บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2025

สัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก (ฎ.10942-10943/2558)

ในการทำสัญญาเช่า การที่ จำเลยร่วมผู้ให้เช่า ตกลงกับ จำเลยที่ 2 ผู้เช่า ว่า จำเลยร่วมตกลงยอมรับผิดต่อผู้โดยสารในรถยนต์ที่นำมาให้เช่าและบุคคลภายนอก ในความเสียหายที่จำเลยที่ 1 ลูกจ้างจำเลยที่ 2 กระทำละเมิดขับรถยนต์ที่เช่าไปก่อความเสียหายขึ้น เป็นสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374  ไม่ถือว่าเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ไม่มีผลบังคับตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ.2540  และไม่ใช่ความตกลงที่ทำไว้ล่วงหน้าเป็นข้อความยกเว้นมิให้จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดเพื่อกลฉ้อฉลหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของตนในอันจะถือว่าเป็นโมฆะ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา 373 เนื่องจากจำเลยที่ 2 ก็ยังต้องรับผิดต่อโจทก์ทั้งสองในเหตุละเมิดที่จำเลยที่ 1 กระทำขึ้นในครั้งนี้  เมื่อเป็นสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก การที่จำเลยที่ 1 ลูกจ้างจำเลยที่ 2 กระทำละเมิดในทางการที่ว่าจ้าง โดยขับรถยนต์กระบะที่เช่าไปก่อความเสียหายแก่โจทก์ทั้งสอง จำเลยที่ 2 ในฐานะคู่สัญญา จึงมีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยร่วมชดใช้ค่าเสียหายที่จำเลยที่ 1 กระทำละเมิดต่อ...

นิติบุคคลอาคารชุด ปล่อยให้ท่อระบายน้ำอุดตัน เป็นการกระทำละเมิด (ฎ.4493/2543)

พระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. 2522 ต้องการให้เจ้าของกรรมสิทธิ์ในห้องชุดอันเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคลสามารถใช้สิทธิในห้องชุดได้ตามสิทธิของตน แต่ทรัพย์ส่วนกลางถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์รวมระหว่างเจ้าของห้องชุดซึ่งมีไว้เพื่อใช้หรือเพื่อประโยชน์ร่วมกัน   ทั้งกฎหมายและข้อบังคับของนิติบุคคลอาคารชุด ล้วนกำหนดให้เป็นหน้าที่ของนิติบุคคลอาคารชุดจำเลยที่ 1 ต้องดูแลรักษาทรัพย์สินส่วนกลางของอาคารชุด เมื่อสาเหตุที่น้ำท่วมห้องชุดของโจทก์เพราะน้ำฝนเอ่อล้นจากท่อรับน้ำภายในอาคารชุด เนื่องจากท่อรวมรับน้ำอุดตัน ซึ่งจำเลยที่ 1 มีหน้าที่ดูแลให้ท่อระบายน้ำดังกล่าวระบายน้ำได้ตลอดเวลา   แม้โจทก์มิได้นำสืบว่าเหตุใดท่อน้ำจึงอุดตัน และจำเลยที่ 1 ได้กระทำอย่างไรกับสิ่งอุดตันนั้นหรือบริเวณที่อุดตันนั้นไม่อาจตรวจพบได้โดยง่าย ก็ถือได้ว่าเป็นการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1 แล้ว เพราะ จำเลยที่ 1 ได้เก็บเงินค่าดูแลรักษาทรัพย์สินส่วนกลาง แล้วว่าจ้างบริษัทเอกชนที่มีอาชีพในการบริหารอาคารชุดมาทำหน้าที่แทน เมื่อบริษัทดังกล่าวละเว้นหน้าที่โดยประมาทเลินเล่อปล่อยให้ท่อระบายน้ำอุดตันจนน้ำท่วมห้องชุดของโจทก์ เช่นนี้ ย่อมเป็นการกระทำละเมิ...

อายุความเรียกค่าทดแทนในการเปิดทางจำเป็น ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะ จึงมีอายุความ 10 ปี (ฎ.313/2567)

