สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายละเมิด (ครั้งที่ 5-6)

สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายละเมิด (ครั้งที่ 5-6)
อาจารย์วัชระ เนติวาณิชย์
วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2568
**********

หลักเกณฑ์กระทำต่อผู้อื่น (ต่อ)
1. จ้างทำของ จ้างซ่อมรถยนต์ หากรถที่รับจ้างซ่อม ถูกทำละเมิดขณะอยู่ในความครอบครองของผู้รับจ้างซ่อม ผู้รับจ้างย่อมไม่ต้องรับผิดต่อผู้ว่าจ้างซึ่งเป็นเจ้าของรถ ม.219 ถือว่าผู้ว่าจ้างเป็นผู้ถูกทำละเมิด มิใช่ผู้รับจ้างซ่อม (ผู้รับจ้าง ฟ้องไม่ได้)

2. ฝากทรัพย์ ผู้รับฝากนอกจากมีหน้าที่เก็บรักษาทรัพย์สินนั้นไว้ในอารักขาแห่งตนแล้ว ผู้รับฝากยังมีหน้าที่คืนทรัพย์สินนั้นให้แก่ผู้ฝากด้วยตามม.657 ทั้งผู้รับฝากยังต้องใช้ความระมัดระวังสงวนทรัพย์สินซึ่งฝากนั้นด้วยตามม.659 , หากมีผู้ทำให้ทรัพย์สินนั้นเสียหายขณะอยู่ในอารักขาของผู้รับฝาก จึงถือว่าเป็นการทำละเมิดต่อผู้รับฝากด้วย (ผู้รับฝากฟ้องได้)

3. ยืมใช้คงรูป เป็นการทำละเมิดต่อผู้ให้ยืม (ผู้ยืม ฟ้องไม่ได้)

4. ผู้เยาว์ นอกจากเป็นการละเมิดต่อผู้เยาว์แล้ว ยังเป็นการทำละเมิดต่อบิดามารดาหรือผู้ปกครองของผู้เยาว์ด้วย เพราะบิดามารดาหรือผู้ปกครองมีอำนาจและมีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูผู้เยาว์ตามม.1564 , 1566 , 1567 , 1598/2 (ฎ.6232/2554) (บิดามารดาฟ้องได้) (บิดานอกกฎหมายก็ฟ้องได้)
-กระทำทางเพศต่อผู้เยาว์ ไม่ว่าผู้เยาว์จะยินยอมหรือไม่ ย่อมเป็นการกระทำที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน จะอ้างว่าผู้เยาว์ยินยอมไม่ได้
-กระทำต่อบุตรที่บรรลุนิติภาวะแล้ว บิดามารดาย่อมไม่มีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูตามม.1564 วรรคหนึ่ง ถ้ามีการทำละเมิดแต่ไม่ถึงตาย ไม่ถือว่าเป็นการทำต่อบิดามารดา
-กระทำต่อบุตรบุญธรรม บิดามารดาเดิมของบุตรบุญธรรม ก็ยังเป็นผู้ถูกทำละเมิดได้เหมือนเดิม เพราะม.1598/28 บุตรบุญธรรมยังไม่สูญสิทธิและหน้าที่ในครอบครัวที่ได้กำเนิด (ฎ.689/2512)

5. คู่สมรส กระทำละเมิดต่อคู่สมรส (คู่สมรสอีกฝ่ายฟ้องได้ตามกฎหมายครอบครัว)
-กระทำต่อคู่หมั้น ชายคู่หมั้นฟ้องเรียกค่าทดแทนจากชายอื่นซึ่งได้ร่วมประเวณีหรือข่มขืนกระทำชำเราได้ตามกฎหมายครอบครัว

6. ทนายความ
-ฎ.21730/2556 ทนายความเป็นวิชาชีพด้านกฎหมาย ต้องมีความละเอียดรอบคอบ และมีหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์เป็นพิเศษ ไม่ตรวจสอบทะเบียนราษฎรให้ดี ฟ้องผิดคน เป็นการละเมิด ฟ้องละเมิดได้

