สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายมรดก (ครั้งที่ 2-3)
สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายมรดก (ครั้งที่ 2-3)
อาจารย์ธีรศักดิ์ เงยวิจิตร
วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม 2568
**********
1. อาจารย์ขอทบทวนครั้งที่แล้ว เราดูความหมายของกองมรดก ทรัพย์สิน สิทธิ ต้องมีก่อนตาย
1) เว้นแต่ตามกฎหมายเป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้ (กฎหมายเขียนไว้)
-สิทธิเก็บกิน ม.1418 วรรคท้าย
-ผู้ยืมใช้คงรูป ม.648 (แต่ผู้ให้ยืมตาย ไม่ใช่เรื่องเฉพาะตัว เป็นมรดก)
-สิทธิในความเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ ม.1055
-สิทธิในความเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนจำกัด ม.1080 วรรคหนึ่ง+ม.1055(5) (หุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดตาย ไม่ใช่เรื่องเฉพาะตัว ทายาทเข้าเป็นหุ้นส่วนแทน ม.1092+ม.1093)
(ผู้ถือหุ้นตาย สิทธิในความเป็นผู้ถือหุ้น ไม่ใช่เรื่องเฉพาะตัว หุ้นเป็นมรดก)
2) เว้นแต่โดยสภาพเป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้ (ไม่มีบัญญัติในกฎหมาย แต่เป็นเรื่องหน้าที่ความรับผิดหรือสิทธิอาศัยคุณสมบัติของผู้ตายเป็นสาระสำคัญ)
-สิทธิในการได้รับใบอนุญาตขับขี่
-สิทธิในการประทานบัตรเหมืองแร่
-สิทธิบอกล้างสัญญาระหว่างสมรส ม.1469
2. กรณีสัญญาต่าง ๆ เมื่อคู่สัญญาตาย สิทธิหน้าที่ตามสัญญาเป็นมรดกหรือไม่
1) ถ้าเป็นสัญญาเกี่ยวกับทรัพย์สิน เป็นมรดก เพราะไม่ใช่เรื่องเฉพาะตัว
-สัญญาเช่าซื้อ มุ่งที่ตัวทรัพย์เป็นสำคัญ ไม่ว่าผู้เช่าซื้อหรือผู้ให้เช่าซื้อตาย สิทธิหน้าที่ตามสัญญาเป็นมรดก
2) ถ้าเป็นสัญญาที่เพ่งเล็งถึงคุณสมบัติของคู่สัญญาเป็นสำคัญ ถ้าตาย สิทธิหน้าที่ระงับ
-สัญญาเช่าทรัพย์ ผู้ให้เช่าจะให้เช่าโดยคำนึงถึงคุณสมบัติของผู้เช่าเป็นสาระสำคัญ ไม่ว่าเช่านานแค่ไหน ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ และผู้เช่าจะให้เช่าช่วงหรือโอนสิทธิการเช่าโดยผู้ให้เช่าไม่ยินยอมไม่ได้ ม.544 ผู้เช่าตาย สิทธิตามสัญญาเช่าระงับ ไม่เป็นมรดก (แต่ถ้าผู้ให้เช่าตาย สัญญาไม่ระงับ ทายาทของผู้ให้เช่ารับไป ต้องยอมให้ผู้เช่าใช้ทรัพย์จนกว่าจะครบระยะเวลา)
