สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายหุ้นส่วน บริษัท (ครั้งที่ 5)

สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายหุ้นส่วน บริษัท (ครั้งที่ 5)
อาจารย์วิรัตน์ วิศิษฏ์วงศกร
วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2568
**********

1. ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 ในส่วนของอาจารย์เหลืออีก 2 ครั้ง ซึ่ง 2 ครั้งหน้าค่อนข้างสำคัญ เป็นเรื่องความสัมพันธ์ของห้างหุ้นส่วนกับบุคคลภายนอก , เวลาเจอข้อสอบห้างหุ้นส่วนจำกัดก็มักนำบทบัญญัติห้างหุ้นส่วนสามัญมาใช้ตามม.1080***

2. การลงหุ้นด้วยทรัพย์สิน มี 2 ประเภท
2.1) ให้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินเป็นการลงหุ้น ความเกี่ยวพันกับห้างหุ้นส่วนในเรื่องส่งมอบ ซ่อมแซม ความรับผิดเพื่อชำรุดบกพร่อง ความรับผิดเพื่อการรอนสิทธิ์ ข้อยกเว้นความรับผิด ให้บังคับตาม ป.พ.พ.ว่าด้วยการซื้อขาย ม.1030 เช่น ผู้ลงหุ้นด้วยทรัพย์สินต้องส่งมอบทรัพย์สินให้ห้างต้องไม่ชำรุดบกพร่อง
-แต่บทบัญญัติซื้อขายในส่วนอื่น ไม่นำมาใช้บังคับ เช่น บททั่วไปม.456 (แบบของการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนฯ มิฉะนั้นเป็นโมฆะ) 
-ฎ.794/2536 (กรรมสิทธิ์ตกเป็นของห้างฯ ตั้งแต่เวลาที่นำทรัพย์สินมาลงหุ้น) ม.1030 ที่ว่าความเกี่ยวพันระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนกับห้างหุ้นสวนในเรื่องส่งมอบ ให้บังคับตามบทบัญญัติว่าด้วยการซื้อขายกันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการส่งมอบตัวทรัพย์ หาได้บัญญัติเกี่ยวกับเรื่องกรรมสิทธิ์ไม่ การที่ผู้คัดค้านทั้งห้านำที่ดินและตึกแถว มาลงหุ้นกันตั้งแต่ห้างหุ้นส่วนจำกัดลูกหนี้ที่ 1 ยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ซึ่งลูกหนี้ยังไม่มีสภาพเป็นนิติบุคคลนั้น ถือว่าขณะนั้นลูกหนี้ที่ 1 เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ ตามม.1079 แล้ว กรรมสิทธิ์ในที่ดินและตึกแถวจึงตกเป็นของลูกหนี้ที่ 1 ตั้งแต่เวลาที่ผู้คัดค้านทั้งห้านำที่ดินและตึกแถวมาลงหุ้นแล้ว แม้ผู้คัดค้านทั้งห้าจะไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกหนี้ที่ 1 เมื่อลูกหนี้ที่ 1 เป็นนิติบุคคลแล้วก็ตาม (เป็นฎีกาแรก ๆ ที่วางหลักเรื่องเวลาที่ทรัพย์สินลงหุ้นตกเป็นกรรมสิทธิ์ของห้าง)
-ฎ.84/2532 จำเลยประกอบกิจการโรงสีซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนกับ ง. ผู้ตาย โดยใช้ที่ดินพิพาทมีโฉนดของ ง. เป็นที่ตั้งโรงสีเป็นเวลา 15 ปี ไม่มีหลักฐานทางบัญชีว่าโรงสีเช่าหรืออาศัยที่ดินพิพาท แต่มีการระบุที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์สินในงบดุลของห้าง เมื่อจำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการโรงสี ทำสัญญากู้เงินกับโจทก์มาใช้ในกิจการโรงสี มีใบมอบอำนาจของ ง. มาแสดง โดยระบุโรงสีและที่ดินพิพาทเป็นประกันการชำระหนี้ เมื่อ ง. เสียชีวิต ผู้ร้องทายาทก็ไม่เคยขอจัดการทรัพย์มรดกในส่วนของที่ดินพิพาท