สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายตัวแทน ประกันภัย ตั๋วเงิน บัญชีเดินสะพัด (ครั้งที่ 8)

สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายตัวแทน ประกันภัย ตั๋วเงิน บัญชีเดินสะพัด (ครั้งที่ 8)
อาจารย์ประเสริฐ เสียงสุทธิวงศ์
วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2568
**********

1. เช็ค
-ม.987 "อันว่าเช็คนั้น คือหนังสือตราสารซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่าผู้สั่งจ่าย สั่งธนาคารให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งเมื่อทวงถามให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง หรือให้ใช้ตามคำสั่งของบุคคลอีกคนหนึ่ง อันเรียกว่าผู้รับเงิน" และต้องมีรายการตามม.988 มิฉะนั้น อาจไม่สมบูรณ์เป็นเช็คตามม.910 ประกอบม.989
-ม.910 "ตราสารอันมีรายการขาดตกบกพร่องไปจากที่ท่านระบุบังคับไว้ในมาตราก่อนนี้ ย่อมไม่สมบูรณ์เป็นตั๋วแลกเงิน เว้นแต่ในกรณีดังจะกล่าวต่อไปนี้ คือ
  ตั๋วแลกเงินซึ่งไม่ระบุเวลาใช้เงิน ท่านให้ถือว่าพึงใช้เงินเมื่อได้เห็น
  ถ้าสถานที่ใช้เงินมิได้แถลงไว้ในตั๋วแลกเงิน ท่านให้ถือเอาภูมิลำเนาของผู้จ่ายเป็นสถานที่ใช้เงิน
  ถ้าตั๋วแลกเงินไม่แสดงให้ปรากฏสถานที่ออกตั๋ว ท่านให้ถือว่าตั๋วเงินนั้นได้ออก ณ ภูมิลำเนาของผู้สั่งจ่าย
  ถ้ามิได้ลงวันออกตั๋ว ท่านว่าผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายคนหนึ่งคนใดทำการโดยสุจริตจะจดวันตามที่ถูกต้องแท้จริงลงก็ได้"
-ม.989 "บทบัญญัติทั้งหลายในหมวด 2 อันว่าด้วยตั๋วแลกเงินดังจะกล่าวต่อไปนี้ ท่านให้ยกมาบังคับในเรื่องเช็คเพียงเท่าที่ไม่ขัดกับสภาพแห่งตราสารชนิดนี้ คือบทมาตรา 910 มาตรา 914 ถึงมาตรา 923 มาตรา 925 มาตรา 926 มาตรา 938 ถึงมาตรา 940 มาตรา 945 มาตรา 946 มาตรา 959 มาตรา 967 มาตรา 971" 
-กฎหมายกำหนดผู้ใช้เงินตามเช็คต้องเป็นธนาคาร แต่ผู้มีหน้าที่ใช้เงินตามตั๋วแลกเงินและตั๋วสัญญาใช้เงินอาจเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้
-เช็คมี "วันถึงกำหนดใช้เงิน" อย่างเดียวคือ เมื่อทวงถาม ซึ่งคือวันที่ที่ลงในเช็ค (วันที่เช็คถึงกำหนดคือ วันที่ที่ลงในเช็ค) และเช็คลงวันที่ล่วงหน้าได้ เช่น ออกเช็ควันนี้และเขียนวันที่ลงในเช็ค 15 สิงหาคม 2568 เช็คจึงถึงกำหนดใช้เงินวันที่ 15 สิงหาคม 2568 ดังนั้น ผู้ทรงมีสิทธิยื่นเช็คให้แก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงิน ตั้งแต่วันที่ที่ลงในเช็คเป็นต้นไป 
-เรื่องการขีดคร่อม ตั้งแต่ม.994 - ม.1000 มีเฉพาะในเช็คเท่านั้น (ไม่มีในตั๋วแลกเงินและตั๋วสัญญาใช้เงิน)
-เช็คเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่ง อาจมีการโอนกรรมสิทธิ์ได้ จึงนำเช็คไปทำสัญญาขายลดเช็คได้ (เช็คสั่งจ่าย 100,000 บาท ถึงกำหนดอีก 1 เดือน แต่วันนี้มีความจำเป็นต้องใช้เงิน จึงขายลดเช็ค 97,000 บาท ผู้ซื้อก็จะได้กำไร 3,000 บาท แต่ต้องรอเช็คถึงกำหนดอีก 1 เดือน) , ใช้วางมัดจำ (ทำสัญญาซื้อขายที่ดิน โดยออกเช็คเป็นค่ามัดจำก็ได้)
-เมื่อธนาคารจ่ายเงินตามเช็คแล้ว หนี้ตามเช็คก็จะระงับไปตามม.321 วรรคสุดท้าย , แต่ถ้าธนาคารปฏิเสธการใช้เงิน (เช็คเด้ง) ถือว่าผู้สั่งจ่ายหรือบรรดาลูกหนี้ตามเช็คตกเป็นผู้ผิดนัด ผู้ทรงเช็คจึงมีสิทธิคิดดอกเบี้ยผิดนัดตามเช็คได้ ในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ตามม.7+224 นับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการใช้เงินตามเช็ค เช่น เช็คลงวันที่ 15 สิงหาคม แต่นำเช็คไปขึ้นเงินวันที่ 20 สิงหาคม และธนาคารปฏิเสธการใช้เงิน ผู้ทรงมีสิทธิคิดดอกเบี้ยผิดนัดร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันที่ 20 สิงหาคม (ไม่ใช่วันที่ 15 สิงหาคม) , แต่อายุความฟ้องร้องผู้สั่งจ่าย 1 ปี นับแต่วันที่ที่ลงในเช็ค (*นักศึกษาแยกให้ดี)
-ผู้สั่งจ่ายเช็คมีความรับผิดทางแพ่งในกรณีธนาคารปฏิเสธการใช้เงินตามเช็ค และอาจต้องรับผิดทางอาญาตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 ม.4 