การเรียกร้องค่าทดแทนเป็นสิทธิของเจ้าของที่ดินที่ล้อมอยู่ เพื่อชดเชยความเสียหายอันที่เกิดแต่เหตุที่มีทางผ่านนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1349 วรรคสี่  โจทก์ทั้งสามจึงมีสิทธิที่จะฟ้องเรียกค่าทดแทนการใช้ที่ดินจากจำเลยเป็นคดีต่างหากได้ หากศาลในคดีก่อนวินิจฉัยชี้ขาดให้จำเลยได้สิทธิทางจำเป็นใช้ทางผ่านบนที่ดินของโจทก์ทั้งสาม โดยโจทก์ทั้งสามไม่จำต้องฟ้องแย้งเรียกค่าทดแทนมาในคำให้การ  เมื่อข้อเท็จจริงได้ความตามทางนำสืบของคู่ความว่า มีการบังคับคดีเปิดทางจำเป็นตามคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีก่อนเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2555 โจทก์ทั้งสามจึงชอบที่จะใช้สิทธิเรียกร้องค่าทดแทนการใช้ทางจำเป็นบนที่ดินของโจทก์ทั้งสาม นับตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2555  อายุความสิทธิเรียกร้องค่าทดแทนของโจทก์ทั้งสาม จึงเริ่มนับแต่วันดังกล่าว   เมื่อ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือกฎหมายอื่นมิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะในเรื่องอายุความใช้ค่าทดแทนในการเปิดทางจำเป็นไว้ จึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา 193/30  เมื่อนับระยะเวลานับแต่วันที่มีการเปิดใช้ทางจำเป็น จนถึงวันที่โจท...

เลิกสัญญาแล้ว แต่งานที่ลูกหนี้ทำไว้ เจ้าหนี้ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ ไม่ถือเป็นงานที่ทำ (ฎ.2835/2566)

เมื่อโจทก์ใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว ย่อมมีผลให้โจทก์และจำเลยทั้งสองต้องกลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคหนึ่ง  แต่เนื่องจากจำเลยทั้งสองทำการงานให้แก่โจทก์แล้วบางส่วน จึงไม่อาจกลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิมได้ กรณีจึงต้องบังคับตามมาตรา 391 วรรคสาม ที่บัญญัติว่า ส่วนที่เป็นการงานอันได้กระทำให้นั้น การที่จะชดใช้คืน ให้ทำได้ด้วยใช้เงินตามควรค่าแห่งการนั้น ๆ  เมื่อโจทก์และจำเลยทั้งสองยังมีข้อโต้เถียงกันเกี่ยวกับการงานที่ได้ทำไปแล้ว กรณีจึงมีข้อพิจารณาว่า ค่าแห่งการงานที่จำเลยทั้งสองทำให้โจทก์นั้นมีเพียงใด   เห็นว่า สัญญาว่าจ้างผลิตเครื่องสำอางแบบเบ็ดเสร็จที่โจทก์ทำกับจำเลยทั้งสองมีลักษณะเป็นการเฉพาะ มุ่งประสงค์ถึงผลสำเร็จของงานเป็นสำคัญ คือผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่เสร็จสมบูรณ์พร้อมที่โจทก์สามารถนำไปวางจำหน่ายได้  แต่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองยังไม่เคยผลิตเครื่องสำอางเป็นผลสำเร็จและส่งมอบผลงานให้แก่โจทก์ตามสัญญาได้แม้แต่ชิ้นเดียว แม้จำเลยทั้งสองจะได้ดำเนินการคิดค้น วิเคราะห์วิจัย และพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางให้โจทก์จนสามารถนำไปขอจดแ...

ตกลงกันให้ชำระค่าเช่าภายหลังเลิกสัญญากันแล้ว ไม่ได้ (ฎ.1574/2566)

สัญญาเช่าข้อ 10.3 กำหนดว่า ในกรณีที่ผู้เช่าบอกเลิกสัญญาก่อนหมดอายุสัญญา โดยมิได้เป็นความผิดของผู้ให้เช่า ผู้เช่าต้องรับผิดชอบชำระค่าเช่าทั้งหมดตลอดอายุสัญญาเช่า สอดคล้องกับข้อ 3.2 ซึ่งกำหนดว่า หากสัญญาเช่าสิ้นสุดก่อนครบกำหนดระยะเวลาการเช่า โดยเหตุจากการกระทำผิดสัญญาของผู้เช่าหรือผู้เช่าขอเลิกสัญญาเช่าก่อนกำหนดระยะเวลา ผู้เช่าตกลงให้ผู้ให้เช่ามีสิทธิยึดเงินประกันได้ทั้งจำนวน นอกจากนี้สัญญาเช่าข้อ 11 ยังระบุว่า เมื่อสัญญาสิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุครบกำหนดสัญญาแล้ว ไม่มีการต่อสัญญาออกไปตามข้อ 9 หรือโดยการบอกเลิกสัญญาตามข้อ 10 หรือด้วยเหตุอื่นใด ผู้ให้เช่ามีสิทธิดังต่อไปนี้ ข้อ 11.1 ผู้ให้เช่ามีสิทธิกลับเข้าครอบครองทรัพย์สินที่เช่าได้ทันที โดยมิจำเป็นต้องบอกกล่าวให้ผู้เช่าทราบก็ได้ ในกรณีเช่นนี้ผู้ให้เช่ามีสิทธิครอบครองยึดหน่วง และขนย้ายทรัพย์สินทั้งปวงที่อยู่ในทรัพย์สินที่เช่าออกไป รวมทั้งมีสิทธิดำเนินการให้ผู้อื่นเช่าทรัพย์สินที่เช่าต่อไปด้วย และสัญญาจ้างบริการข้อ 8 ยังกำหนดให้โจทก์มีสิทธิยึดเงินประกันการใช้บริการได้ในกรณีสัญญาจ้างบริการสิ้นสุดโดยเหตุแห่งการผิดสัญญาของจำเลย  แสดงให้เห็น...

