สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายละเมิด (ครั้งที่ 3-4)
สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายละเมิด (ครั้งที่ 3-4)
อาจารย์วัชระ เนติวาณิชย์
วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน 2568
**********
1. การกระทำที่ถือได้ว่าเป็นการงดเว้นหรือละเว้นการกระทำ จะต้องมีหน้าที่ให้กระทำ
1.1) หน้าที่ตามกฎหมาย
-กฎหมายกำหนดให้พ่อแม่ต้องเลี้ยงดูลูก , สามีภรรยาต้องดูแลซึ่งกันและกัน แล้วไม่ทำหน้าที่ ก็เป็นละเมิดได้
1.2) หน้าที่ตามสัญญา เมื่อมีสัญญาต่อกัน ผู้มีหน้าที่ก็ต้องปฏิบัติตามสัญญา และระมัดระวังการทำหน้าที่ของตนเองไม่ก่อให้เกิดปัญหาแก่บุคคลอื่นด้วย หากละเว้นต่อหน้าที่ตามสัญญาเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเสียหาย ก็ต้องรับผิด
-คนกวาดถนน4-5คนกำลังกวาดถนนอยู่ทั้งซ้ายและขวาในขณะที่รถวิ่งด้วยความเร็ว70-80กิโลเมตร ควรมีป้ายเตือน เครื่องหมายเตือนว่ากำลังทำหน้าที่ เพื่อให้รถชะลอความเร็วหรือเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่
-พี่เลี้ยงหรือสถานรับเลี้ยงดูแลเด็กตามสัญญา ปล่อยให้เด็กได้รับอันตราย
-พยาบาลหรือผู้รับจ้างเฝ้าคนไข้หรือคนชรา ปล่อยให้คนไข้หรือคนชราได้รับอันตราย
-ลูกจ้างมีหน้าที่ต่อนายจ้าง หากไม่ทำตามหน้าที่จนเกิดความเสียหายแก่นายจ้าง ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่เกิดจากสัญญา
-ลูกจ้างการรถไฟมีหน้าที่เปิดสัญญาณถนนก่อนรถไฟผ่าน ไม่เปิดปิดสัญญาณเวลามีรถไฟผ่านไปมา ทำให้รถยนต์เข้าไปชนกับรถไฟ ถือว่าเป็นการละเว้น นอกจากต้องรับผิดต่อการรถไฟคู่สัญญาแล้ว ยังต้องรับผิดต่อฝ่ายรถยนต์ซึ่งเป็นบุคคลนอกสัญญาด้วย
-ฎ.1640/2506 (ลูกจ้างการรถไฟหลับ ไม่ปิดแผงกั้นรถไฟ เป็นการงดเว้น)
-ผู้รับเหมาก่อสร้างหรือซ่อมถนน ไม่ติดเครื่องหมายเตือนว่ามีการก่อสร้างหรือซ่อมถนน ถือว่าเป็นการละเว้นหน้าที่ที่จะต้องกระทำตามสัญญา
-ฎ.1506/2516 (ไม่ติดป้ายสัญญาณเตือนว่ามีการก่อสร้าง เป็นการงดเว้น) บริษัทจำเลยที่ 3 ก่อสร้างถนนโดยไม่ติดตั้งป้ายหรือเครื่องหมายเตือนผู้ขับขี่รถให้ทราบว่ามีการก่อสร้างถนนอยู่ข้างหน้า หรือไม่รดน้ำไหล่ถนนที่ถมด้วยดินลูกรัง เป็นเหตุให้เกิดฝุ่นตลบมองไม่เห็นทาง อันเป็นเหตุส่วนหนึ่งซึ่งทำให้รถซึ่งจำเลยที่ 1 ขับมาด้วยความประมาทชนรถโจทก์เสียหาย บริษัทจำเลยที่ 3 จึงต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์
-ฎ.3958/2561 (ทนายรายงานคดีเท็จ ไม่ฟ้องล้มฯให้ ผิดสัญญาและละเมิด) การที่โจทก์มอบหมายให้จำเลยที่ 1 ฟ้องคดีล้มละลาย บ. แต่จำเลยที่ 1 ไม่ดำเนินการ กลับรายงานเท็จต่อโจทก์ ทำให้โจทก์หลงเชื่อว่ามีการฟ้องล้มละลาย บ. แล้ว เป็นการกระทำผิดสัญญาและละเมิดต่อโจทก์ หากจำเลยที่ 1 ดำเนินการฟ้อง บ. ภายในอายุความ แม้ปรากฏว่า บ. ไม่มีทรัพย์สินใดให้บังคับคดีในคดีแพ่งก็ตาม