สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายหุ้นส่วน บริษัท (ครั้งที่ 1)
สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายหุ้นส่วน บริษัท (ครั้งที่ 1)
อาจารย์วิรัตน์ วิศิษฏ์วงศกร
วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม 2568
**********
1. องค์กรทางธุรกิจ คือ โครงสร้างหรือรูปแบบทางกฎหมายที่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลจัดตั้งขึ้น เพื่อดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการแสวงหาผลกำไร
1.1 นิติบุคคล (ตามกฎหมายจัดตั้ง)
1) ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล
2) ห้างหุ้นส่วนจำกัด
3) บริษัทจำกัด (บริษัทเอกชน)
4) นิติบุคคลรูปแบบอื่น ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะ เช่น บริษัทมหาชนจำกัด , รัฐวิสาหกิจ , สหกรณ์ , นิติบุคคลอื่นตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ
1.2 ไม่เป็นนิติบุคคล (แต่เมื่อประกอบพาณิชยกิจ จึงอาจต้องจดทะเบียนตาม พ.ร.บ.ทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499
1) กิจการเจ้าของคนเดียว เช่น การค้าเร่ , แผงลอย , ร้านค้าปลีก , ทำไร่ , ทำนา
2) ห้างหุ้นส่วนสามัญ (ไม่จดทะเบียน)
3) รูปแบบอื่น ๆ เช่น กิจการ SME , วิสาหกิจชุมชน , กิจการร่วมค้า (Joint Venture) , ธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise)
2. รูปแบบนิติบุคคล มีกฎหมายรับรองสถานะ ม.65 ให้เป็นนิติบุคคล แยกต่างหากจากผู้ก่อตั้งหรือผู้ถือหุ้น นิติบุคคลสามารถเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ฟ้องร้องหรือถูกฟ้องร้อง และทำสัญญาในนามตนเองได้ เช่น ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด
3. รูปแบบไม่เป็นนิติบุคคล อาจดำเนินธุรกิจในรูปแบบเจ้าของคนเดียว หรือกลุ่มบุคคล เช่น ห้างหุ้นส่วนสามัญ ไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคลแยกจากผู้เป็นหุ้นส่วน
4. บทบัญญัติทั่วไปของนิติบุคคล
-ม.65 นิติบุคคลจะมีขึ้นได้ก็แต่ด้วยอาศัยอำนาจแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น
-ม.66 นิติบุคคลย่อมมีสิทธิและหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น ภายในขอบแห่งอำนาจหน้าที่หรือวัตถุประสงคดังได้บัญญัติหรือกำหนดไว้ในกฎหมาย ข้อบังคับหรือตราสารจัดตั้ง
-ม.70 นิติบุคคลต้องมีผู้แทน... วรรคสอง ความประสงค์ของนิติบุคคลย่อมแสดงออกโดยผู้แทนของนิติบุคคล
-ฎ.259/2526 โรงแรม ป. จำเลยที่ 1 ก่อสร้างขึ้นโดยการรวมทุนของบุคคล 4 คน รวมทั้งจำเลยที่ 2 เข้าหุ้นกัน โดยทุกคนได้มอบอำนาจให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการกิจการ ไม่ปรากฏว่าเป็นห้างหุ้นส่วนที่ได้จดทะเบียน คงมีแต่หลักฐานการขอจดทะเบียนการค้าตามประมวลรัษฎากรเท่านั้น ดังนั้น โรงแรมดังกล่าวจึงเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ ซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนหมดทุกคนต้องรับผิดร่วมกัน เพื่อหนี้สินทั้งปวงของห้างโดยไม่จำกัดจำนวน โรงแรมจำเลยที่ 1 ไม่เป็นนิติบุคคล ไม่อาจฟ้องหรือถูกฟ้องคดีได้ ดังนั้น โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 ได้ ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งและเป็นผู้จัดการกิจการของโรงแรมจำเลยที่ 1 โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 ได้
5. การจดทะเบียนตามกฎหมาย มีการจดทะเบียนตามขั้นตอนทางกฎหมาย เพื่อให้มีสภาพความเป็นนิติบุคคล หรือได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
-ม.1015 ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทเมื่อได้จดทะเบียนตามบัญญัติแห่งลักษณะนี้แล้ว ท่านจัดว่าเป็นนิติบุคคลต่างหากจากผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นทั้งหลายซึ่งรวมเข้ากันเป็นห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้น
-ฎ.1096/2505 แม้บริษัท ป. โจทก์ เป็นนิติบุคคลจดทะเบียนตามกฎหมายต่างประเทศ ก็มีอำนาจฟ้องคดีในศาลไทยได้ และมีอำนาจตั้งผู้แทนฟ้องคดีได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 1 (11) , 55 , 60 วรรคสอง และ ป.พ.พ. มาตรา 824 ทั้งโจทก์มีอำนาจมอบให้นิติบุคคลในต่างประเทศซึ่งมีสำนักงานสาขาในประเทศไทยขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้
6. ความรับผิดชอบ
-ความรับผิดจำกัด เช่น ผู้ถือหุ้นในบริษัทจำกัด รับผิดเฉพาะเงินลงทุน ไม่ต้องใช้ทรัพย์สินส่วนตัวชำระหนี้บริษัท
-ความรับผิดไม่จำกัด เช่น กิจการเจ้าของคนเดียว หรือหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด เจ้าของหรือหุ้นส่วนนั้น ต้องรับผิดชอบหนี้ทั้งหมดด้วยทรัพย์สินส่วนตัว
7. โครงสร้างการบริหารจัดการ
-กฎหมายกำหนดกรอบการบริหาร เช่น บริษัทต้องมีคณะกรรมการบริษัท (Board of Directors) และต้องจัดประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี
-ห้างหุ้นส่วนอาจมีข้อตกลงระหว่างหุ้นส่วน (Partnership Agreement) เป็นกฎเกณฑ์ภายใน
![]() |
อาจารย์วิรัตน์ วิศิษฏ์วงศกร |
![]() |
อาจารย์วิรัตน์ วิศิษฏ์วงศกร |
![]() |
อาจารย์วิรัตน์ วิศิษฏ์วงศกร |
***จบการบรรยาย***
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น