ดังนี้แม้ไม่มีการจดทะเบียนโอนโฉนดที่พิพาทมาเป็นทรัพย์สินของห้าง ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนก็ต้องรับผิดร่วมกันโดยไม่จำกัดจำนวนในการชำระหนี้ เมื่อจำเลยถูกฟ้องเกี่ยวกับหนี้สินของห้างหุ้นส่วน และศาลพิพากษาให้ชำระหนี้ แม้โฉนดที่พิพาทจะยังเป็นชื่อของ ง. หุ้นส่วนอีกคนหนึ่ง เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ย่อมมีอำนาจนำยึดที่พิพาทเพื่อบังคับชำระหนี้ได้ ผู้ร้องซึ่งเป็นทายาทของหุ้นส่วนซึ่งมีชื่อในโฉนดที่พิพาทหามีสิทธิร้องขอให้ถอนการยึดได้ไม่ (คดีนี้ต้องนำสืบว่าที่ดินเป็นของห้าง หรือเป็นกรณี ง. ให้นำทรัพย์สินมาใช้) 
2.2) เอาทรัพย์สินมาให้ใช้เป็นการลงหุ้น ทุนที่นำมาลงเป็นทรัพย์สินประเภทสิทธิเรียกร้อง หรือทรัพย์สินที่ไม่มีตัวตน เช่นเดียวกับสัญญาเช่า จึงเปรียบเสมือนห้างเป็นผู้เช่า ทรัพย์สินซึ่งเป็นวัตถุแห่งสิทธินั้นมิได้โอนเป็นของห้าง มูลค่าของการลงหุ้น (ทุนทรัพย์) จึงถือตามค่าตอบแทนที่ห้างได้ใช้ทรัพย์นั้น
-ความเกี่ยวพันกับห้างหุ้นส่วนในเรื่องส่งมอบและซ่อมแซม ความรับผิดเพื่อชำรุดบกพร่อง ความรับผิดเพื่อการรอนสิทธิ ข้อยกเว้นความรับผิด ให้บังคับตามป.พ.พ.ว่าด้วยเช่าทรัพย์ ม.1029 
-เช่น ผู้ลงหุ้นต้องส่งมอบทรัพย์สินในสภาพใช้การได้ดีแล้ว ม.546 , หากเป็นความชำรุดบกพร่องที่ไม่อาจเห็นได้ในขณะส่งมอบ แม้ผู้ลงหุ้นไม่ทราบมาก่อน ก็ยังต้องรับผิดในความชำรุดบกพร่องนั้นตามม.472 + 549 ซึ่งให้นำบทบัญญัติซื้อขายมาใช้โดยอนุโลม
-ฎ.4749/2559 โจทก์กับจำเลยที่ 1 ตกลงทำสัญญาข้อตกลงร่วมทำผลประโยชน์กิจการขายดินลูกรังในที่ดินพิพาท โดยจำเลยที่ 1 ซื้อที่ดินพิพาทมาให้ใช้ในการลงทุน ส่วนโจทก์เป็นผู้ลงแรงดำเนินการขายที่ดินลูกรัง โดยได้รับเงินปันผลร้อยละ 60 จากกำไรหลังหักค่าใช้จ่าย จึงเป็นสัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วน ซึ่งจำเลยที่ 1 เพียงแต่นำที่ดินพิพาทมาให้ใช้เป็นการลงหุ้น มิให้ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทเป็นการลงหุ้น โจทก์จึงมิได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดินพิพาท การที่จำเลยที่ 2 ซึ่งถือกรรมสิทธิ์ที่ดินแทนจำเลยที่ 1 ได้ขายที่ดินพิพาทให้จำเลยที่ 3 และจดทะเบียนเลิกการเช่าที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับที่ 2 เป็นเรื่องระหว่างจำเลยทั้งสาม มิได้เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง , ส่วนที่โจทก์ขอให้คืนทุนทรัพย์ (คืนเฉพาะทรัพย์สินที่นำมาลงทุน ตามม.1062) นั้น โจทก์เป็นหุ้นส่วนที่ลงหุ้นด้วยแรงงานเท่านั้น ไม่ได้มีเงินมาลงทุน และในสัญญาข้อตกลงร่วมทำผลประโยชน์ดังกล่าว ก็มิได้บอกว่าจะแบ่งทุนหรือตีราคาค่าแรงงานเป็นทุนเพื่อคืนให้แก่โจทก์ เมื่อห้างหุ้นส่วนเลิกกัน โจทก์จึงไม่มีสิทธิขอคืนทุนทรัพย์พร้อมดอกเบี้ย (ฎ.817/2476) (การคืนทุนทรัพย์เมื่อเลิกห้าง ไม่ใช่การแบ่งกำไรขาดทุน จึงไม่นำหลักการคำนวณขาดทุนตามสัดส่วนที่ลงหุ้น ตามม.1028 , 1044 มาใช้บังคับ การลงหุ้นด้วยแรงงาน(ทุนสมมุติ)ไม่สามารถเรียกคืนทุนได้)