2. รายการในเช็คตามม.988
-ม.988 "อันเช็คนั้น ต้องมีรายการดังกล่าวต่อไปนี้ คือ
  (1) คำบอกชื่อว่าเป็นเช็ค
  (2) คำสั่งอันปราศจากเงื่อนไขให้ใช้เงินเป็นจำนวนแน่นอน
  (3) ชื่อ หรือยี่ห้อและสำนักของธนาคาร
  (4) ชื่อ หรือยี่ห้อของผู้รับเงิน หรือคำจดแจ้งว่าให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ
  (5) สถานที่ใช้เงิน
  (6) วันและสถานที่ออกเช็ค
  (7) ลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย"
-รายการตามม.988(5) , (6) ไม่ต้องมีก็ได้ เช็คก็สมบูรณ์ , คดีที่เกิดขึ้นมักมีปัญหาตามม.988(6) วันที่ออกเช็ค คือ เช็คไม่ลงวันที่ กฎหมายให้สิทธิผู้ทรงกรอกวันที่ได้ เช็คก็สมบูรณ์เป็นเช็คแล้ว ตามม.910 วรรคห้า ประกอบม.989 (ข้อสอบจะถามว่าเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความในเช็คโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้สั่งจ่าย เช็คจะเสียหรือไม่ เช็คไม่เสีย เพราะกฎหมายให้สิทธิผู้ทรงกรอกวันที่ได้เอง) 
-โจทก์ฟ้องผู้สั่งจ่ายจำเลยที่ 1 ฟ้องผู้สลักหลังจำเลยที่ 2 ให้ร่วมกันรับผิดใช้เงินตามเช็ค ศาลฎีกาวินิจฉัยยกฟ้อง เนื่องจากข้อความหลังคำว่าจ่าย เขียนว่า สด  ("จ่ายสด") จึงไม่มีชื่อหรือยี่ห้อของผู้รับเงิน และขีดคำว่าหรือผู้ถือออก จึงไม่มีคำจดแจ้งว่าให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ ขาดรายการที่กฎหมายบังคับว่าต้องมีในเช็คตามม.988(4) ผลเป็นไปตามม.910 ประกอบม.989 หนังสือตราสารนี้ไม่สมบูรณ์เป็นเช็ค

3. เช็คมี 4 รูปแบบใหญ่ ๆ
3.1) เช็คระบุชื่อหรือยี่ห้อของผู้รับเงิน ผู้สั่งจ่ายระบุชื่อผู้รับเงินลงในเช็ค และขีดคำว่า "หรือผู้ถือ" ในแบบพิมพ์เช็คออก
3.2) เช็คผู้ถือ ผู้สั่งจ่ายกรอกข้อความหลังคำว่าจ่าย ว่าสด ("จ่ายสด หรือผู้ถือ") หรือผู้ถือ , หรือผู้สั่งจ่ายไม่เขียนข้อความอะไรหลังคำว่าจ่าย ("จ่าย.........หรือผู้ถือ") , หรือผู้สั่งจ่ายระบุชื่อหรือยี่ห้อของผู้รับเงิน และไม่ขีดคำว่า "หรือผู้ถือ" ในแบบพิมพ์เช็คออก ("จ่าย นาย ก. หรือผู้ถือ")
3.3) เช็คขีดคร่อม ตามม.994 ด้านหน้าเช็คมีเส้นขนานคู่ขีดขวางไว้ ผู้ทรงต้องนำเช็คไปเข้าบัญชีธนาคาร ธนาคารก็จะใช้เงินตามเช็คผ่านบัญชีธนาคารด้วยกัน คือ จ่ายเงินตามเช็คเข้าบัญชี (จะรับเป็นเงินสดไม่ได้)
3.4) เช็คเปลี่ยนมือไม่ได้ ตามม.917 วรรคสอง เช็คระบุชื่อหรือยี่ห้อของผู้รับเงิน อาจไม่สามารถโอนต่อกันไปได้เมื่อผู้สั่งจ่ายเช็คเขียนลงที่ด้านหน้าเช็คว่าเปลี่ยนมือไม่ได้หรือข้อความทำนองเดียวกัน ("A.C. PAYEE ONLY") ผู้ทรงเช็คจึงมีคนเดียวคือผู้มีชื่อหรือยี่ห้อเป็นผู้รับเงิน