แม้มีข้อความว่ามีแนวโน้มจะตกลงกันได้ แต่พฤติการณ์อื่นมีความชัดเจนที่สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลสมบูรณ์ (ฎ.3237/2567)

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 บัญญัติว่า "อันว่าประนีประนอมยอมความนั้น คือ สัญญาซึ่งผู้เป็นคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายระงับข้อพิพาทอันใดอันหนึ่ง ซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นนั้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน"  ตามรายงานการประชุมการไกล่เกลี่ยครั้งที่ 3 ปรากฏข้อความในช่องรายการอื่น ๆ ว่า โจทก์ตกลงถอนฟ้อง โดยจำเลยทั้งสองเสนอให้ขายที่ดินพิพาทในราคาไม่ต่ำกว่า 30,000,000 บาท ภายใน 1 ปี หากไม่มีผู้ซื้อ จำเลยที่ 2 ตกลงเป็นผู้ซื้อเอง เมื่อขายที่ดินพิพาทได้แล้ว จำเลยทั้งสองจะแบ่งเงินที่ได้จากการขายที่ดินตามสัดส่วนการถือหุ้นของโจทก์ให้แก่โจทก์ แต่จะจ่ายให้โจทก์ไม่ต่ำกว่า 8,500,000 บาท  และในวันเดียวกันโจทก์และจำเลยทั้งสองต่างยื่นคำร้องขอถอนฟ้องและถอนฟ้องแย้ง ศาลแพ่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องและจำเลยทั้งสองถอนฟ้องแย้ง และจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ  กรณีเช่นนี้ย่อมถือได้ว่า โจทก์และจำเลยทั้งสองต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันที่จะระงับข้อพิพาทที่มีอยู่เดิมตามคำฟ้อง คำให้การ ฟ้องแย้ง และคำให้การแก้ฟ้องแย้ง โดยโจทก์และจำเลยทั้งสองต่างมีเจตนามุ่งหมายให้มีการบังคับต่อกันตามบันทึกข้อตกลงที่ปรากฏในราย...

ผู้ให้เช่าซื้อรถยนต์ ส่งมอบรถโดยไม่จัดหาป้ายทะเบียนและป้ายวงกลม ผู้เช่าซื้อมีสิทธิไม่ชำระค่าเช่าซื้อ (ฎ.951/2544)

โจทก์ผู้ให้เช่าซื้อต้องส่งมอบทรัพย์สินซึ่งให้เช่าซื้อ โดยมีสภาพที่เหมาะสมแก่การใช้ประโยชน์ เมื่อรถพิพาทยังมิได้ทำทะเบียนและแผ่นป้ายวงกลม โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องจัดหาให้แก่จำเลย เพราะเอกสารดังกล่าว เป็นสาระสำคัญในการใช้รถโดยจะต้องเป็นผู้จัดอำนวยความสะดวกในการจดทะเบียน เพื่อใช้รถที่เช่าซื้อตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อ   การที่โจทก์ส่งมอบรถพิพาทให้แก่จำเลยมีสภาพไม่เหมาะสมที่จะใช้ โดยไม่จัดหาป้ายทะเบียนและป้ายวงกลมให้แก่จำเลย โจทก์จึงต้องรับผิดต่อจำเลย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 472 ประกอบมาตรา 549 เนื่องจากสัญญาเช่าซื้อเป็นสัญญาต่างตอบแทน  เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะไม่ชำระค่าเช่าซื้อได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 369 การที่จำเลยไม่ชำระค่าเช่าซื้อให้แก่โจทก์ จึงไม่ถือว่าจำเลยผิดนัด ที่มา ระบบสืบค้นคำพิพากษา คำสั่งคำร้องและคำวินิจฉัยศาลฎีกา