3. การตีราคาส่วนลงหุ้น
-กรณีเป็นข้อสงสัย ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าสิ่งซึ่งนำมาลงหุ้นด้วยกันนั้นมีค่าเท่ากัน ม.1027
-ใช้เฉพาะกรณีมีข้อสงสัย (เช่น ไม่มีหลักฐานประกอบการตีราคา) และให้ถือเอาราคา ณ วันที่ลงหุ้น
-เช่น ก. ลงหุ้นด้วยเงิน 1 แสน ข. ลงหุ้นด้วยนำรถยนต์มือสองมาให้ใช้ในกิจการ และ ค. ลงหุ้นด้วยแรงงาน ถ้าในคดีผู้มีภาระการพิสูจน์นำสืบไม่ได้ถึงราคาลงหุ้นของ ข. และ ค. ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีค่าเท่ากันคนละ 1 แสน

4. การคำนวณกำไรและขาดทุนระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนด้วยกัน
4.1) ม.1044 ถ้ามิได้ตกลงกันเป็นอย่างอื่น ย่อมเป็นไปตามส่วนที่ลงหุ้น (ถ้าตกลงกันว่าหุ้นส่วนแต่ละคนจะได้กำไร/ขาดทุนกันเท่าไหร่ ก็เป็นไปตามที่ตกลงกัน)
4.2) ม.1045 ถ้าหุ้นส่วนของผู้ใดได้กำหนดไว้แต่เพียงกำไรว่าจะแบ่งเท่าไร หรือกำหนดแต่เพียงขาดทุนว่าจะยอมขาดทุนเท่าไร ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า หุ้นส่วนของผู้นั้นมีส่วนกำไรและส่วนขาดทุนเป็นอย่างเดียวกัน  (การกำหนดสัดส่วนแต่เฉพาะการแบ่งกำไรหรือขาดทุนอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็นำไปใช้กับส่วนกำไรหรือขาดทุนที่มิได้ตกลงกันไว้ด้วย เช่น ตกลงแบ่งกำไรให้ ก.60% ข.40% ไม่ได้ตกลงเรื่องขาดทุน ก็ให้สันนิษฐานว่ามีส่วนขาดทุนเป็นอย่างเดียวกัน ก.60% ข.40%)
4.3) การคำนวณส่วนกำไรกรณีลงหุ้นด้วยแรงงาน
-ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดได้ลงแต่แรงงานของตนเข้าเป็นหุ้น และในสัญญาเข้าหุ้นส่วนมิได้ตีราคาค่าแรงไว้ ให้คำนวณส่วนกำไรของผู้ที่เป็นหุ้นส่วนด้วยลงแรงงานเช่นนั้น เสมอด้วยส่วนถัวเฉลี่ยของผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งได้ลงเงินหรือลงทรัพย์สินเข้าหุ้น ม.1028
-เช่น กิจการมีหุ้นส่วน 4 คน ก.ลงหุ้นด้วยเงิน 1 แสน ข.ลงหุ้นด้วยเงิน 2 แสน ค.ลงหุ้นด้วยรถยนต์ราคา 3 แสน และ ง. ลงหุ้นแต่แรงงานและมิได้ตีราคาไว้ ส่วนถัวเฉลี่ยของหุ้นส่วน 3 คน ที่มิได้ลงแรงงาน เท่ากับ 6 แสน หาร 3 คือ 2 แสน คือการคำนวณส่วนกำไรของ ง. ดังนั้น ถ้าได้กำไร 8 แสน ก็แบ่งกำไร ก. 1 แสน ข. 2 แสน ค. 3 แสน ง. 2 แสน 
-การคำนวณส่วนกำไรของการลงหุ้นด้วยแรงงานตามม.1028 เมื่อพิจารณาประกอบม.1045 การคำนวณส่วนขาดทุนของการลงหุ้นด้วยแรงงาน ก็ต้องถือส่วนถัวเฉลี่ยตามม.1028 เช่นกัน
4.4) ข้อตกลงกำไรและขาดทุน ใช้บังคับระหว่างหุ้นส่วนด้วยกัน แต่ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก หุ้นส่วนแต่ละคนต้องรับผิดโดยไม่จำกัด (หลักลูกหนี้ร่วม)

