึ้นทดแทนก็ได้ ม.1155 ทั้งสองกรณีกรรมการที่ตั้งมีระยะเวลาเท่าวาระของกรรมการผู้ออกไป ม.1155
-กรณีที่กรรมการพ้นจากตำแหน่งพร้อมกันจนไม่เหลือกรรมการ ให้ดำเนินการตามม.73 ผู้ถือหุ้นถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ขอให้ศาลตั้งผู้แทนชั่วคราวได้
3. องค์ประชุมกรรมการและการประชุมกรรมการ
3.1) องค์ประชุม
-กรณีข้อบังคับบริษัทไม่ได้กำหนดเรื่ององค์ประชุมกรรมการ ให้ที่ประชุมเป็นผู้กำหนด หากไม่กำหนด หลักทั่วไปคือเกินกึ่งหนึ่งเป็นองค์ประชุม แต่ถ้าบริษัทมีกรรมการเกิน 3 คน หลักคืออย่างน้อยต้อง 3 คน เป็นองค์ประชุม ตามม.1159 , 1160
-ถ้ากรรมการว่างลง เช่น ลาออก ตาย จนไม่ครบองค์ประชุม กรรมการที่เหลือต้องเรียกประชุมใหญ่วิสามัญตามม.1172 วรรคหนึ่ง เพื่อให้ที่ประชุมใหญ่ตั้งกรรมการตามม.1151 กรรมการจะใช้อำนาจตามม.1155 ไม่ได้ และในที่ประชุมจะพิจารณาเรื่องอื่นโดยไม่แก้ข้อบกพร่องก่อนไม่ได้
3.2) การเรียกประชุม
-กรรมการผู้เรียกประชุม ไม่จำเป็นต้องเป็นประธานกรรมการตามม.1162 , 1163 และจะเรียกโดยวิธีใดก็ได้ ต่างจากม.1175 เรียกประชุมใหญ่
3.3) การลงคะแนน
-ม.1161 ใช้เสียงข้างมาก ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ประธานออกเสียงชี้ขาด
3.4) การเป็นกรรมการเป็นเรื่องเฉพาะตัว
-จะมอบฉันทะ มอบอำนาจให้บุคคลอื่นประชุมแทนไม่ได้ ลงคะแนนแทนไม่ได้
4. หน้าที่และความรับผิดของกรรมการ ม.1168 , 1169
4.1) หน้าที่ใช้ความระมัดระวังในการจัดการงาน มาตรฐานของผู้ประกอบการค้า เอาใจใส่ในกิจการของตน ต้องดำเนินการตามวิชาชีพนั้น ม.1168 วรรคหนึ่ง เช่น เป็นกรรมการธนาคาร ใช้มาตรฐานายธนาคาร ไม่ใช่มาตรฐานของตัวกรรมการ
-ฎ.2191/2541 ม.1168 วรรคสอง หมายถึงกิจการที่จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษมากขึ้น หาได้หมายความว่ากรรมการจะต้องร่วมกันรับผิดเฉพาะกิจการ 4 ประการที่บัญญัติในวรรคสองเท่านั้นไม่
4.2) หน้าที่เฉพาะตามม.1168 วรรคสอง (1)-(4)
-ใช้เงินค่าหุ้นกันจริง ครั้งแรกอย่างน้อยร้อยละ 25 ตามม.1110 วรรคสอง พร้อมส่วนล้ำมูลค่าหุ้น ตามม.1105 วรรคสอง และห้ามหักหนี้กับบริษัท ตามม.1119
-จัดให้มีและเก็บรักษาสมุดบัญชีและเอกสารอื่น เช่น บัญชีเงินสด บัญชีแสดงทรัพย์สิน ม.1206(1)(2) สมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นม.1139
-แจกเงินปันผลหรือดอกเบี้ย เมื่อมีกำไร ที่ประชุมใหญ่อนุมัติม.1201 , 1202
-บังคับการตามมติที่ประชุมใหญ่
4.3) หน้าที่ไม่ค้าขายแข่ง (อาจารย์เพิ่งออกข้อสอบไปเมื่อ2-3ปีที่แล้ว) ม.1168 วรรคสาม
-ห้ามประกอบการค้าขาย สภาพอย่างเดียวกันและแข่งขันกับการค้าขายของบริษัท ในนามตนเองหรือผู้อื่น
-ห้ามเป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดที่ประกอบกิจการสภาพอย่างเดียวกัน และแข่งขันกับกิจการของบริษัท
-หากฝ่าฝืน รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนม.1169
-เว้นแต่ ได้รับความยินยอมของที่ประชุมใหญ่
4.4) ความรับผิดของกรรมการต่อบริษัท*
-หากกรรมการได้กระทำผิดหน้าที่ตามข้อบังคับหรือตามมติที่ประชุมใหญ่ หรือตามม.1168 วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม ข้างต้น จนเกิดความเสียหาย อาจถูกฟ้องให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนได้ตามม.1169 ผู้มีอำนาจฟ้องได้แก่ บริษัท ผู้ถือหุ้น และเจ้าหนี้ของบริษัท
-กรณีผู้ถือหุ้นฟ้อง ต้องเนื่องจากมีการบอกกล่าวให้บริษัทฟ้อง แต่บริษัทไม่ยอมฟ้อง , กรรมการเป็นผู้แทนนิติบุคคล เป็นการฟ้องแทนและเพื่อประโยชน์บริษัท ไม่ใช่เพื่อตนเอง คำขอท้ายฟ้องให้กรรมการรับผิดต่อบริษัท , บริษัทต้องมีสิทธิฟ้อง ถ้าบริษัทฟ้องแล้วผู้ถือหุ้นจะฟ้องอีกไม่ได้ และจะฟ้องขอให้ศาลบังคับเรื่องอื่นนอกจากค่าสินไหมทดแทนไม่ได้