*ในเรื่องนี้มีคำพิพากษาศาลฎีกาอยู่เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ ฎ.11058/2559 (ป) ทำสัญญาเช่า 30 ปี ทำเป็นหนังสือจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีข้อตกลงว่า ผู้ให้เช่าตกลงให้ผู้เช่าเอาที่ดินที่เช่าออกให้เช่าช่วงได้ (ข้อตกลงยกเว้น ม.544) แต่ผู้เช่าตายก่อนครบ 30 ปี ผู้ให้เช่าจึงฟ้องขับไล่ทายาทของผู้เช่าและเรียกทรัพย์สินคืน โดยอ้างว่าสัญญาเช่าระงับเพราะความตายของผู้เช่า ทายาทของผู้เช่าไม่คืนโดยอ้างว่ายังไม่ครบระยะเวลา 30 ปี ศาลวินิจฉัยว่าเมื่อสัญญาเช่ามีข้อยกเว้นยอมให้เช่าช่วงได้ แสดงว่าผู้ให้เช่าไม่ได้คำนึงถึงคุณสมบัติของตัวผู้เช่าเป็นสาระสำคัญแล้ว (ไม่ว่าใครจะใช้ทรัพย์ ก็ยอมรับได้) เมื่อสิทธิการเช่ายังไม่ครบระยะเวลา 30 ปี ผู้ให้เช่าไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่ทายาท (ทายาทของผู้เช่าสามารถใช้สิทธิตามสัญญาเช่าตามระยะเวลาที่เหลือได้)
3. ดอกผลของทรัพย์มรดก เป็นมรดกหรือไม่ และมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยต่อว่าทายาทยักย้ายดอกผลของทรัพย์มรดก จะถูกกำจัดมิให้รับมรดก ม.1605 หรือไม่
1) ดอกผล (ทั้งดอกผลธรรมดา เช่น ลูกวัวออกจากท้องแม่วัว ผลไม้หลุดจากต้น และดอกผลนิตินัย) เกิดขึ้นหลังเจ้ามรดกตาย ดอกผลนั้นไม่ใช่ทรัพย์มรดก
-เงินฝาก 1 ล้านบาท เป็นทรัพย์มรดก หลังจากเจ้ามรดกตาย เกิดดอกเบี้ย 1 แสนบาท ดอกเบี้ยไม่ใช่มรดก
-ม้าแข่งเป็นทรัพย์มรดก หลังจากเจ้าของม้าแข่งตาย ม้าตกลูกออกมา 1 ตัว ลูกม้าเป็นดอกผล เกิดหลังเจ้ามรดกตาย ไม่ใช่มรดก
2) ดอกผลที่เกิดมานั้น ใครเป็นเจ้าของ ก็ใช้หลักกรรมสิทธิ์ทั่วไป ม.1336
-ถ้ามรดกแบ่งทายาทแล้ว ใครเป็นเจ้าของทรัพย์ใด ก็เป็นเจ้าของดอกผลในทรัพย์นั้น
-ถ้ากองมรดกยังไม่ได้แบ่งแก่ทายาท ทายาททุกคนจึงเป็นเจ้าของรวมในกองมรดกนั้น จึงเป็นเจ้าของรวมสำหรับดอกผลที่เกิดขึ้นด้วย ม.1360 วรรคสอง
-รายได้จากการประกอบกิจการของทรัพย์มรดก เช่น ร้านตัดผม เกิดรายได้จากร้านตัดผม ไม่เป็นมรดก
3) เมื่อดอกผลไม่ใช่มรดก ก็ไม่เข้า ม.1605 ทายาทไม่ถูกกำจัดมิให้รับมรดก
4. ตาย
1) เมื่อบุคคลใดตาย มรดกของบุคคลนั้นตกทอดแก่ทายาท ม.1599 วรรคหนึ่ง
2) ตายโดยผลของกฎหมาย ม.62 มรดกตกทอดแก่ทายาท ม.1602 วรรคหนึ่ง
-ม.1501 การสมรสสิ้นสุดลงได้ 3 กรณี คือ ตาย (ตายจริงเท่านั้น) หย่า และศาลพิพากษาให้เพิกถอน (กรณีสามีหรือภริยาถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ ไม่ทำให้การสมรสสิ้นสุดลง เป็นเพียงเหตุให้คู่สมรสอีกฝ่ายฟ้องให้ศาลพิพากษาให้หย่ากัน ม.1516(5) เคยออกสอบเนติ*)
3) การตายโดยสาบสูญ ถ้าต่อมาผลการตายเปลี่ยนไป
-ม.1602 วรรคท้าย ถ้าพิสูจน์ได้ว่าคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ หรือตายในเวลาอื่นผิดไปจากเวลาที่ระบุในคำสั่งให้เป็นคนสาบสูญ ให้ใช้ ม.63 บังคับแก่ทายาท คือ ศาลสั่งถอนคำสั่งให้เป็นคนสาบสูญ แต่คำสั่งถอน ไม่กระทบถึงความสมบูรณ์ถึงการที่ทำไปโดยสุจริตในระหว่างเวลาที่ศาลมีคำสั่งให้เป็นคนสาบสูญจนถึงเวลาถอน