ผลของคำสนอง

คำสนอง ทำให้เกิดผล 5 ประการ 1. ก่อให้เกิดสัญญา  หากคำสนองถูกต้องตรงกันกับคำเสนอทุกประการ โดยปราศจากข้อความเพิ่มเติม ข้อจำกัด หรือข้อแก้ไขอย่างอื่น ที่มีลักษณะเป็นการต่อรอง และอยู่ภายในระยะเวลาที่กำหนดแล้ว สัญญาย่อมเกิดขึ้นทันที 2. ผลต่อการถอนคำสนอง   - หากคำสนองยังไปไม่ถึงผู้เสนอ ผู้สนองย่อมสามารถถอนคำสนองของตนได้ โดยบอกถอนคำสนองไปถึงก่อนหรือพร้อมกับคำสนองนั้น - หากคำสนองไปถึงผู้เสนอแล้ว ผู้สนองไม่สามารถถอนได้อีกเลย เพราะถือว่าสัญญาเกิดขึ้นแล้ว 3. ผู้สนองแสดงเจตนาสนองแล้วตายหรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ เมื่อได้แสดงเจตนาทำคำสนองไปแล้ว แม้ต่อมาผู้สนองถึงแก่ความตายหรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ และผู้เสนอได้รู้ถึงความตายหรือการตกเป็นผู้ไร้ความสามารถก่อนที่คำสนองนั้นจะไปถึง ก็ไม่มีผลให้คำเสนอและคำสนองนั้นสิ้นผลไป 4. คำสนอง อาจกลายเป็นคำเสนอใหม่ได้   - กรณีคำสนองที่มาถึงล่วงเวลา แม้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 357 จะกำหนดให้คำเสนอต้องมีอันสิ้นไปและไม่ก่อให้เกิดสัญญาขึ้น แต่มาตรา 359 วรรคหนึ่ง ได้บัญญัติข้อยกเว้นไว้ให้ถือว่าคำสนองนั้นกลายเป็นคำเสนอใหม่ได้ ดังนั้น หากผู้เสนอเดิมพ...

ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ ไม่ใช่สิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมสัญญาค้ำประกัน (ฎ.4238/2559)

สัญญาค้ำประกันเป็นกรณีที่ผู้ค้ำประกันเข้าผูกพันตนต่อเจ้าหนี้ เพื่อชำระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้น การที่ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้จึงเป็นข้อที่คาดเห็นว่าอาจจะเกิดขึ้นได้และผู้ค้ำประกันยังคงเข้าผูกพันตนต่อเจ้าหนี้เพื่อชำระหนี้แทนลูกหนี้   การที่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้เพราะเหตุใด ไม่ใช่ข้อที่ผู้ค้ำประกันจะนำมาอ้างเพื่อไม่ชำระหนี้แทนลูกหนี้ ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ จึงไม่ใช่สิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมสัญญาค้ำประกันที่ผู้ค้ำประกันจะถือเป็นเงื่อนไขว่าจะทำสัญญาค้ำประกันหรือไม่ หากผู้ค้ำประกันอ้างได้ว่าถ้ารู้ว่าลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ก็จะไม่เข้าทำสัญญาค้ำประกัน ความรับผิดของผู้ค้ำประกันตามสัญญาค้ำประกันย่อมไม่อาจมีขึ้นได้ ซึ่งขัดต่อวัตถุประสงค์ของลักษณะสัญญาค้ำประกัน ผู้ค้ำประกันจึงไม่อาจอ้างว่าหากผู้ค้ำประกันรู้ว่าลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ผู้ค้ำประกันก็จะไม่เข้าทำสัญญาค้ำประกัน การแสดงเจตนาเข้าทำสัญญาของผู้ค้ำประกันโดยไม่รู้เรื่องความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ จึงไม่ถือว่าเป็นการแสดงเจตนาเพราะถูกกลฉ้อฉลอันเป็นโมฆียะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 159 วรรค...

ประชดว่าปลดหนี้ โดยลูกหนี้ไม่รู้ว่าประชด หนี้ระงับ (ฎ.6757/2560)

จำเลยทำสัญญากู้ยืมเงินโจทก์ 595,500 บาท ตกลงชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือน จำเลยได้รับเงินที่กู้ยืมครบถ้วนแล้ว หลังจากทำสัญญาจำเลยไม่ชำระต้นเงิน คงชำระดอกเบี้ย 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 6,550 บาท  การที่ โจทก์ส่งข้อความทางเฟสบุ๊คถึงจำเลยมีใจความว่า เงินทั้งหมด 670,000 บาท ไม่ต้องส่งคืน ยกให้หมด ไม่ต้องส่งดอกอะไรมาให้ จะได้ไม่ต้องมีภาระหนี้สินติดตัว   การส่งข้อมูลดังกล่าวเป็นการสนทนาผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ถือว่าเป็นการส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ จึงต้องนำพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 มาตรา 7 ถึงมาตรา 9 มาใช้บังคับด้วย  แม้ข้อความนี้จะไม่มีการลงลายมือชื่อโจทก์ก็ตาม แต่การส่งข้อความทางเฟสบุ๊คจะปรากฏชื่อผู้ส่งด้วยและโจทก์ก็ยอมรับว่าได้ส่งข้อความถึงจำเลยจริง  ข้อความการสนทนา ดังกล่าวจึงรับฟังได้ว่า เป็นการแสดงเจตนาปลดหนี้ให้แก่จำเลยโดยมีหลักฐานเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 340 แล้ว หนี้ตามสัญญากู้ยืมย่อมระงับ   การที่โจทก์อ้างว่า โจทก์ไม่มีเจตนาที่จะปลดหนี้ให้จำเลย แต่ทำไปเพราะความเครียดต้องการประชดประชันจำเลยนั้น โจทก...