-กรณีเจ้าหนี้บริษัทฟ้อง ม.1169 วรรคสอง ฟ้องได้เท่าที่ยังคงมีสิทธิเรียกร้องแก่บริษัท และค่าสินไหมทดแทนตกแก่บริษัท ต้องเรียกจากบริษัทอีกทอดหนึ่ง
-ข้อยกเว้นความรับผิด หากการที่เกิดความเสียหายได้ทำไปโดยได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่ ไม่ว่าก่อนหรือหลังการกระทำ กรรมการไม่ต้องรับผิดต่อบริษัทหรือผู้ถือหุ้นที่อนุมัติ , ส่วนผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้อนุมัติฟ้องให้รับผิดได้ภายใน 6 เดือนนับแต่วันที่ที่ประชุมใหญ่อนุมัติ ม.1170
5. ประเภทของการประชุมใหญ่ ม.1171 , 1172 , 1173 , 1174
5.1) การประชุมใหญ่สามัญ เช่น รับรองงบการเงิน ตั้งกรรมการ ค่าตอบแทนกรรมการ
-ครั้งแรก ภายใน 6 เดือนนับแต่จดทะเบียนจัดตั้ง
-ครั้งต่อไป อย่างน้อยทุก 12 เดือน
-กรรมการเพียงคนเดียว เรียกประชุมสามัญผู้ถือหุ้นได้ (เพราะการประชุมสามัญ เป็นเรื่องที่ต้องประชุมอยู่แล้ว)
5.2) การประชุมใหญ่วิสามัญ สำหรับเรื่องที่กฎหมายไม่ได้กำหนดให้ต้องเสนอผู้ถือหุ้นประจำปี หรือกรณีเร่งด่วน
-ฎ.1253/2537 การประชุมวิสามัญโดยปกติจะเป็นเรื่องรีบด่วนสำคัญที่ต้องให้ที่ประชุมใหญ่วินิจฉัย ไม่อาจรอจนกว่าจะมีการประชุมสามัญได้ และผู้ถือหุ้นอาจต้องออกเสียงลงมติ
-การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น คณะกรรมการเป็นผู้มีสิทธิเรียกประชุม หรือผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนหุ้น ร้องขอให้กรรมการเรียกประชุม
-คณะกรรมการเรียกประชุม ต้องไม่ใช่กรรมการคนใดคนหนึ่ง
-ฎ.1040/2561 คำว่ากรรมการตามม.1172 วรรคหนึ่ง หมายถึงคณะกรรมการ มิได้หมายถึงกรรมการคนหนึ่งคนใดหรือหลายคน การที่จะเรียกประชุมใหญ่วิสามัญ กรรมการคนหนึ่งคนใดชอบที่จะนัดเรียกประชุมกรรมการเพื่อพิจารณากันเสียก่อนตามที่บัญญัติไว้ในม.1162 มติของคณะกรรมการจะต้องถือเสียงข้างมากเป็นใหญ่ตามที่บัญญัติม.11161 การที่ผู้คัดค้านทั้งสองซึ่งเป็นกรรมการเรียกประชุมใหญ่โดยมิได้กระทำตามขั้นตอนดังกล่าว การนัดเรียกประชุมใหญ่ตลอดจนการประชุมและการลงมติจึงเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
-เหตุที่คณะกรรมการเรียกประชุม ได้แก่ เมื่อเห็นสมควร หรือเมื่อบริษัทขาดทุนถึงกึ่งจำนวนต้นทุน
-กรณีผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนหุ้น ทำหนังสือร้องขอให้กรรมการเรียกประชุม ไม่ต้องดูจำนวนคน หากไม่เรียกประชุมภายใน 30 วัน นับแต่วันยื่นคำร้อง ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 เรียกประชุมเองได้
6. หลักเกณฑ์การประชุม
6.1) การเรียกประชุม ม.1175*
-ให้บอกกล่าวโดยส่งทางไปรษณีย์ตอบรับ โดยส่งก่อนวันนัดประชุมไม่น้อยกว่า 7 วัน ไม่ใช่ไปถึงไม่น้อยกว่า 7 วัน
-ถ้าไม่แจ้งไปยังผู้ถือหุ้นก่อนวันนัด 7 วัน แต่ผู้ถือหุ้นมาประชุมโดยพร้อมเพรียง ถือว่าทราบนัดแล้ว บอกกล่าวชอบ
-ถ้ามีหุ้นชนิดใบหุ้นออกแก่ผู้ถือ ต้องโฆษณาในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่อย่างน้อย 1 ครั้ง หรือในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ก่อนวันนับประชุมไม่น้อยกว่า 7 วัน
-สภาพแห่งกิจการที่ต้องระบุ คือ วาระการประชุมต่าง ๆ เช่น พิจารณางบการเงินประจำปี , กรณีวาระอื่น ๆ ต้องเป็นเรื่องไม่สำคัญ จะใช้เรื่องใหญ่ไม่ได้ จะนำมาใช้ถอดถอนหรือแต่งตั้งกรรมการไม่ได้
***จบการบรรยาย***
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น