7. การใช้สิทธิเกินส่วน การใช้สิทธิมีแต่จะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ถือว่าเป็นการกระทำละเมิดต่อผู้เสียหายหรือเดือดร้อนรำคาญตามม.421 , 1337 
-ฎ.1719-1720/2499 โรงงานส่งกลิ่นเหม็น ต้องรับผิด
-ฎ.1992/2538 สร้างหลุมฝังศพในที่ดินของตนและฝังศพไว้ แม้จะได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นแล้ว แต่ห่างบ้านโจทก์ประมาณ 10 เมตร โจทก์ได้รับความกดดันทางจิตใจ เป็นเหตุให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินติดกันได้รับความเสียหาย และเดือดร้อนเกินที่ควรคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเป็นไปตามปกติและเหตุอันสมควรตามม.1337 จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์
-กฎหมายให้อำนาจจับตามหมายจับ แต่แกล้งไปจับเจ้าบ่าวตอนแต่งงาน มุ่งที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น เป็นละเมิด

8. การกระทำโดยผิดกฎหมาย การกระทำละเมิดจะต้องเป็นการกระทำต่อผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย 
-เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาต้องดำเนินการบังคับคดีตามกฎหมาย แต่ไปบุกรุกเป็นการกระทำโดยผิดกฎหมาย เป็นละเมิดม.420
-การจับ ค้นบ้านที่รโหฐาน โดยไม่มีหมายจับ หมายค้น ทั้งไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นตามกฎหมาย เป็นละเมิด

9. การกระทำโดยมีอำนาจ หากผู้กระทำมีสิทธิหรืออำนาจกระทำตามกฎหมาย การกระทำนั้นย่อมไม่เป็นความผิดต่อกฎหมาย ไม่เป็นละเมิด
9.1) กฎหมายให้อำนาจโดยตรง
-เจ้าของกรรมสิทธิ์ ย่อมมีสิทธิใช้สอยทรัพย์สินของตน มีสิทธิติดตามเอาคืนจากผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้
-เจ้าพนักงานตำรวจ/เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองมีอำนาจจับ ค้น ยึดทรัพย์ตามกฎหมาย เป็นการใช้อำนาจตามป.วิ.อ. เช่น ตำรวจยึดรถเพื่อตรวจสอบ เมื่อไม่มีเจตนากลั่นแกล้ง ไม่เป็นละเมิด
-ใช้สิทธิดำเนินคดี ขอความเป็นธรรม ร้องทุกข์ แจ้งความต่อเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจหน้าที่ เป็นการกระทำโดยชอบ ต้องไม่กลั่นแกล้ง
-ฎ.5026/2552 ร้องเรียนโดยสุจริต ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง ไม่เป็นละเมิด
-พนักงานสอบสวนยึดรถยนต์เพื่อตรวจสอบหาร่องรอยในการชนว่าใครผิด มีอำนาจยึดเท่าที่จำเป็น ถ้าเสร็จแล้วต้องคืน หากยึดรถแล้วเก็บไว้เฉย ๆ ไม่สอบสวน ถือว่าใช้อำนาจโดยไม่ชอบ เป็นการใช้สิทธิเกินส่วน เป็นละเมิด
9.2) มีอำนาจตามสัญญา สัญญาเป็นบ่อเกิดแห่งหนี้ ก่อให้เกิดสิทธิและหน้าที่ต่อกัน เมื่อฝ่ายหนึ่งมีสิทธิ อีกฝ่ายก็มีหน้าที่ ฝ่ายที่มีสิทธิกระทำตามสัญญาแล้ว ก้มีอำนาจกระทำโดยชอบ ไม่เป็นการผิดกฎหมาย ไม่เป็นละเมิด
-สัญญาเช่าที่ดินเป็นโมฆียะ แต่ยังไม่บอกเลิก สัญญายังสมบูรณ์ การใช้สิทธิตามสัญญาย่อมไม่เป็นละเมิด
-ฎ.785/2560 ปลอมสัญญากู้ จงใจให้เสียหาย เป็นละเมิด
9.3) มีอำนาจตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง
-ฝ่ายชนะคดีดำเนินการบังคับตามคำพิพากษา ไม่เป็นละเมิด
9.4) เกิดอำนาจจากความยินยอม 
-ผู้เสียหายยินยอมให้กระทำประทุษร้ายโดยสมัครใจ ยอมเข้าสู่อันตรายไม่ว่าจะเป็นการทำต่อร่างกายหรือทรัพย์สิน หรือสิทธิอื่นใด ซึ่งเป็นความยินยอมของผู้สามารถให้ความยินยอมได้ ย่อมไม่เป็นละเมิด เช่น สมัครใจวิวาทต่อสู้ ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย
-ผู้เยาว์ยินยอมให้กระทำชำเราไม่ได้ ถือเป็นการกระทำละเมิด ผู้กระทำต้องรับผิด