แนวทางปฏิบัติการย้ายพนักงานราชการประเภททั่วไปภายในส่วนราชการระดับกรม

คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ (คพร.) ได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าเพื่อประโยชน์ในการบริหารทรัพยากรบุคคลของส่วนราชการ ให้มีความยืดหยุ่น คล่องตัว และสามารถเคลื่อนย้ายกำลังคนให้สอดคล้องกับบทบาทภารกิจที่เปลี่ยนแปลงไป จึงมีมติกำหนดแนวทางปฏิบัติและหลักเกณฑ์การย้ายพนักงานราชการประเภททั่วไปภายในส่วนราชการระดับกรม และการแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาจ้างพนักงานราชการ ดังนี้ หลักการย้ายพนักงานราชการ       การย้ายพนักงานราชการประเภททั่วไปภายในส่วนราชการระดับกรม มีเจตนารมณ์เพื่อประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารอัตรากำลังของส่วนราชการ ให้มีความยืดหยุ่น คล่องตัว เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และใช้อัตรากำลังพนักงานราชการที่มีอยู่ของส่วนราชการให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีหลักการในการย้ายพนักงานราชการ ดังนี้     1. การย้ายพนักงานราชการภายในส่วนราชการระดับกรม ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ     2. การย้ายพนักงานราชการต้องไม่ทำให้จำนวนกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการและค่าตอบแทนพนักงานราชการเฉลี่ยโดยรวมเพิ่มขึ้น รวมถึงไม่กระทบกับสิทธิประโยชน์ของพนักงานราชการที่ได้รับอยู่เดิม ...

ต้องเปิดเผยข้อมูลคะแนนของผู้ที่ได้รับการคัดเลือก ให้แก่ผู้ที่ไม่ได้รับการคัดเลือก (คำวินิจฉัยที่ สค 313/2567)

นาย ก. ได้ส่งเรื่องประกอบการพิจารณาย้ายผู้บริหารสถานศึกษา แต่ไม่ได้รับการคัดเลือกให้ย้าย จึงมีความประสงค์ขอข้อมูลงบหน้ารายละเอียดตัวชี้วัด และคะแนนการประเมินตามองค์ประกอบการย้ายผู้บริหารสถานศึกษาที่มีคะแนนทุกตัวชี้วัด ของตนเอง และของนาง ข. ซึ่งเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกให้ย้าย หน่วยงานของรัฐที่ดำเนินการคัดเลือกดังกล่าว ได้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับนาย ก. ผู้อุทธรณ์ แต่ปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารในส่วนของนาง ข. นาย ก. จึงมีหนังสือถึงประธานกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ อุทธรณ์คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารดังกล่าว คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดินและการบังคับใช้กฎหมาย พิจารณาแล้ว เห็นว่านาง ข. ซึ่งเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา ซึ่งนาย ก. ผู้อุทธรณ์ ได้ยื่นคำร้องขอย้ายไปดำรงตำแหน่ง ณ โรงเรียนดังกล่าวเช่นกัน แต่ไม่ได้รับการคัดเลือก ผู้อุทธรณ์จึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียจากกรณีนี้โดยตรง สมควรได้รับทราบผลคะแนนต่าง ๆ ของผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งดังกล่าว เพื่อการตรวจสอบและเปรียบเทียบ จากข้อเท็จ...