5. การตั้งผู้จัดการห้างหุ้นส่วน
-ถ้าหุ้นส่วนได้ตกลงกันไว้ ให้หุ้นส่วนคนเดียวหรือหลายคนเป็นผู้จัดการ กรณีตกลงกันไว้ให้หุ้นส่วนหลายคนจัดการห้างหุ้นส่วน หุ้นส่วนผู้จัดการแต่ละคนจะจัดการห้างหุ้นส่วนนั้นก็ได้ แต่จะทำการอันใดซึ่งหุ้นส่วนผู้จัดการอีกคนหนึ่งทักท้วงไม่ได้ ม.1035
-หุ้นส่วนที่มิใช่หุ้นส่วนผู้จัดการไม่มีสิทธิเข้าจัดการใด ๆ
-หุ้นส่วนผู้จัดการอื่นทักท้วงได้ทุกเรื่อง (ต่างกับม.1033 ไม่มีการตั้งหุ้นส่วนผู้จัดการ หุ้นส่วนอื่นทักท้วงการจัดการได้เฉพาะเรื่องการเข้าทำสัญญา)
-ฎ.1382/2519 ห้างหุ้นส่วนจำกัดโจทก์จดทะเบียนผู้เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการไว้ 3 คน โดยไม่มีข้อจำกัดอำนาจ หุ้นส่วนผู้จัดการแต่ละคนจัดการห้างหุ้นส่วนได้ตามม.1035 หุ้นส่วนผู้จัดการ 2 คน ลงชื่อในใบแต่งทนายก็ใช้ได้ หาจำเป็นต้องให้หุ้นส่วนผู้จัดการทั้งสามร่วมทำการแทนไม่

