หุ้นส่วนจำกัดความรับผิด ไม่อาจขอให้ห้างจ่ายเงินปันผล (ฎ.6068/2557)

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 421,747.87 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 411,461.87 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

โจทก์และจำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่ได้โต้แย้งกันในชั้นนี้รับฟังเป็นยุติว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 จดทะเบียน โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดและเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ลงหุ้นด้วยเงิน 300,000 บาท โจทก์และนายพงษ์ศักดิ์ เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด ลงหุ้นด้วยเงินคนละ 100,000 บาท ตามหนังสือรับรองและรายการจดทะเบียนจัดตั้ง โจทก์ไม่ได้เป็นผู้ชำระเงินค่าหุ้นดังกล่าวเอง

มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองว่า โจทก์เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 หรือไม่ เห็นว่า การเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัดหรือไม่นั้น ข้อสำคัญอยู่ที่ว่าต้องมีการตกลงเข้ากันเพื่อทำกิจการร่วมกันด้วยประสงค์จะแบ่งปันกำไรอันจะพึงได้แต่กิจการที่ทำนั้นและต้องจดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดต่อนายทะเบียน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1078 

ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า โจทก์ จำเลยที่ 2 และนายพงษ์ศักดิ์ มีเจตนาร่วมกันจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 ตามรายการจดทะเบียนจัดตั้ง ดังนี้ เมื่อเป็นความสมัครใจของโจทก์ จำเลยที่ 2 และนายพงศักดิ์ที่ร่วมกันยื่นคำร้องขอจดทะเบียนตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 พฤติการณ์แห่งคดีถือได้ว่า โจทก์ จำเลยที่ 2 และนายพงษ์ศักดิ์ยอมผูกพันกันตามกฎหมาย เพื่อกระทำกิจการร่วมกัน ด้วยประสงค์จะแบ่งปันกำไรอันจะพึงได้แต่กิจการที่ทำในฐานะผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1012 แล้ว ซึ่งต่างจากกรณีที่บุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปตกลงเข้ากันเป็นหุ้นส่วนโดยไม่ได้จดทะเบียนซึ่งต้องพิจารณาว่าการตกลงนั้นมีลักษณะเป็นสัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนตามบทบัญญัติดังกล่าวหรือไม่ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยทั้งสองข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ต่อไปว่า จำเลยทั้งสองต้องแบ่งเงินปันผลให้แก่โจทก์หรือไม่ เห็นว่า การแบ่งเงินปันผลแก่ผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1084 ส่วนจะมีการแบ่งเงินปันผลกันเมื่อใด อย่างใด ย่อมเป็นไปตามสัญญาหุ้นส่วน หากสัญญาหุ้นส่วนไม่กำหนดไว้ย่อมเป็นไปตามที่หุ้นส่วนผู้จัดการซึ่งเป็นผู้มีอำนาจจัดการงานของห้างเห็นสมควร ที่โจทก์ฎีกาขอให้แบ่งเงินปันผล 311,461.87 บาท แก่โจทก์นั้น โจทก์อ้างว่าเป็นเงินกำไรของห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 ซึ่งแบ่งตามส่วนแล้วโจทก์จะได้เงินเท่ากับจำนวนดังกล่าว 

เห็นว่า เงินกำไรของห้างหุ้นส่วนจะยังไม่เป็นเงินปันผลจนกว่าจะมีการตกลงให้จ่ายเงินกำไรนั้นเป็นเงินปันผลแก่ผู้เป็นหุ้นส่วน ซึ่งการจะให้จ่ายเงินปันผลจากกำไรของห้างหุ้นส่วนในอัตราเท่าใด เมื่อใด ย่อมเป็นไปตามสัญญาหุ้นส่วน หากไม่ได้ตกลงกันไว้ก็ต้องเป็นไปตามที่หุ้นส่วนผู้จัดการซึ่งมีสิทธิจัดการงานของห้างเห็นสมควร โจทก์ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด จึงไม่อาจขอให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดจ่ายเงินปันผลจากกำไรของห้าง หากผู้เป็นหุ้นส่วนตกลงกันไม่ได้ในเรื่องการจ่ายเงินปันผลและมีเหตุขอให้เลิกห้างหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วนนั้นอาจร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งเลิกห้างหุ้นส่วนและชำระบัญชีต่อไป ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

ที่มา ระบบสืบค้นคำพิพากษา คำสั่งคำร้องและคำวินิจฉัยศาลฎีกา

ความคิดเห็น

10 บทความยอดนิยมประจำสัปดาห์

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542

แนวข้อสอบ พนักงานราชการ (ข้อ 1 - 10)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 (55 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ชุดที่ 1)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (30 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 (20 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (44 ข้อ)

สาระสำคัญ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (ฉบับเตรียมสอบ)