การให้ทนายความหรือบุคคลภายนอกเข้าร่วมดำเนินคดีกับพนักงานอัยการ

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบาย สำนักงานอัยการสูงสุุด ครั้งที่ 5/2545 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2545 พิจารณาเห็นว่า เป็นการสมควรที่จะปรับปรุงระบบงานยุติธรรมของสำนักงานอัยการสูงสุด ให้สอดคล้องเหมาะสมกับการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม จึงมีมติให้ยกเลิกหนังสือกรมอัยการ (ที่ มท 1002/1084 ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2510 เรื่อง การจ้างบุคคลภายนอกเป็นทนายเข้าร่วมดำเนินคดีกับพนักงานอัยการ) และให้ถือปฏิบัติในเรื่องการให้ทนายความหรือบุคคลภายนอกเข้าร่วมดำเนินคดีแก้ต่างกับพนักงานอัยการ ดังต่อไปนี้ ในคดีแพ่งหรืออาญาหรือปกครอง ซึ่งเจ้าพนักงานถูกฟ้องในเรื่องการที่ได้กระทำไปตามหน้าที่ ซึ่งพนักงานอัยการรับแก้ต่างคดีไว้แล้ว หากตัวความแสดงความประสงค์ขอแต่งตั้งทนายความหรือบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมแก้ต่างคดีกับพนักงานอัยการ ให้หัวหน้าพนักงานอัยการพิจารณาอนุญาตให้กระทำได้ ในกรณีที่มีทนายความหรือบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมแก้ต่างคดีกับพนักงานอัยการ ถ้าพนักงานอัยการเห็นว่าทนายความหรือบุคคลภายนอกจะกระทำหรือละเว้นการกระทำใด ๆ ให้คดีของพนักงานอัยการเสียหาย ให้พนักงานอัยการพิจารณาขอให้ทนายความหรือบุคคลภายนอกละเว้นหรือกระทำการนั้น ๆ ได้ หากท...

สำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมและเกิดจากกลฉ้อฉลในขณะเดียวกัน (ฎ.6103/2545)

โจทก์ตกลงขายที่ดินให้แก่จำเลยที่ 1 โดยสำคัญผิดในราคาที่ดินเพราะถูกนายหน้าหลอกลวง ซึ่งจำเลยที่ 1 รู้หรือควรจะได้รู้ถึงการหลอกลวงดังกล่าว  การที่โจทก์สำคัญผิดในเรื่องราคาทรัพย์สินที่ตกลงซื้อขายกัน แม้มิใช่สำคัญผิดในลักษณะของนิติกรรมหรือตัวบุคคลซึ่งเป็นคู่กรณีหรือทรัพย์สินซึ่งเป็นวัตถุแห่งนิติกรรม แต่ราคาทรัพย์สินที่ตกลงซื้อขายกันย่อมมีความสำคัญมากพอกับตัวทรัพย์สินซึ่งเป็นวัตถุแห่งนิติกรรม จึงถือว่าโจทก์แสดงเจตนาทำนิติกรรมโดยสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญของนิติกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 156 เมื่อนิติกรรมซื้อขายที่ดินเกิดจากการแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมและเกิดจากกลฉ้อฉลในขณะเดียวกัน แต่ผลทางกฎหมายต่างกัน  กล่าวคือ นิติกรรมที่เกิดจากการแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมมีผลเป็น โมฆะ ตามมาตรา 156 แต่นิติกรรมที่เกิดจากการแสดงเจตนาเพราะถูกกลฉ้อฉลมีผลเป็น โมฆียะ ตามมาตรา 159 จึงต้องถือว่านิติกรรมเป็นโมฆะ เพราะเป็นผลดีต่อผู้แสดงเจตนาทำนิติกรรมโดยบกพร่องยิ่งกว่าเป็นโมฆียะ ที่มา ระบบสืบค้นคำพิพากษา คำสั่งคำร้องและคำวิ...

ผู้ค้ำประกันไม่แจ้งย้ายที่อยู่ และไม่มีผู้รับหนังสือบอกกล่าวการผิดนัด (ฎ.3263/2562)

"การแสดงเจตนาแก่บุคคลซึ่งมิได้อยู่เฉพาะหน้า มีผลทันทีนับแต่เวลาที่การแสดงเจตนาไปถึงผู้รับการแสดงเจตนา โดยไม่คำนึงว่าผู้รับการแสดงเจตนาจะได้ทราบการแสดงเจตนาแล้วหรือไม่" เมื่อตามสัญญาค้ำประกัน ข้อ 8 ระบุว่า ผู้ค้ำประกันตกลงว่าในกรณีที่ธนาคารมีหนังสือแจ้งหรือบอกกล่าวเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวกับการค้ำประกันตามหนังสือสัญญานี้ หรือตามกฎหมาย หากส่งไปยังผู้ค้ำประกัน ณ ที่อยู่ข้างต้นของหนังสือสัญญานี้ หรือส่ง ณ สถานที่ซึ่งผู้ค้ำประกันแจ้งให้ธนาคารทราบเป็นหนังสือภายหลัง ให้ถือว่าธนาคารได้แจ้งหรือบอกกล่าวเป็นหนังสือให้ผู้ค้ำประกันทราบโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว  เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 เคยแจ้งย้ายให้โจทก์ทราบ ดังนั้น ที่พนักงานไปรษณีย์นำหนังสือทวงถามของโจทก์ไปส่งให้จำเลยที่ 2 ตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในสัญญา อันเป็นการส่งอย่างเป็นทางการ แม้จะไม่พบจำเลยที่ 2 และไม่มีผู้รับไว้โดยระบุว่าย้ายไม่ทราบที่อยู่ใหม่ แสดงว่าจำเลยที่ 2 มีเจตนาหลีกเลี่ยงไม่รับหนังสือบอกล่าวของโจทก์ และถือได้ว่าหนังสือบอกกล่าวการผิดนัดของโจทก์ได้ ไปถึงจำเลยที่ 2   และมีผลเป็นการบอกกล่าวโดยชอบ ที่มา อาจารย์บวรศักดิ์ ทวิพัฒน์ รวม...