แต่ในคดีล้มละลายมีกระบวนการพิจารณาแตกต่างไปจากการบังคับคดีแพ่งทั่วไป เพราะเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจหน้าที่ในการที่จะไต่สวนลูกหนี้โดยเปิดเผย ให้ลูกหนี้แสดงรายหารหรือรายละเอียดของทรัพย์สินที่มีอยู่รวมกัน ทั้งสิทธิต่าง ๆ ในการที่จะได้มาซึ่งเงินและทรัพย์สินจากบุคคลภายนอก รวมทั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สามารถใช้สิทธิในการตรวจสอบสินทรัพย์ของ บ. ได้ จึงอาจทำให้โจทก์มีโอกาสที่จะได้รับชำระหนี้ การที่จำเลยที่ 1 ไม่ฟ้องบังคับคดีล้มละลาย บ. จึงเป็นผลโดยตรงที่ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย การที่ทนายจำเลยรายงานเท็จต่อโจทก์ เหตุผล ทำให้โจทก์หลงเชื่อว่ามีการฟ้องคดีล้มละลายแล้วเป็นการทำผิดสัญญาจ้าง และการที่ไม่ได้ไปฟ้องตามที่ตกลงกันเป็นการละเมิดเพราะมีหน้าที่ตามสัญญาแล้วไม่ทำตามหน้าที่ ดังนั้นทนายจึงต้องรับผิดฐานละเมิดต่อโจทก์ที่เป็นผู้ว่าจ้างให้ว่าความ
-โรงเรียน,ครู โรงเรียนและครู มีหน้าที่ดูแลเด็กนักเรียนซึ่งเป็นเด็กเล็กในระหว่างอยู่ในโรงเรียนมิให้เกิดอันตราย อันเป็นหน้าที่ตามสัญญา
-ฎ.1354/2521 เด็กกระโดดขอบหน้าต่างตามเพื่อน ตกลงไปตาย ครูใหญ่ไม่ได้ใช้ให้ทำความสะอาด ไม่เป็นการงดเว้น
-ธนาคาร มีหน้าที่เรียกเก็บเงินตามเช็คแทนลูกค้าตามสัญญาฝากทรัพย์หรือตัวแทน เห็นความผิดปกติ มีการเบิกเงินมาก ไม่ระวังสอบถามเจ้าของบัญชี
-ฎ.11029/2553 เบิกเงินสดมาก ไม่ระวัง เป็นงดเว้น
-ฎ.5396/2561 (ตรวจสอบลายเซ็นไม่ดี เป็นงดเว้นโดยประมาท) ก. กรรมการผู้มีอำนาจของโจทก์เก็บรักษาสมุดเช็คไว้ในตู้เซฟภายในห้องทำงาน บางครั้งจะให้ ศ. พนักงานการเงินและบัญชีกรอกรายละเอียดในเช็คที่จะสั่งจ่าย ส.ซึ่งเป็นลูกจ้างลักเช็คพิพาททั้ง 17 ฉบับ ไปกรอกข้อความและปลอมลายมือผู้สั่งจ่าย หาก ก. ตรวจสอบก็จะทราบว่าลายมือที่ต้นขั้วเช็คเป็นของ ส. ไม่ใช่ลายมือของ ศ. โจทก์จึงมีส่วนก่อให้เกิดความเสียหายด้วย จำเลยประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ การจ่ายเงินตามเช็คเป็นงานที่เกิดขึ้นเป็นประจำ พนักงานจำเลยย่อมมีความชำนาญในการตรวจสอบลายมือชื่อในเช็คกับตัวอย่างลายมือชื่อที่จำเลยมีอยู่ว่าเป็นลายมือชื่อของผู้สั่งจ่ายจริงหรือไม่ เมื่อลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายปลอมในเช็คแตกต่างกับลายมือชื่อที่โจทก์ให้ไว้แก่จำเลย การที่พนักงานของจำเลยจ่ายเงินตามเช็คถึง 17 ฉบับ จึงเป็นการขาดความระมัดระวังเท่าที่สมควรจะต้องใช้ในกิจการเช่นจำเลย จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์
-ฎ.5095/2562 ไม่ตรวจลายเซ็นปลอมในเช็คให้ดี เงินหายเป็นละเมิด งดเว้นโดยประมาท
1.3) หน้าที่ที่เกิดจากการกระทำครั้งก่อนของตน
-ถ้าไม่มีการกระทำครั้งก่อนของตนแล้ว ตนก็ไม่มีหน้าที่ป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น