4. ฎ.610/2520 (ให้นักศึกษาจำหลักเกณฑ์ต่อไปนี้ให้ดี ยังไม่เคยออกข้อสอบ)***
-ม.990 "ผู้ทรงเช็คต้องยื่นเช็คแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงิน คือว่าถ้าเป็นเช็คให้ใช้เงินในเมืองเดียวกันกับที่ออกเช็คต้องยื่นภายในเดือนหนึ่งนับแต่วันออกเช็คนั้น ถ้าเป็นเช็คให้ใช้เงินที่อื่นต้องยื่นภายในสามเดือน ถ้ามิฉะนั้นท่านว่าผู้ทรงสิ้นสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาแก่ผู้สลักหลังทั้งปวง ทั้งเสียสิทธิอันมีต่อผู้สั่งจ่ายด้วยเพียงเท่าที่จะเกิดความเสียหายอย่างหนึ่งอย่างใดแก่ผู้สั่งจ่ายเพราะการที่ละเลยเสียไม่ยื่นเช็คนั้น
  อนึ่ง ผู้ทรงเช็คซึ่งผู้สั่งจ่ายหลุดพ้นจากความรับผิดไปแล้วนั้น ท่านให้รับช่วงสิทธิของผู้สั่งจ่ายคนนั้นอันมีต่อธนาคาร"
-ม.914 "บุคคลผู้สั่งจ่ายหรือสลักหลังตั๋วแลกเงินย่อมเป็นอันสัญญาว่า เมื่อตั๋วนั้นได้นำยื่นโดยชอบแล้วจะมีผู้รับรองและใช้เงินตามเนื้อความแห่งตั๋ว ถ้าและตั๋วแลกเงินนั้นเขาไม่เชื่อถือโดยไม่ยอมรับรองก็ดี หรือไม่ยอมจ่ายเงินก็ดี ผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังก็จะใช้เงินแก่ผู้ทรง หรือแก่ผู้สลักหลังคนหลังซึ่งต้องถูกบังคับให้ใช้เงินตามตั๋วนั้น ถ้าหากว่าได้ทำถูกต้องตามวิธีการในข้อไม่รับรองหรือไม่จ่ายเงินนั้นแล้ว"
-ผู้สั่งจ่ายเช็คย่อมเป็นอันสัญญาว่าเมื่อเช็คนั้นได้นำยื่นโดยชอบแล้ว จะมีผู้ใช้เงินตามเนื้อความแห่งเช็ค ถ้าและเช็คนั้นเขาไม่ยอมจ่ายเงิน ผู้สั่งจ่ายก็จะใช้เงินแก่ผู้ทรง ตามนัยม.914 , 989 เพราะฉะนั้น ความรับผิดของผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นความรับผิดแบบมีเงื่อนไข คือ ผู้ทรงต้องยื่นเช็คแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินก่อน
-ม.959 "ผู้ทรงตั๋วแลกเงินจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่บรรดาผู้สลักหลัง ผู้สั่งจ่าย และบุคคลอื่น ๆ ซึ่งต้องรับผิดตามตั๋วเงินนั้นก็ได้ คือ
  (ก) ไล่เบี้ยได้เมื่อตั๋วเงินถึงกำหนดในกรณีไม่ใช้เงิน
  (ข) ไล่เบี้ยได้แม้ทั้งตั๋วเงินยังไม่ถึงกำหนดในกรณีดังจะกล่าวต่อไปนี้ คือ
     (1) ถ้าเขาบอกปัดไม่รับรองตั๋วเงิน
     (2) ถ้าผู้จ่ายหากจะได้รับรองหรือไม่ก็ตาม ตกเป็นคนล้มละลาย หรือได้งดเว้นการใช้หนี้ แม้การงดเว้นใช้หนี้นั้น จะมิได้มีคำพิพากษาเป็นหลักฐานก็ตาม หรือถ้าผู้จ่ายถูกยึดทรัพย์และการยึดทรัพย์นั้นไร้ผล
     (3) ถ้าผู้สั่งจ่ายตั๋วเงินชนิดไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใดรับรองนั้นตกเป็นคนล้มละลาย"
-ผู้ทรงเช็คจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ผู้สั่งจ่าย ซึ่งต้องรับผิดตามเช็คนั้นก็ได้ คือ (ก) ไล่เบี้ยได้เมื่อเช็คถึงกำหนดในกรณีไม่ใช้เงิน ตามนัยม.959 , 989
-ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้สั่งจ่ายเช็คจะต้องรับผิดใช้เงินแก่ผู้ทรง ก็ต่อเมื่อได้มีการนำเช็คไปยื่นแก่ธนาคารเพื่อใช้เงิน แล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเสียก่อน เมื่อข้อเท็จจริงตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ฟังได้ว่า โจทก์มิได้นำเช็คพิพาทไปยื่นต่อธนาคารเพื่อใช้เงิน และธนาคารยังมิได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์จึงจะนำคดีมาฟ้องจำเลยผู้สั่งจ่ายให้รับผิดชำระเงินตามเช็คนั้นทีเดียวไม่ได้ 
-แต่มีข้อยกเว้น (เคยออกข้อสอบเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว) ที่ผู้ทรงยังไม่ได้นำเช็คไปขึ้นเงินและธนาคารยังไม่ได้ปฏิเสธ ผู้ทรงสามารถฟ้องผู้สั่งจ่ายให้รับผิดทีเดียวได้