สมคบกันทำสัญญากู้ยืมและสัญญาประนีประนอมยอมความ เพื่อโกงเจ้าหนี้ สัญญาตกเป็นโมฆะ (ฎ.701/2553)

จำเลยที่ 1 และที่ 2 สมคบกันทำสัญญากู้ยืมเงินฉบับลงวันที่ 30 กันยายน 2541 จำนวนเงิน 500,000 บาท และฉบับลงวันที่ 30 เมษายน 2542 จำนวนเงิน 200,000 บาท โดยมิได้เป็นหนี้กันจริง   แล้วดำเนินคดีและบังคับคดีตามคำพิพากษาตามยอมในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 42/2545 ของศาลชั้นต้นต่อที่ดินโฉนดเลขที่ 47781 พร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 1 เพื่อมิให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1142/2544 ของศาลชั้นต้น บังคับคดีต่อทรัพย์สินดังกล่าวได้   การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการจงใจทำผิดกฎหมาย อันเป็นความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 สัญญากู้ยืมเงินทั้ง 2 ฉบับและสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีแพ่ง หมายเลขแดงที่ 42/2545 ของศาลชั้นต้น จึงมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายและขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ตกเป็นโมฆะ  ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 โดยไม่ต้องเพิกถอน ที่มา ระบบสืบค้นคำพิพากษา คำสั่งคำร้องและคำวินิจฉัยศาลฎีกา

ผู้พิทักษ์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนคนเสมือนไร้ความสามารถ (ฎ.5720/2546)

ตามมาตรา 34 (10) ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ คนเสมือนไร้ความสามารถฟ้องคดีแพ่งและคดีอาญาได้ด้วยตนเอง โดยต้องได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์ก่อน  ดังนั้น ผู้พิทักษ์จึงมีอำนาจหน้าที่เพียงให้ความยินยอมหรือไม่ให้ความยินยอมแก่คนเสมือนไร้ความสามารถในการฟ้องคดีเท่านั้น แต่ไม่มีบทบัญญัติใดในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ให้อำนาจผู้พิทักษ์ฟ้องคดีแทนคนเสมือนไร้ความสามารถ ผู้พิทักษ์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนคนเสมือนไร้ความสามารถ  การที่โจทก์ลงลายมือชื่อแต่งทนายความและบรรยายฟ้องว่าโจทก์ในฐานะผู้พิทักษ์ของ ข. คนเสมือนไร้ความสามารถ อันเป็นการฟ้องคดีแทน ข. โดยไม่ได้รับมอบอำนาจให้ดำเนินคดีแทนแต่อย่างใด โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

ดัชนีสืบค้นความเห็นของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (รายมาตรา)

รูปภาพ
กองกฎหมายปกครอง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้จัดทำดังชีสืบค้นความเห็นของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (รายมาตรา) เพื่อให้การสืบค้นข้อมูลสะดวก รวดเร็วขึ้น เช่น หากต้องการข้อมูลว่าคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองได้มีความเห็นเกี่ยวกับมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ไว้ในเรื่องใดบ้าง ก็สามารถสืบค้นได้สะดวกขึ้นครับ ดัชนีสืบค้น รายมาตรา ดัชนีสืบค้น อนุบัญญัติ ✅   คลิกดาวน์โหลด ดัชนีสืบค้นความเห็นของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (รายมาตรา) ✅ ลิงก์สืบค้นความเห็นของคณะกรรมการฯ

นิติบุคคลมอบอำนาจร้องทุกข์ (ฎ.1590/2530)

แม้การร้องทุกข์มิใช่การทำนิติกรรม แต่การมอบอำนาจให้ไปร้องทุกข์แทนโจทก์ โจทก์ก็ต้องทำให้ถูกต้องตามข้อบังคับของบริษัทโจทก์ที่ได้จดทะเบียนไว้  บริษัทโจทก์จดทะเบียนไว้ว่าจำนวนกรรมการที่ลงชื่อผูกพันบริษัทได้ คือ กรรมการจำพวก ก. 1นาย กับกรรมการจำพวก ข. 1 นาย  เมื่อกรรมการโจทก์เพียงผู้เดียวลงชื่อมอบอำนาจให้ ก. ไปร้องทุกข์ การมอบอำนาจจึงไม่ผูกพันบริษัทโจทก์ การกระทำของ ก. ไม่ผูกพันโจทก์ ในทางกลับกันบริษัทโจทก์ไม่สามารถถือเอาการกระทำของ ก. เป็นของโจทก์ได้  เมื่อโจทก์ไม่ได้ร้องทุกข์ ในคดีความผิดต่อ พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ภายในสามเดือนนับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด คดีโจทก์ก็ขาดอายุความ