-สมัครใจเข้าช่วยเหลือบุคคลอื่นที่ประสบภัย เมื่อช่วยแล้วก็มีหน้าที่ทำการตามที่ควรกระทำ เพื่อมิให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลนั้น หากงดเว้นกลางคันแล้วเกิดความเสียหายขึ้น ก็เป็นละเมิด
-ปล่อยกระแสไฟฟ้าที่รั่ว แต่เดิมไม่เคยทำ เพื่อนมาหยิบของที่ตกที่รั่วได้
-แขกมาเยี่ยมบ้าน มีหน้าที่ต้องระวังไม่ให้สุนัขกัดแขก
-ซ่อมแซมบ้าน ก็ต้องระวัง
-ฎ.743/2561 ห้างไม่ดูแลความปลอดภัยของรถยนต์ลูกค้า เคยแจกบัตร ต่อมายกเลิก ใช้กล้องแทน (เป็นการบันทึกภาพรถยนต์ ไม่ใช่การป้องกัน) เป็นงดเว้นดูแล
-ฎ.915/2561 มีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินของผู้มาห้างสรรพสินค้า
-ฎ.5508/2560 ลานจอดรถบริเวณตลาดใหญ่ แตกต่างกับบุคคลที่เข้าไปใช้บริการในห้างสรรพสินค้า
-ฎ.2416/2561 ไม่มี รปภ. มาดูแล งดเว้น
*หน้าที่ที่เกิดจากการกระทำครั้งก่อนของตน การละเว้นต้องเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย การละเว้นที่จะเป็นละเมิด ความเสียหายต้องเกิดจากการละเว้น หากความเสียหายเกิดจากเหตุอื่น แม้จะมีการละเว้นต่อหน้าที่ เมื่อความเสียหายนั้นมิใช่เกิดจากการละเว้น ก็ไม่เป็นละเมิด
-ฎ.1996/2523 ครูไม่มีหน้าที่เฝ้ายาม ไม่มาอยู่เวร ไม่ผิด
-ฎ.400/2534 ตำรวจไม่อยู่ตามกำหนด ไม่มีการจัดเวรแทน ของหาย เป็นละเมิด
-ฎ.1277/2562 นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร รักษาทรัพย์สินส่วนกลาง มีคนร้ายมาลักตู้เซฟที่ไม่ใหญ่เอาออกไปได้ รปภ.ไม่เห็น ไม่ใช่การประมาท
-ฎ.161/2536 ไม่ตระเตรียมพนักงานประจำสระว่ายน้ำไว้คอยช่วยเหลือผู้ใช้บริการสระน้ำ ต้องรับผิด
-ฎ.399/2546 ผู้รับเหมาก่อสร้างสะพาน ละเลยไม่ติดตั้งเครื่องหมาย
-ฎ.3434-3440/2557 หน่วยงานรัฐ หน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งควบคุมความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยแก่ประชาชนผู้มาใช้ท่าเทียบเรือและโป๊ะเทียบเรือซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงตามกฎหมาย
-ฎ.1971/2517 อยู่กินฉันสามีภริยาตามประเพณี และตกว่าจะเรียนจบจะไปจดทะเบียนสมรส การไม่ยอมไปจดทะบเียนสมรส มิใช่การกระทำละเมิด
-ฎ.45/2532 การเรียกค่าทดแทนเนื่องจากผิดสัญญาหรือข้อตกลงเกี่ยวกับการสมรส ม.1439 บัญญัติไว้เป็นพิเศษให้เรียกได้เฉพาะกรณีมีการหมั้นเท่านั้น
1.4) case study 1 เจ้าพนักงานตำรวจพบเห็นหญิงคนหนึ่งที่เข้ามาใช้บริการที่ห้างสรรพสินค้า โดยไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในสถานการณ์ที่รัฐบาลประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน โดยผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดได้ออกประกาศให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าก่อนออกจากบ้าน เจ้าพนักงานตำรวจก็เพิกเฉยไม่ดำเนินการอย่างใด ท่านเห็นว่าการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิกเฉยไม่จับกุมหญิงดังกล่าว เป็นการกระทำที่เป็นละเมิดหรือไม่ อย่างไร ให้อธิบาย