5. ม.990 (เป็นมาตราสำคัญ) กำหนดเวลาที่ผู้ทรงเช็คจะต้องยื่นเช็คแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงิน แบ่งออกเป็น 2 กรณี
5.1) ถ้าเป็นเช็คให้ใช้เงินในเมืองเดียวกันกับที่ออกเช็ค (สถานที่ออกเช็คกับธนาคารอยู่จังหวัดเดียวกัน) ต้องยื่นภายในเดือนหนึ่งนับแต่วันออกเช็ค 
5.2) ถ้าเป็นเช็คให้ใช้เงินที่อื่น (สถานที่ออกเช็คกับธนาคารอยู่คนละจังหวัด) ต้องยื่นภายในสามเดือนนับแต่วันออกเช็ค 
-ถ้าผู้ทรงยื่นเช็คแก่ธนาคารเกินกำหนดเวลาตามม.990 ถ้าผู้สั่งจ่ายมีเงินในบัญชีพอจ่ายแก่ผู้ทรง ธนาคารก็จะใช้เงินตามเช็คให้ หนี้ก็ระงับสิ้นไปตามม.321 วรรคสุดท้าย , แต่ถ้าธนาคารไม่ใช้เงินตามเช็ค ผู้ทรงสิ้นสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาแก่ผู้สลักหลังทั้งปวง (แม้ผู้สลักหลังมีลายมือชื่อในตั๋วเงิน ก็ฟ้องผู้สลักหลังไม่ได้) ทั้งเสียสิทธิอันมีต่อผู้สั่งจ่ายด้วย เพียงเท่าที่จะเกิดความเสียหายอย่างหนึ่งอย่างใดแก่ผู้สั่งจ่าย เพราะการที่ละเลยเสียไม่ยื่นเช็ค (ถ้าผู้สั่งจ่ายไม่ได้เสียหายจากการที่ผู้ทรงนำเช็คไปยื่นล่าช้า ผู้สั่งจ่ายก็มีความรับผิดตามเช็คเหมือนเดิม ผู้ทรงฟ้องผู้สั่งจ่ายได้) 
-ข้อสังเกต ผู้สลักหลังหลุดพ้น ไม่ดูว่าเสียหายหรือไม่ ส่วนผู้สั่งจ่ายจะหลุดพ้นต้องได้รับความเสียหายด้วย

***จบการบรรยาย***

ความคิดเห็น

10 บทความยอดนิยมประจำสัปดาห์

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 (55 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ชุดที่ 1)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539

แนวข้อสอบ พนักงานราชการ (ข้อ 1 - 10)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (30 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 (20 ข้อ)

แนวข้อสอบ ระเบียบฯ การลาของข้าราชการ (ชุดที่ 2)

สาระสำคัญ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (ฉบับเตรียมสอบ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 (ชุดที่ 1)