-กรณีเพิกถอนเพราะพิสูจน์ได้ว่าคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ สิ่งที่ทายาทเคยได้รับที่เรียกว่ามรดก ต้องคืนให้คนนั้นไป
-กรณีเพิกถอนเพราะพิสูจน์ได้ว่าตายจริงในเวลาอื่นที่ไม่ใช่เวลาที่เป็นคนสาบสูญ ทายาทก็ต้องเอาทรัพย์มรดกมาคืน เพื่อแบ่งใหม่ให้แก่ทายาทที่มีสิทธิรับมรดก ณ วันเวลาที่ตายจริง
-กรณีการที่ทำโดยสุจริตระหว่างที่ศาลมีคำสั่งให้เป็นคนสาบสูญจนถึงคำสั่งเพิกถอน ม.63 วรรคท้าย คนที่ได้ทรัพย์สินเนื่องจากศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ แต่ต่อมาต้องเสียสิทธิเพราะศาลสั่งถอน ให้นำเรื่องลาภมิควรได้มาใช้ คือ ม.406-ม.419 (กรณีเงิน ถ้าใช้โดยสุจริต คืนเงินส่วนที่เหลืออยู่ขณะเมื่อเรียกคืน ม.412 ถ้าใช้โดยไม่สุจริต ต้องคืนเต็มจำนวน , กรณีทรัพย์สินอื่นที่ไม่ใช่เงิน คืนตามสภาพที่เป็นอยู่ ไม่ต้องรับผิดในการที่ทรัพย์สินสูญหาย บุบสลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเพื่อการสูญหาย บุบสลาย ก็ต้องคืน แต่ถ้าการคืนทรัพย์สินตกเป็นพ้นวิสัย เพราะสภาพแห่งทรัพย์สินที่ได้รับหรือเหตุอื่น และได้รับไว้โดยสุจริต ต้องคืนเท่าที่มีอยู่ในขณะเมื่อเรียกคืน ม.413 , ม.414 , กรณีทรัพย์มรดกเกิดดอกผล ผู้ได้รับทรัพย์สินโดยสุจริต ย่อมได้ดอกผลตลอดระยะเวลาที่ยังสุจริต ม.415 วรรคหนึ่ง)
5. ทายาท
1) ม.1603 ทายาทมี 2 ประเภท ทายาทตามกฎหมายเรียกว่าทายาทโดยธรรม กับ ทายาทที่มีสิทธิตามพินัยกรรมเรียกว่าผู้รับพินัยกรรม
-เจ้ามรดกตาย มีทายาทโดยธรรม และได้ทำพินัยกรรมไว้ จะแบ่งมรดกให้ใครก่อน? ม.1620 ถ้าพินัยกรรมสมบูรณ์บังคับได้ ให้แบ่งตามเจตนาของผู้ตายคือแบ่งตามพินัยกรรมก่อน ถ้าแบ่งพินัยกรรมแล้ว กองมรดกยังมีทรัพย์มรดกเหลือ ค่อยนำมาแบ่งให้ทายาทโดยธรรม
-กรณีผู้รับพินัยกรรมเป็นทายาทโดยธรรมด้วย (มี 2 ฐานะ) การรับมรดกตามพินัยกรรมแล้ว ไม่ตัดสิทธิที่จะรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรม ม.1621
2) ทายาทโดยธรรม ม.1629 เป็นบุคคลธรรมดา
3) ทายาทผู้รับพินัยกรรมเป็นใครก็ได้ตามเจตนาของผู้ทำพินัยกรรม
-ถ้าผู้รับพินัยกรรมเป็นนิติบุคคล ต้องมีสถานะเป็นนิติบุคคลขณะเจ้ามรดกตายหรือพินัยกรรมมีผลบังคับ ถ้าขณะเจ้ามรดกตาย นิติบุคคลถูกเพิกถอนไปแล้ว อย่างนี้ก็รับมรดกไม่ได้ ยกเว้นการตั้งมูลนิธิตามพินัยกรรม ม.1678 ผู้ตายทำพินัยกรรมให้ตั้งมูลนิธิและจัดสรรทรัพย์ให้เป็นของมูลนิธิที่จะจัดตั้ง (มูลนิธิจดทะเบียนนิติบุคคลหลังความตาย แต่ ม.1678 บัญญัติไว้เป็นการเฉพาะ) , บางกรณีต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของนิติบุคคลด้วย เช่น ทำพินัยกรรมยกเงินให้วัด ไม่มีปัญหา แต่ถ้าทำพินัยกรรมยกปืนให้วัด น่าจะขัด ต้องดูวัตถุประสงค์ วัดจะเอาปืนไปทำอะไร