1.5) case study 2 มีบุคคลนำปืนเข้าไปกราดยิงผู้ใช้บริการในห้างสรรพสินค้า โดยห้างสรรพสินค้าไม่ได้จัดให้มีเครื่องตรวจอาวุธ และพนักงานรักษาความปลอดภัยที่จะป้องกันมิให้มีคนพกพาอาวุธเข้าไปในห้าง หลักเกิดเหตุ ห้างได้จัดเครื่องตรวจอาวุธและมีพนักงานรักษษความปลอดภัยที่จะสกัดบุคคลที่ผ่านเครื่องตรวจอาวุธ แล้วได้ยินเสียงสัญญาณ ต่อมาห้างได้ยกเลิกเครื่องตรวจอาวุธและพนักงานรักษาความปลอดภัยดังกล่าว และมี นาย ก. นำอาวุธปืนเข้าไปในห้างแล้วยิงคนในร้านแห่งหนึ่งและยิงถูกลูกค้าคนอื่น ให้วินิจฉัยว่าห้างต้องรับผิดหรือไม่ เพราะเหตุใด
2. กระทำต่อผู้อื่น
-"ทำต่อบุคคลอื่น" หมายถึง บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ไม่ได้หมายถึงทรัพย์ สิ่งของ หรือสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของ
-การทำลายทรัพย์ สิ่งของ หรือสัตว์ที่มีเจ้าของ ถือว่าเป็นการกระทำต่อบุคคลผู้เป็นเจ้าของ
-ฎ.9173/2551 การเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดจากการละเมิด มิใช่เพียงแต่เจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่จะเป็นผู้เสียหายได้เท่านั้น ผู้ครอบครองใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินก็เป็นผู้ถูกโต้แย้งสิทธิได้ สามารถใช้สิทธิทางศาลได้ ตามป.วิ.พ. ม.55
-ฎ.3534/2542 โจทก์ผู้ครอบครองที่ดินพิพาท มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งอยู่ในที่ดินโดยละเมิดสิทธิของโจทก์
-ฎ.988/2562 การรื้อถอนสิ่งก่อสร้างเป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อน
-ฎ.983/2497 จำเลยปล่อยให้อาคารของตน เอนทับอาคารโจทก์เสียหาย ดังนี้เรียกว่าจำเลยทำละเมิด ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหาย
-ฎ.2942/2526 โจทก์ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์รถพิพาท แต่มีสิทธิใช้และมีหน้าที่บำรุงรักษารถที่กรมตำรวจมอบหมาย โจทก์เป็นผู้ครบครองใช้สอย โจทก์มีอำนาจฟ้องผู้มาทำให้รถเสียหาย
-ฎ.746-750/2538 ผู้เช่าซื้อสามารถเป็นผู้เสียหายฐานะละเมิดได้ ถ้ามีการกระทำกับทรัพย์ที่เช่าซื้อ รวมทั้งเมื่อขณะเกิดเหตุสัญญาเช่าซื้อยังอยู่ แต่ต่อมาสัญญาเช่าซื้อเลิกกันต้องคืนทรัพย์สินให้ผู้ให้เช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อก็ยังสามารถดำเนินคดีละเมิดกับผู้ที่มาชนรถที่เช่าซื้อนั้นต่อไป สิทธิในการดำเนินคดีละเมิดยังไม่ระงับ เพราะค่าเสียหายยังไม่ได้รับการชดเชย
-ฎ.14/2517 บุตรที่บิดารับรองแล้ว บุตรเรียกค่าเสียหายได้
-การใช้เด็กขย่มต้นไม้ หมดแรง ตกต้นไม้ตาย เป็นการละเมิดต่อผู้เยาว์และพ่อแม่
-ทำต่อนิติบุคคล นิติบุคคลก็อาจถูกละเมิดได้ตามสภาพนิติบุคคลนั้นที่อาจมีอาจเป็นได้