10. การฝ่าฝืนกฎหมาย การฝ่าฝืนกฎหมายที่ประสงค์ปกป้องบุคคลอื่น
-ม.422 "ถ้าความเสียหายเกิดแต่การฝ่าฝืนบทบังคับแห่งกฎหมายใดอันมีที่ประสงค์ เพื่อจะปกป้องบุคคลอื่น ๆ ผู้ใดทำการฝ่าฝืนเช่นนั้น ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นเป็นผู้ผิด"
-ฎ.1285/2481 แม้ฝ่าฝืนกฎหมาย แต่อีกฝ่ายก็ผิด ไม่ต้องรับผิด

11. การกระทำโดยจงใจ กระทำโดยรู้สำนึกถึงผลเสียหายที่จะเกิดจากการกระทำของตน เช่น ตีหัว ตบ 
-สำคัญผิดไม่ใช่จงใจ เช่น หยิบหนังสือคนอื่นเข้าใจว่าเป็นของตนเอง ไม่ได้จงใจ แต่จะเป็นประมาทเลินเล่อหรือไม่ ต้องดูข้อเท็จจริง
-ฎ.517/2519 เจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดแร่ โดยเข้าใจโดยสุจริตว่าแร่เป็นของลูกหนี้ ไม่ได้จงใจ

