ความยากจน ขาดโอกาสทางการศึกษา ไม่ใช่เหตุแห่งการลงโทษ
วันนี้ (6 พฤศจิกายน 2568) ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมพิจารณาร่างรายงานการประเมินผลสัมฤทธิ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545 จัดโดยสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีประเด็นที่น่าสนใจจำนวนมาก เช่น
1. มีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นประมาณ 4,500 คน ถือได้ว่ามีการแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากเมื่อเปรียบเทียบกับการแสดงความคิดเห็นต่อกฎหมายอื่น
2. กฎหมายว่าด้วยการศึกษาภาคบังคับเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม อย่างมีนัยสำคัญและมีความละเอียดอ่อนสูง เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาครอบครัว เด็กด้อยโอกาส ขาดแคลนทุนทรัพย์ จนถึงปัญหาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และปัญหาการพัฒนาประเทศ
สำหรับประเด็นที่ผมกล่าวถึง "ความยากจน ขาดโอกาสทางการศึกษา ไม่ใช่เหตุแห่งการลงโทษ" เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดมาตรการลงโทษปรับ (เป็นพินัย) เช่น ไม่ส่งเด็กเข้าเรียน ไม่เกิน 1,000 บาท , กระทำการใด ๆ เป็นเหตุให้เด็กมิได้เรียนโดยปราศจากเหตุอันสมควร ไม่เกิน 10,000 บาท เป็นต้น ซึ่งแนวคิดส่วนใหญ่ยังคงเห็นว่าเป็นบทลงโทษที่เบา ควรแก้ไขปรับปรุงอัตราโทษให้หนักขึ้น เพื่อให้ตระหนักว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องให้เด็กเข้าเรียน
กรณีนี้ผมเห็นว่า มาตรการลงโทษดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่เด็กไทยไม่ได้รับโอกาสทางการศึกษาจำนวนมาก เทคโนโลยีสารสนเทศยังไม่พัฒนา จึงเป็นมาตรการบังคับทางการศึกษา บังคับการพัฒนาคนเพื่อให้พัฒนาประเทศ แต่ปัจจุบันประเทศไทยได้พัฒนาไปมากแล้ว ระบบการศึกษามีความยืดหยุ่น ไม่จำต้องเรียนในระบบก็สามารถตอบสนองการเรียนรู้และการพัฒนาคุณวุฒิได้หลากหลายขึ้น
นอกจากนี้การลงโทษปรับ (เป็นพินัย) สำหรับกรณีเด็กด้อยโอกาส ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือกลุ่มเปราะบาง ซึ่งมีปัญหาทางเศรษฐกิจทำให้ไม่สามารถเข้าเรียน การมุ่งเป้าไปที่การลงโทษปรับ (เป็นพินัย) จากเหตุความยากจน จึงเป็นการซ้ำเติมปัญหาเดิมและเพิ่มปัญหาใหม่ขึ้นอีก จึงไม่เหมาะสม/ไม่ได้สัดส่วน/ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง จนถึงขั้นไม่มีสภาพบังคับ
การเปลี่ยนแนวความคิดใหม่ เพราะความยากจน การขาดโอกาสทางการศึกษา ไม่ใช่เหตุแห่งการลงโทษ ที่สำคัญต้องสร้างระบบการช่วยเหลือที่เข้มแข็งสอดคล้องกับข้อเท็จจริง (ปัจจุบันกฎหมายหลายฉบับให้โอกาสทางการศึกษามากขึ้น และมีบางส่วนที่ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง เช่น ครอบครัวยากจนมีเหตุต้องย้ายสถานศึกษา กลับไปศึกษาที่ภูมิลำเนาเดิม ต้องติดต่อสถานศึกษาต้นทาง ปลายทาง ดำเนินการด้วยตนเองอย่างยากลำบากและมีค่าใช้จ่ายสูง อยู่ในภาวะจำยอม ต้องปล่อยให้เด็กหลุดจากระบบการศึกษา) จึงสมควรศึกษาเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงกฎหมายฉบับนี้ โดยยกเลิกมาตรการลงโทษปรับ (เป็นพินัย) เพราะเหตุยากจน
1. มีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นประมาณ 4,500 คน ถือได้ว่ามีการแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากเมื่อเปรียบเทียบกับการแสดงความคิดเห็นต่อกฎหมายอื่น
2. กฎหมายว่าด้วยการศึกษาภาคบังคับเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม อย่างมีนัยสำคัญและมีความละเอียดอ่อนสูง เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาครอบครัว เด็กด้อยโอกาส ขาดแคลนทุนทรัพย์ จนถึงปัญหาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และปัญหาการพัฒนาประเทศ
สำหรับประเด็นที่ผมกล่าวถึง "ความยากจน ขาดโอกาสทางการศึกษา ไม่ใช่เหตุแห่งการลงโทษ" เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดมาตรการลงโทษปรับ (เป็นพินัย) เช่น ไม่ส่งเด็กเข้าเรียน ไม่เกิน 1,000 บาท , กระทำการใด ๆ เป็นเหตุให้เด็กมิได้เรียนโดยปราศจากเหตุอันสมควร ไม่เกิน 10,000 บาท เป็นต้น ซึ่งแนวคิดส่วนใหญ่ยังคงเห็นว่าเป็นบทลงโทษที่เบา ควรแก้ไขปรับปรุงอัตราโทษให้หนักขึ้น เพื่อให้ตระหนักว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องให้เด็กเข้าเรียน
กรณีนี้ผมเห็นว่า มาตรการลงโทษดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่เด็กไทยไม่ได้รับโอกาสทางการศึกษาจำนวนมาก เทคโนโลยีสารสนเทศยังไม่พัฒนา จึงเป็นมาตรการบังคับทางการศึกษา บังคับการพัฒนาคนเพื่อให้พัฒนาประเทศ แต่ปัจจุบันประเทศไทยได้พัฒนาไปมากแล้ว ระบบการศึกษามีความยืดหยุ่น ไม่จำต้องเรียนในระบบก็สามารถตอบสนองการเรียนรู้และการพัฒนาคุณวุฒิได้หลากหลายขึ้น
นอกจากนี้การลงโทษปรับ (เป็นพินัย) สำหรับกรณีเด็กด้อยโอกาส ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือกลุ่มเปราะบาง ซึ่งมีปัญหาทางเศรษฐกิจทำให้ไม่สามารถเข้าเรียน การมุ่งเป้าไปที่การลงโทษปรับ (เป็นพินัย) จากเหตุความยากจน จึงเป็นการซ้ำเติมปัญหาเดิมและเพิ่มปัญหาใหม่ขึ้นอีก จึงไม่เหมาะสม/ไม่ได้สัดส่วน/ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง จนถึงขั้นไม่มีสภาพบังคับ
การเปลี่ยนแนวความคิดใหม่ เพราะความยากจน การขาดโอกาสทางการศึกษา ไม่ใช่เหตุแห่งการลงโทษ ที่สำคัญต้องสร้างระบบการช่วยเหลือที่เข้มแข็งสอดคล้องกับข้อเท็จจริง (ปัจจุบันกฎหมายหลายฉบับให้โอกาสทางการศึกษามากขึ้น และมีบางส่วนที่ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง เช่น ครอบครัวยากจนมีเหตุต้องย้ายสถานศึกษา กลับไปศึกษาที่ภูมิลำเนาเดิม ต้องติดต่อสถานศึกษาต้นทาง ปลายทาง ดำเนินการด้วยตนเองอย่างยากลำบากและมีค่าใช้จ่ายสูง อยู่ในภาวะจำยอม ต้องปล่อยให้เด็กหลุดจากระบบการศึกษา) จึงสมควรศึกษาเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงกฎหมายฉบับนี้ โดยยกเลิกมาตรการลงโทษปรับ (เป็นพินัย) เพราะเหตุยากจน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น