6. การถอดถอนผู้จัดการห้างหุ้นส่วน
-หุ้นส่วนผู้จัดการนั้น จะเอาออกจากตำแหน่งได้ต่อเมื่อผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายยินยอมพร้อมกัน เว้นแต่จะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น ม.1036 จะถอดถอนด้วยเหตุอะไรก็ได้ แต่หุ้นส่วนทุกคนต้องยินยอมพร้อมใจกันถอดถอน
-นอกจากนี้ หุ้นส่วนผู้จัดการอาจพ้นจากตำแหน่งได้ด้วยเหตุอื่น เช่น ลาออก หรือเหตุตามข้อตกลงจัดตั้งห้าง หรือโดยผลของกฎหมายด้วยการตาย ล้มละลาย หรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ ม.1055(5)
-ฎ.3051/2529 (การถอดถอนหุ้นส่วนผู้จัดการกรณีห้างหุ้นส่วนจำกัด) ม.1036 เป็นบทบัญญัติว่าด้วยความเกี่ยวพันระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดด้วยกันเองของห้างหุ้นส่วนสามัญ เมื่อนำมาใช้กับห้างหุ้นส่วนจำกัดตามม.1080 จึงต้องใช้เฉพาะกับผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด ซึ่งมีสิทธิและความรับผิดเช่นเดียวกับผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญเท่านั้น การที่จำเลยที่ 1 หุ้นส่วนผู้จัดการ และจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 หุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดของห้างหุ้นส่วนจำกัด พ. ประชุมลับหลังโจทก์หุ้นส่วนผู้จัดการอีกคนหนึ่ง เพื่อลงมติถอดถอนโจทก์จากการเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ โดยไม่มีข้อบังคับไว้ในสัญญาหุ้นส่วนให้หุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดออกเสียงในการถอดถอนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนได้ ตามม.1088 วรรคสอง โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนมติที่ประชุมดังกล่าวได้ 
-คำสั่งคำร้องศาลฎีกาที่ 1768/2531 แม้หุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดโจทก์ถูกฟ้องเป็นคดีล้มละลาย และศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของหุ้นส่วนผู้จัดการเด็ดขาดแล้ว แต่การจัดกิจการของห้างหุ้นส่วนจำกัดโจทก์หาได้ตกไปอยู่ในอำนาจจัดการของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ด้วยไม่ เมื่อ ช. ยังคงเป็นผู้จัดการของห้างโจทก์อยู่ ย่อมมีอำนาจในการที่จะมอบอำนาจให้ อ. ดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลฟ้องจำเลย พร้อมกับยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาได้ (แนวคำพิพากษาฎีกาล้มละลาย หมายถึงถูกศาลพิพากษาล้มละลาย ไม่ใช่เพียงถูกพิทักษ์ทรัพย์)

7. สิทธิของหุ้นส่วนที่มิได้เป็นผู้จัดการห้างหุ้นส่วน
-ม.1037 แม้หุ้นส่วนทั้งหลายตกลงให้มีหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนนอกจากผู้จัดการย่อมมีสิทธิตรวจสอบและควบคุมการจัดการงานได้ ดังนี้
  --สิทธิที่จะไต่ถามถึงการงานของห้างหุ้นส่วนได้ทุกเมื่อ
  --สิทธิที่จะตรวจและคัดสำเนาสมุด บัญชี และเอกสารใด ๆ ของห้างหุ้นส่วนได้ด้วย
-ฎ.11556/2557 (สิทธิไต่ถามกระทำได้ทุกเมื่อ แต่สิทธิตรวจสอบเอกสารจะต้องใช้สิทธิเมื่อมีเหตุอันสมควรด้วย) แม้โจทก์เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดอาจไต่ถามการงานของห้างหุ้นส่วนจำกัดได้ทุกเมื่อ และตรวจดูและคัดสมุดบัญชี เอกสารของห้างหุ้นส่วนจำกัดตามม.1037 ประกอบม.1080 แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่ามีเหตุสมควรหรือไม่ ซึ่งต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไป เมื่อจำเลยซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการให้การว่า โจทก์มีตำแหน่งในการบริหารห้างหุ้นส่วนจำกัดอยู่ด้วย ย่อมทราบกิจการงานของห้างอยู่แล้ว การที่โจทก์ฟ้องขอตรวจดูและคัดสำเนาเอกสารนับแต่โจทก์จำเลยเข้าหุ้นในห้างถึงปัจจุบัน โดยจำเลยปฏิเสธว่าโจทก์ไม่เคยขอต่อจำเลยมาก่อน และโจทก์ประสงค์เพื่อให้จำเลยเสียหาย เสียชื่อเสียงทางการค้า เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ศาลชั้นต้นจึงต้องฟังพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายให้ทราบข้อเท็จจริงเสียก่อนมีคำสั่ง

***จบการบรรยาย***

ความคิดเห็น

10 บทความยอดนิยมประจำสัปดาห์

แนวข้อสอบ พนักงานราชการ (ข้อ 1 - 10)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (30 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ชุดที่ 1)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 (55 ข้อ)

สาระสำคัญ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (ฉบับเตรียมสอบ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 (20 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.การคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2557

แนวข้อสอบ ระเบียบฯ สารบรรณ (ชุดที่ 3)