12. การกระทำโดยประมาทเลินเล่อ ได้แก่กระทำโดยไม่จงใจ แต่ผู้กระทำได้กระทำโดยขาดความระมัดระวังตามสมควร
12.1) การวัดความระมัดระวัง ต้องคำนึงถึงเพศ อายุ ฐานะเดียวกับผู้กระทำว่า คนธรรมดาที่อยู่ในฐานะเช่นนั้นจะพึงระมัดระวังเพียงใด
12.2) ในภาวะเช่นนั้น คือ บุคคลที่อยู่ในภาวะเดียวกับผู้กระทำ โดยเทียบดูว่าบุคคลทั่วไปหรือวิญญูชนที่อยู่ในภาวะเช่นนั้นควรใช้ความระมัดระวังเพียงใด
12.3) วิสัย ลักษณะที่เป็นอยู่ของบุคคลผู้กระทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย 
12.4) พฤติการณ์ ข้อเท็จจริงที่ประกอบการกระทำของผู้ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ดูสภาพภายนอก เช่น ถนนเรียบ ขลุขะ มีเศษหินดีดกระเด็น ฝนตก คนพลุกพล่าน
-คนขับรถเป็น กับ คนขับรถไม่เป็นแล้วไปขับรถ ความระมัดระวังย่อมแตกต่างกัน
-แพทย์ย่อมมีความระมัดระวังหรือความชำนาญในการผ่าตัดดีกว่าคนที่ไม่ใช่แพทย์
-ฎ.6280/2529 ธนาคารไม่ตรวจลายมือชื่อให้ดี เป็นประมาทเลินเล่อ จะยกข้อสัญญายกเว้นความรับผิดไม่ได้
-ฎ.7452/2541 แพทย์ผ่าตัดทำให้มดลูกทะลัก ทำให้ลำไส้ทะลักออกมา ไม่ใช้ความระมัดระวังตามปกติของวิสัยของผู้ประกอบวิชาชีพ เป็นประมาทเลินเล่อ
-ฎ.970/2475 จำเลยขับรถหลีกรถยนต์ซึ่งขับสวนทางมาข้างหน้าโดยกะทันหัน มิฉะนั้นจะเกิดชนขึ้น ไม่เป็นประมาทเลินเล่อ เมื่อล้อหลังรถยนต์ไปทับสิ่งของที่เจ้าของวางพิงไว้ข้างขอบบาทวิถีล้ำถนนหลวงออกไปศอกเศษเสียหาย จำเลยหาจำต้องรับผิดต่อเจ้าของทรัพย์นั้นไม่
-ฎ.8789/2559 ขับรถชนท้าย-ไปชนต่อ-ผลโดยตรง-ประมาทเลินเล่อ
-ฎ.1111/2535 กลับรถตรงที่มีเครื่องหมายห้ามกลับรถ (สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผิด) ถ้านำสืบได้ว่าใช้ความระมัดระวังดี ไม่เป็นประมาท 
-ฎ.114/2510 จำเลยขับรถบรรทุกข้างไหล่เขา ขับไม่เร็ว การที่ล้อพ่วงเอียง เนื่องจากที่ตรงนั้นเป็นหลุม เอาหินกองไว้ หินแตก เป็นเหตุให้ระดับล้อที่ผ่านไปทรุดต่ำลง และรถคันที่จำเลยขับก็ไม่ได้คว่ำ ถ้าผู้ตายไม่ด่วนตัดสินใจกระโดดลงจากรถ ก็คงไม่ได้รับอันตรายใด ๆ หากใช่ความประมาทของจำเลยไม่ 
-ฎ.769/2510 เวลากลางคืน ผู้หญิงจอดรถติดไฟแดง ชายคนร้ายเปิดประตูนั่งข้างผู้หญิง ในมือชายมีระเบิด และข่มขู่ ผู้หญิงเกิดตกใจ ขับรถฝ่าไฟแดงไปชนรถคันอื่น ไม่ประมาทเลินเล่อ

13. ทำให้เขาเสียหาย 
-ความรับผิดทางละเมิดมุ่งประสงค์ที่จะให้ใช้ค่าสินไหมทดแทน ไม่ใช่มุ่งลงโทษทางอาญาแก่ผู้ทำละเมิด
-ฎ.2468/2540 กระชากตัวผู้เสียหายออกมาจากบริเวณที่ยืนอยู่ใต้หลังคา แม้จำเลยจะยืนนอกบ้าน แต่เอื้อมมือเข้าไปภายในบ้าน เพื่อจับและฉุดกระชากออกมา เป็นบุกรุก และเป็นละเมิด
-ฎ.1191/2560 เอาชื่อคนอื่นมาใส่ว่าเป็นสถาปนิกในป้ายประกาศบริเวณที่ก่อสร้าง เป็นละเมิด

14. เสียหายแก่ชีวิต ทำให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย

15. เสียหายแก่ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นอันตรายแก่กายหรือไม่เป็นอันตรายแก่กาย
-ฎ.15067/2557 จำเลยแจ้งผลการป่วยผิดพลาด ทำให้อาการโรคมะเร็งของโจทก์ลุกลามแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย เป็นละเมิดต่อโจทก์
-ฎ.273/2509 ความรู้สึกว่าถูกเหยียดหยาม เจ็บปวด แค้นใจ เป็นอารมณ์ ไม่เป็นอันตรายต่อจิตใจ ไม่เป็นละเมิด
-ถ้าเป็นความเสียหายทางจิตใจ กระทบกระเทือนต่อจิตใจ จิตฟั่นเฟือน ตกใจกลัว เอาของมาให้กินให้อาเจียน ทำให้เสียแก่ประสาท เป็นการทำให้เสียหายแก่ร่างกาย
-ฎ.4571/2556 เอาปืนมาขู่บนทางเท้าว่ามึงอยากตายหรือ เป็นการจงใจทำให้โจทก์เสียหาย เป็นละเมิด ทำให้โจทก์ตกใจกลัว