6. มรดกตกทอดแก่ทายาททันทีที่ถึงแก่ความตาย ตามผลของกฎหมาย (ไม่ให้เกิดช่องว่างในการเป็นเจ้าของทรัพย์) ไม่ต้องร้องขอให้ศาลสั่งให้เป็นทายาท
1) คนสาบสูญ ไม่ได้ถือว่าตายวันที่ศาลมีคำสั่ง ให้ถือว่าตายเมื่อครบระยะเวลาที่จะร้องขอให้เป็นคนสาบสูญ ม.61 คือเมื่อครบ 5 ปี หรือเมื่อครบ 2 ปี แล้วแต่กรณี
2) กรณีทรัพย์มรดกเป็นทรัพย์มีทะเบียน ก็ถือว่าตกทอดแก่ทายาททันที แม้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงชื่อทางทะเบียน
-ทรัพย์มรดกเป็นที่ดิน ทายาทยังไม่เปลี่ยนชื่อทางทะเบียน ก็ใช้สิทธิฟ้องขับไล่คนที่บุกรุกที่ดินได้เลย
-ผู้ตายมีหุ้นในบริษัท ทายาทยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อในทะเบียนผู้ถือหุ้น ทายาทผู้ถือหุ้นร้องศาลให้เพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ได้ ม.1195
7. ทายาทหลายคน
-มรดกตกแก่ทายาททุกคนทันที เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกันชั่วระยะเวลาหนึ่ง จนกว่าจะมีการแบ่งมรดกเสร็จ ม.1745
-การตกทอดของมรดก (ตกแก่ทายาทโดยผลของกฎหมาย) กับ การรับมรดก (ทายาทคนใดอาจเสียสิทธิไม่ได้รับมรดก อาจถูกกำจัดมิให้รับมรดกก็ได้) ความหมายไม่เหมือนกัน
8. อาจารย์ย้ำครั้งที่แล้วอีกกรณี ม.1601 มีแนวคำพิพากษาศาลฎีกา ทายาทจะยก ม.1601 ตัดฟ้องเจ้าหนี้ของกองมรดก ในชั้นพิจารณาของศาลไม่ได้ แต่มีสิทธิยกขึ้นปฏิเสธความรับผิดในชั้นบังคับคดีได้ (หนี้ส่วนที่เกินจากทรัพย์มรดก ตกเป็นพับแก่เจ้าหนี้)
1) ม.1734 เจ้าหนี้กองมรดก ชอบจะได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินในกองมรดกเท่านั้น จึงไม่สามารถบังคับจากทรัพย์สินอื่นได้
2) ม.1738 ก่อนแบ่งมรดก เจ้าหนี้กองมรดกจะบังคับชำระหนี้เต็มจำนวนจากกองมรดกก็ได้ , เมื่อแบ่งมรดกแล้ว เจ้าหนี้อาจเรียกให้ทายาทคนใดคนหนึ่งรับผิดได้ไม่เกินทรัพย์มรดกที่ทายาทคนนั้นได้รับ , กรณีทายาทคนใดรับผิดต่อเจ้าหนี้เกินกว่าส่วนที่ตนต้องเฉลี่ยใช้หนี้ ทายาทคนนั้นมีสิทธิไล่เบี้ยจากทายาทคนอื่นได้
3) ตัวอย่าง ก. เจ้ามรดก มีหนี้กับนายแดง 300,000 บาท มีทรัพย์มรดก 90,000 บาท มีทายาท 3 คน คือ ข , ค , ง
-ทรัพย์มรดกยังไม่ได้แบ่ง นายแดงฟ้อง ข. คนเดียว ให้รับผิด 300,000 บาท ได้ เป็นการฟ้องกองมรดกให้รับผิด 90,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 210,000 บาท ข. อ้าง ม.1601 ชั้นบังคับคดีขึ้นปฏิเสธได้ ตกเป็นพับแก่เจ้าหนี้