-สภาพนิติบุคคลย่อมแตกต่างจากบุคคลธรรมดา บุคคลธรรมดาอาจถูกทำละเมิดได้กว้างกว่า เช่น ไปล้อมบริษัท จะอ้างว่าทำให้บริษัทเสื่อมเสียเสรีภาพไม่ได้ คนที่อยู่ในบริษัทเท่านั้นที่ถูกล้อมเข้าออกไม่ได้ จึงเป็นผู้ที่ถูกทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ แต่บริษัทอาจจะถูกละเมิดในการประกอบกิจการค้า ทำให้ธุรกิจเสียหาย
-ทำต่อทรัพย์สินของรัฐ เช่น การทำให้ป่าไม้เสียหาย ถือว่าเป็นการทำต่อกรมป่าไม้ หรือการทุบถนนในเขตเทศบาล ถือว่าเป็นการทำต่อเทศบาล
-ผู้เสียหายพิเศษ เช่น เอกชนผู้ใดได้ประโยชน์จากการใช้สาธารณสมบัติของแผ่นดินยิ่งกว่าบุคคลทั่วไป บุคคลนั้นย่อมได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ ถือว่าเป็นการกระทำละเมิดต่อบุคคลนั้น
-กรณีซื้อขายเป็นโมฆะ หากเป็นโมฆะเนื่องจากมีวัตถุแห่งหนี้หรือวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ผู้ครอบครองหรือใช้สอย ไม่มีสิทธิจะอ้างอะไรได้ แม้จะมีคนทำลายทรัพย์ที่ซื้อมานั้น เพราะถือว่าไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย ไม่เป็นผู้ถูกทำละเมิด แต่ถ้าผู้ครอบครองใช้สอยทรัพย์สินที่ซื้อมาเป็นวัตถุแห่งหนี้ที่ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี เหตุที่เป็นโมฆะนั้นเป็นเพียงรูปแบบของสัญญา แล้วทรัพย์นั้นถูกทำลาย กรณีนี้เป็นละเมิดต่อผู้ซื้อ
-กรณีเช่าทรัพย์ (ละเมิดต่อทรัพย์สินที่เช่า ผู้เช่าฟ้องได้) ผู้เช่ามีสิทธิได้ใช้หรือได้ประโยชน์ในทรัพย์สินที่เช่าตามม.537 ผู้เช่าจึงจำต้องสงวนทรัพย์สินที่เช่าเสมอกับที่วิญญูชนจะพึงสงวนทรัพย์สินของตน (ฎ.804/2497) และต้องบำรุงรักษา ทั้งต้องทำการซ่อมแซมเล็กน้อยด้วยตามม.553 หรือแม้จะเป็นการซ่อมแซมใหญ่ หากเป็นความจำเป็นและสมควรเพื่อรักษาทรัพย์สินซึ่งเช่านั้น ผู้เช่าย่อมมีสิทธิเรียกค่าใช้จ่ายผู้เช่าได้ตามม.547 และเมื่อสัญญาเช่าเลิกหรือระงับลง ผู้เช่าก็ต้องส่งคืนทรัพย์สินที่เช่าในสภาพซ่อมแซมดีตามม.561 ฉะนั้นเมื่อมีผู้ทำละเมิดในระหว่างสัญญาเช่าขณะทรัพย์สินนั้นอยู่ในความครอบครองของผู้เช่า (ฎ.3751/2529) จึงถือว่าเป็นการกระทำละเมิดต่อผู้เช่า ผู้เช่าฟ้องผู้ทำละเมิดได้
-กรณีไม่มีหนังสือสัญญาเช่า หากมีการเช่าอสังหาริมทรัพย์แล้ว แม้จะไม่มีการทำสัญญาเช่าเป็นหนังสือ ผู้เช่าก็ฟ้องผู้บุกรุกและเรียกค่าเสียหายได้ เพราะไม่ได้ฟ้องบังคับคดีเกี่ยวกับสัญญาเช่าแต่อย่างใด
-ฎ.2052/2522 บิดาโจทก์เช่าตึก จำเลยอาศัยอยู่ในตึกกับโจทก์ บิดาโจทก์ตาย โจทก์ทำสัญญาเช่าแทนบิดาโจทก์จากผู้ให้เช่าเดิม จำเลยไม่ออกจากตึก แม้โจทก์อยู่ที่อื่น โจทก์ก็ฟ้องขับไล่จำเลยได้ (ผู้เช่ายังไม่ได้ครอบครอง ก็ฟ้องได้)
-ฎ.523/2562 ผู้เช่าที่ดินจากการรถไฟยังไม่ได้เข้าครอบครอง แต่ถ้าการรถไฟไม่อยากเป็นภาระที่จะต้องมาฟ้องขับไล่เอง จึงมอบอำนาจให้ผู้เช่ารายใหม่เป็นผู้แทนในการฟ้องขับไล่ได้ ดังนั้นแม้ผู้เช่ารายใหม่ยังไม่ได้เข้าครอบครอง สามารถที่จะฟ้องละเมิดได้
***จบการบรรยาย***
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น