16. เสียหายแก่อนามัย ทำให้เสียสุขภาพ อยู่อย่างไม่สงบ เพราะกลิ่น เสียง ควัน กระเทือน น้ำเน่า ฝุ่น
-ฎ.9042/2560 แพทย์ร่วมกันตรวจวินิจฉัยการตั้งครรภ์ แจ้งว่าลูกสมบูรณ์ แต่ลูกพิการ กระเทือนใจอย่างรุนแรง เสียหาย เป็นประมาท 

17. เสียหายแก่เสรีภาพ ตามป.อาญา ม.309 กักขัง หน่วงเหนี่ยว หรือทำให้ไม่มีเสรีภาพในร่างกาย ถือว่าเป็นละเมิด
-ฎ.1447/2503 แจ้งความเท็จ ทำให้โจทก์ถูกจับกุม เสียเสรีภาพ เป็นละเมิด

18. เสียหายแก่ทรัพย์สิน เช่น ความผิดตามลักษณะทรัพย์ใน ป.อาญา ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ยักยอก ฉ้อโกง ทำให้เสียทรัพย์ บุกรุก ถือว่าเป็นความเสียหายแก่ทรัพย์สินทั้งสิ้น 
-เสียหายแก่สิทธิครอบครอง ป.พ.พ. บรรพ 4 สิทธิครอบครองเป็นทรัพย์สินประเภทหนึ่ง
-ฎ.1294/2529 ซื้อช้าง แม้ซื้อขายเพียงมอบตั๋วรูปพรรณ ไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ก็เป็นผู้มีสิทธิครองครอง ฟ้องผู้ทำละเมิดได้
-ฎ.877/2501 ลักกระแสไฟฟ้า 

19. เสียหายแก่สิทธิ เสียหายแก่สิทธิอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นคำกว้าง ครอบคลุมความเสียหายทุกอย่าง 

20. ความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำและผล
20.1) ทฤษฎีเงื่อนไขหรือทฤษฎีผลโดยตรง เรียกอีกอย่างว่าทฤษฎีความเท่าเทียมกันแห่งเหตุ 
-ถ้าไม่มีการกระทำที่ถูกกล่าวหา ผลจะไม่เกิด
-ถือว่าผลที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากการกระทำที่ถูกกล่าวหา ผลอันหนึ่งอาจจะเกิดจากหลายเหตุได้
-ถ้าการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นเหตุหนึ่งในหลาย ๆ เหตุแล้ว ผู้กระทำก็ต้องรับผิดโดยไม่คำนึงถึงว่ามีเหตุอื่นมาทำให้เกิดผลนั้นได้ เช่น ขับรถชนท้ายรถคันหน้า เป็นเหตุให้รถชนต่อ ๆ ไป
20.2) ทฤษฎีมูลเหตุเหมาะสม ในบรรดาเหตุทั้งหลายที่ก่อให้เกิดผลขึ้นนั้น ในแง่ความรับผิดชอบของผู้กระทำ เฉพาะแต่เหตุที่ตามปกติย่อมก่อให้เกิดผลเช่นนั้นเท่านั้น ที่ผู้กระทำต้องรับผิดชอบ 
-ฎ.5129/2556 ครูพละสั่งให้นักเรียนวิ่งรอบสนาม 3 รอบ วิ่งไม่ดีก็ให้วิ่งอีก 3 รอบ ไม่ดีอีกก็ให้วิ่งอีก ในขณะที่แดดร้อนจัด ไม่เหมาะสม เพราะอาจเป็นอันตรายแก่เด็กอายุ 11-12 ปี เด็กหัวใจล้มเหลว แม้จะไม่ทราบว่าเป็นโรคหัวใจ เมื่อเด็กตาย เป็นละเมิด
-ฎ.1898/2518 ชนรถบรรทุกยาง ยางหาย เป็นผลโดยตรง