-หากมีการแบ่งทรัพย์มรดกแล้ว แบ่งให้ ข. ค. และ ง. คนละ 30,000 บาท แต่นายแดงฟ้อง ข. คนเดียว เช่นนี้ ป.วิ.พ. เจ้าหนี้ที่จะบังคับคดีต้องบังคับจากลูกหนี้ที่เป็นคู่ความในคดีเท่านั้น นายแดงจะบังคับหนี้จาก ค. และ ง. ไม่ได้ (หากมีการแบ่งมรดกแล้ว เจ้าหนี้ควรต้องฟ้องทายาททุกคน เพราะจะมีผลในชั้นบังคับคดี)
9. มรดกหลายอย่าง ถ้ามีมรดกหลายชิ้น เจ้าหนี้จะบังคับจากมรดกชิ้นไหนก่อน
-ม.1740 ระบุลำดับการชำระหนี้ของเจ้าหนี้กองมรดก
10. ทายาทที่มีสิทธิรับมรดก
1) ม.1604 บุคคลธรรมดาจะเป็นทายาท (ทั้งทายาทโดยธรรมและผู้รับพินัยกรรม) ได้ เมื่อมีสภาพบุคคลหรือสามารถมีสิทธิ (ทารกในครรภ์) ตาม ม.15 ในเวลาที่เจ้ามรดกถึงแก่ความตาย , เด็กที่เกิดมารอดอยู่ภายใน 310 วัน นับแต่เวลาที่เจ้ามรดกตาย เป็นทารกในครรภ์มารดาอยู่ในเวลาที่เจ้ามรดกตาย
2) ม.1627 บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้ว (การรับรอง ไม่มีรูปแบบ เช่น รับรองโดยการแสดงออกอย่างบิดามีต่อบุตรโดยเปิดเผย ระบุในสูติบัตรว่าเป็นบิดา ,ให้ใช้นามสกุล , แสดงออกให้คนในหมู่บ้านในชุมชนรู้ว่าเป็นลูก , ส่งเสียให้การศึกษาให้การอุปการะเลี้ยงดู) ให้ถือเป็นผู้สืบสันดานเหมือนบุตรชอบด้วยกฎหมาย คือ ถ้าบิดาตาย บุตรประเภทนี้ให้รับมรดกในลำดับผู้สืบสันดานเหมือนบุตรชอบด้วยกฎหมาย กรณีนี้ไม่ใช่การจดทะเบียนรับรองบุตร บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองไม่ทำให้เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดา
*คำถาม การรับรอง บุตรจะต้องมีสภาพบุคคลแล้ว หรือรับรองในขณะเป็นทารกในครรภ์ ได้หรือไม่
มีแนวคำพิพากษาศาลฎีกา การรับรองบุตรนอกกฎหมาย สามารถรับรองได้ตั้งแต่เป็นทารกในครรภ์ เช่น ชายหญิงอยู่กินโดยไม่จดทะเบียนสมรส หญิงตั้งครรภ์ ชายแสดงออกว่าเป็นพ่อเด็กในครรภ์ ต่อมาชายตายขณะตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน ต่อมาอีก 4 เดือน เด็กคลอด ถือเป็นบุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรอง เด็กเป็นทายาทตาม ม.1604
3) ม.1547+ม.1557 การจดทะเบียนสมรส , จดทะเบียนรับรองบุตร , ศาลพิพากษา มีผลให้เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายและเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายย้อนหลังตั้งแต่บุตรเกิด
ครั้งหน้าท่านอาจารย์พรชัยจะมาบรรยาย 7 ครั้ง และอาจารย์จะมาต่อท้ายอีก 3 ครั้ง
***จบการบรรยาย***
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น