กรอกข้อความเอกสารไม่สมบูรณ์ ไม่ใช่เอกสารสิทธิ (ฎ.5089/2565)

ใบถอนเงินฝากมีเพียงลายมือชื่อปลอมของผู้เสียหาย ยังไม่ได้กรอกจำนวนเงินที่ขอถอน ส่วนใบมอบฉันทะด้านหลังก็มีเพียงลายมือชื่อปลอมของผู้เสียหาย ยังมิได้กรอกข้อความว่ามอบฉันทะให้ผู้ใดเป็นผู้รับเงินที่ขอถอน จึงเป็นเอกสารที่ข้อความยังไม่สมบูรณ์ มิใช่เอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ ถือไม่ได้ว่าเป็นเอกสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1 (9)   การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม คงเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมเท่านั้น ที่มา ระบบสืบค้นคำพิพากษา คำสั่งคำร้องและคำวินิจฉัยศาลฎีกา

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งให้ส่งเงินเข้ากองทรัพย์สิน ไม่มีสภาพบังคับให้เกิดความเสียหาย (ฎ.3440/2567)

การที่ผู้คัดค้าน ( เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์)  ทำรายงานความเห็นและมีหมายแจ้งให้โจทก์คืนเงิน 2,500,000 บาท เข้ากองทรัพย์สินในคดีล้มละลาย เป็นการกระทำในขั้นตอนของการจัดการกิจการและทรัพย์สินของจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นอำนาจของผู้คัดค้านแต่เพียงผู้เดียว ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 22 และ 24  ซึ่งตามรายงานความเห็นและหมายแจ้งของผู้คัดค้านดังกล่าว เป็นเพียงการแจ้งข้อเท็จจริงประกอบข้อกฎหมายให้โจทก์ทราบ แม้ในตอนท้ายจะมีข้อความขอให้โจทก์คืนเงินจำนวนดังกล่าวภายใน 30 วัน นับแต่ได้รับหมายนี้ ก็มิได้มีลักษณะเป็นคำสั่งหรือคำวินิจฉัยชี้ขาดที่กฎหมายบัญญัติให้โจทก์ต้องปฏิบัติตาม   รายงานความเห็นและหมายแจ้งของผู้คัดค้านดังกล่าวจึงหามีสภาพบังคับแก่โจทก์ไม่   แม้ต่อมาหากปรากฏว่าผู้คัดค้านดำเนินคดีแก่โจทก์ ก็ยังไม่เป็นการแน่นอนว่าโจทก์ต้องคืนเงินจำนวนดังกล่าวเข้ากองทรัพย์สินในคดีล้มละลาย เพราะศาลอาจมีคำวินิจฉัยหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่นได้   ลำพังรายงานความเห็นและหมายแจ้งของผู้คัดค้านที่แจ้งไปยังโจทก์ดังกล่าว จึงยังไม่เป็นการกระทำหรือคำวินิจฉัยของผู้คัดค้านที่ทำให้โจทก์ได้รับควา...

เวนคืนที่ดิน ไม่ใช่การซื้อขายที่เป็นนิติกรรมโดยสมัครใจ (ฎ.3093/2559)

การเวนคืนที่ดินเพื่อนำไปใช้ก่อสร้างคลองชลประทาน เป็นการใช้อำนาจรัฐเวนคืนที่ดินเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในกิจการสาธารณูปโภค และเป็นการใช้อำนาจรัฐบังคับเอาทรัพย์สินของเอกชนเพื่อประโยชน์ของรัฐ โดยเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินเดิมไม่มีสิทธิตัดสินใจว่าจะยินยอมหรือไม่ ทั้งไม่อาจกำหนดหรือต่อรองราคาที่ตนเองพอใจได้ เพราะเป็นเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายมหาชน   เช่นนี้ แม้การจดทะเบียนโอนที่ดินใช้คำว่า ซื้อขาย ก็ไม่ใช่การซื้อขายที่เป็นนิติกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 453 ซึ่งจะต้องเกิดจากการกระทำด้วยความสมัครใจและมุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ของคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตามมาตรา 149 จึงไม่อาจนำกฎหมายเรื่องการแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในสาระสำคัญของนิติกรรมตามมาตรา 156 อันเป็นหลักของกฎหมายเอกชนมาใช้บังคับได้ ที่มา เว็บฎีกาศึกษา