21. มีเหตุแทรกซ้อนให้เสียหายมากขึ้น ความเสียหายบางอย่างขาดตอนไปแล้ว แต่มีเหตุแทรกซ้อนขึ้นมา คนกระทำคนแรกจะต้องรับผิดในผลนั้นหรือไม่
-เช่น ก.ทำร้าย ข. ระหว่าง ข. ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ก็ถูก ค. ตามมายิง ข. ถึงแก่ความตายที่โรงพยาบาล ต้องยึดหลักว่า เหตุแทรกซ้อนที่ทำให้ตาย วิญญูชนคาดหมายได้หรือไม่ว่าเกิดขึ้นได้ กรณีที่ ค. ถูกยิงตาย ไม่เกี่ยวข้องกัน วิญญูชนไม่อาจคาดหมายได้

22. ไม่ถือว่าเสียหาย มีการกระทำบางอย่าง แม้ผู้ถูกกระทำจะได้รับความเสียหาย แต่ความเสียหายนั้นมิใช่เกิดจากการกระทำของจำเลยโดยตรงหรือโดยนิตินัย ไม่ถือว่าเป็นผู้เสียหาย ผู้กระทำไม่ต้องรับผิด เช่น ผู้เสียหายทำผิดอาญา ฝากเข้าทำงาน เลื่อนตำแหน่ง ช่วยวิ่งเต้นเรื่องคดี ถือหลักว่าไม่เสียหาย เพราะมีส่วนที่ไปใช้ให้เขาทำผิดอาญา ไปให้สินบนเจ้าพนักงาน คดีอาญาไม่ถือว่าเป็นผู้เสียหาย ในคดีแ่งก็ไม่ถือว่าเป็นผู้เสียหายด้วย

23. ทรัพย์ที่เสียหายถูกโอน เมื่อเสียหายแล้ว ก็ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ 
-มีบางกรณีเมื่อความเสียหายหมดไป จะได้ฟ้องหรือไม่ เช่น รถถูกชนบุบ วันรุ่งขึ้นเจ้าของขายรถไปหรือรถถูกขโมยไป ก็ยังฟ้องได้อยู่

24. ม.420 "...จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น" เป็นผลของการละเมิด ทำให้เกิดหนี้ ส่วนวิธีใช้ค่าสินไหมทดแทนและต้องใช้อะไร อย่างไร เป็นไปตามหมวด 2 ว่าด้วยค่าสินไหมทดแทน

***จบการบรรยาย***

✅สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายละเมิด ครั้งที่ 7
✅สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายละเมิด ครั้งที่ 8
✅สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายละเมิด ครั้งที่ 9
✅สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายละเมิด ครั้งที่ 10
✅สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายละเมิด ครั้งที่ 11
✅สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายละเมิด ครั้งที่ 12
✅สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายละเมิด ครั้งที่ 13
✅สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายละเมิด ครั้งที่ 14
✅สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายละเมิด ครั้งที่ 15
✅สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายละเมิด ครั้งที่ 16

ความคิดเห็น

10 บทความยอดนิยมประจำสัปดาห์

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (30 ข้อ)

แนวข้อสอบ พนักงานราชการ (ข้อ 1 - 10)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ชุดที่ 1)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 (55 ข้อ)

สาระสำคัญ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (ฉบับเตรียมสอบ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539

แนวข้อสอบ ระเบียบฯ สารบรรณ (ชุดที่ 3)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (44 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 (20 ข้อ)