การทำงานโดยไม่อยู่ใต้อำนาจบังคับบัญชา-ลงโทษวินัย ไม่ใช่สัญญาจ้างแรงงาน ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2239/2564)


การพิจารณาสถานะความเป็นลูกจ้างนายจ้าง จะต้องพิจารณาถึงอำนาจบังคับบัญชา และอำนาจลงโทษวินัยด้วย ดังตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีนี้

ข้อเท็จจริงปรากฏว่า นาย อ. ทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยบรรณาธิการข่าวของจำเลย ได้รับค่าจ้างเดือนละ 30,000 บาท กำหนดจ่ายทุกวันที่ 25 ของเดือน ต่อมาจำเลยเสนอให้ นาย อ. และเพื่อนร่วมงาน ทำสัญญาใหม่เป็นสัญญาจ้างทำของ นาย อ. และเพื่อนร่วมงานไม่ยินยอม เป็นเหตุให้จำเลยเลิกจ้างนาย อ. และเพื่อนร่วมงานดังกล่าว นาย อ. จึงฟ้องเรียกค่าเสียหาย ประกอบด้วย
  - ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม 450,000 บาท
  - ค่าเสียหายจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายประกันสังคม 32,250 บาท
  - ค่าเสียหายจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 38,700 บาท
  - ค่าเสียหายจากการเสียสิทธิในการรักษาพยาบาลตามประกันภัยกลุ่ม 43,000 บาท
  - จ่ายเงินเพิ่มพิเศษหรือโบนัสประจำปี 90,000 บาท

จำเลยให้การว่า ไม่ได้ทำสัญญาจ้างนาย อ. เป็นลูกจ้าง เป็นการจ้างเหมาทำงานฟรีแลนซ์ (Freelance) การทำงานไม่อยู่ภายใต้ระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลย

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การทำงานของนาย อ. ไม่ต้องมีการบันทึกเวลาเข้าออก นาย อ. ไม่มีบัตรประจำตัวพนักงานเช่นเดียวกับลูกจ้างของจำเลย นาย อ. จะมาทำงานหรือไม่ก็ได้ หากไม่มาก็ไม่ต้องยื่นใบลาตามระเบียบข้อบังคับการทำงานของจำเลย และไม่ต้องถูกลงโทษตามระเบียบข้อบังคับการทำงานของจำเลย แสดงว่า นาย อ. ไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจบังคับบัญชาของจำเลย นิติสัมพันธ์ระหว่าง นาย อ. และจำเลย ไม่ใช่สัญญาจ้างแรงงาน

ดังนี้ นาย อ. ไม่เป็นลูกจ้างของจำเลยที่จะมีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากการผิดสัญญาจ้าง อันเป็นค่าเสียหายจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายประกันสังคม ค่าเสียหายจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ค่าเสียหายจากการเสียสิทธิได้รับการประกันภัยกลุ่ม และค่าเสียหายจากการไม่ได้รับเงินเพิ่มพิเศษหรือโบนัสประจำปี รวมทั้งค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม

ที่มา
- คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2239/2564. เนติบัณฑิตยสภา, หนังสือคำพิพากษาฎีกา ประจำพุทธศักราช 2564 ตอนที่ 4, หน้า 950 - 956

- ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 
  มาตรา 575 บัญญัติว่า "อันว่าจ้างแรงงานนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่าลูกจ้าง ตกลงจะทำงานให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่านายจ้าง และนายจ้างตกลงจะให้สินจ้างตลอดเวลาที่ทำงานให้"

- พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 
  มาตรา 5 บัญญัติว่า ในพระราชบัญญัตินี้
  “สัญญาจ้าง” หมายความว่า สัญญาไม่ว่าเป็นหนังสือหรือด้วยวาจาระบุชัดเจน หรือเป็นที่เข้าใจโดยปริยาย ซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่าลูกจ้างตกลงจะทำงานให้แก่บุคคลอีกบุคคลหนึ่งเรียกว่านายจ้าง และนายจ้างตกลงจะให้ค่าจ้างตลอดเวลาที่ทำงานให้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมประจำสัปดาห์

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 (55 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (30 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539

สาระสำคัญ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (ฉบับเตรียมสอบ)

กฎกระทรวงกำหนดกรณีอื่นที่เจ้าหน้าที่จะทำการพิจารณาทางปกครองไม่ได้ พ.ศ. 2566

การส่งเด็กเข้าเรียนตามกฎหมาย

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ชุดที่ 1)

แนวข้อสอบ ระเบียบฯ สารบรรณ (ชุดที่ 3)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 (20 ข้อ)