สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายตัวแทน ประกันภัย ตั๋วเงิน บัญชีเดินสะพัด (ครั้งที่ 15) ครั้งสุดท้าย

สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายตัวแทน ประกันภัย ตั๋วเงิน บัญชีเดินสะพัด (ครั้งที่ 15) ครั้งสุดท้าย
อาจารย์ประเสริฐ เสียงสุทธิวงศ์
วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน 2568
**********

1. ม.1003 + ม.967 วรรคสาม
-ม.967 "ในเรื่องตั๋วแลกเงินนั้น บรรดาบุคคลผู้สั่งจ่ายก็ดี รับรองก็ดี สลักหลังก็ดี หรือรับประกันด้วยอาวัลก็ดี ย่อมต้องร่วมกันรับผิดต่อผู้ทรง
  ผู้ทรงย่อมมีสิทธิว่ากล่าวเอาความแก่บรรดาบุคคลเหล่านี้ เรียงตัวหรือรวมกันก็ได้ โดยมิพักต้องดำเนินตามลำดับที่คนเหล่านั้นมาต้องผูกพัน
  สิทธิเช่นเดียวกันนี้ ย่อมมีแก่บุคคลทุกคนซึ่งได้ลงลายมือชื่อในตั๋วเงินและเข้าถือเอาตั๋วเงินนั้น ในการที่จะใช้บังคับเอาแก่ผู้ที่มีความผูกพันอยู่แล้วก่อนตน
  การว่ากล่าวเอาความแก่คู่สัญญาคนหนึ่ง ซึ่งต้องรับผิดย่อมไม่ตัดหนทางที่จะว่ากล่าวเอาความแก่คู่สัญญาคนอื่น ๆ แม้ทั้งจะเป็นฝ่ายอยู่ในลำดับภายหลังบุคคลที่ได้ว่ากล่าวเอาความมาก่อน"
-ม.967 นำมาใช้กับตั๋วสัญญาใช้เงิน และเช็ค ตามม.985 , 989
-ผู้ทรงมีสิทธิเลือกว่าจะฟ้องใครก็ได้ ไม่ฟ้องใครก็ได้ 
-ม.967 วรรคสาม สิทธิของผู้ทรงตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง หากลูกหนี้ในตั๋วเงินได้ "เข้าถือเอาตั๋วเงินนั้น" ก็คือ ลูกหนี้ได้ชำระหนี้แก่ผู้ทรง (ผู้ทรงได้รับชำระหนี้ครบถ้วน หนี้ระงับ) ลูกหนี้คนดังกล่าวจึงได้ตั๋วเงินไว้ในครอบครอง จึงสามารถไปบังคับกับลูกหนี้ที่มีความผูกพันระหว่างตนได้ คือ สามารถฟ้องไล่เบี้ยลูกหนี้คนที่ลงลายมือชื่อก่อนตนขึ้นไป
-ม.1003 "ในคดีผู้สลักหลังทั้งหลายฟ้องไล่เบี้ยกันเองและไล่เบี้ยเอาแก่ผู้สั่งจ่ายแห่งตั๋วเงิน ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นเวลาหกเดือนนับแต่วันที่ผู้สลักหลังเข้าถือเอาตั๋วเงินและใช้เงิน หรือนับแต่วันที่ผู้สลักหลังนั้นเองถูกฟ้อง"
1.1) อายุความไล่เบี้ย 6 เดือน นับแต่วันที่ผู้สลักหลังเข้าถือเอาตั๋วเงินและใช้เงิน ผู้สลักหลังยังไม่ถูกผู้ทรงฟ้อง
-ฎ.6339-6340/2539 , 628/2510
1.2) อายุความไล่เบี้ย 6 เดือน นับแต่วันที่ผู้สลักหลังถูกฟ้อง เป็นกรณีผู้ทรงเป็นโจทก์ฟ้องบรรดาลูกหนี้ในตั๋วเงิน ถ้าลูกหนี้ในลำดับหลังต้องการจะฟ้องลูกหนี้ลำดับก่อนขึ้นไป ก็ต้องฟ้องภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่ตนเองถูกฟ้อง (ซึ่งจะฟ้องได้ ลูกหนี้คนนั้นก็ต้องใช้เงินแก่ผู้ทรงที่เป็นโจทก์ก่อน) 
-ฎ.1608/2518 

2. ม.1004 "เมื่ออายุความสะดุดหยุดลงเพราะการอันหนึ่งอันใด ซึ่งกระทำแก่คู่สัญญาแห่งตั๋วเงินฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ท่านว่าย่อมมีผลสะดุดหยุดลงเพียงแต่แก่คู่สัญญาฝ่ายนั้น"
-ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ผู้ทรงจะฟ้องผู้สั่งจ่าย ผู้สลักหลัง ต้องฟ้องภายใน 1 ปี ตามม.1002 ถ้าผ่านไป 6 เดือน ผู้สลักหลังทำหนังสือรับสภาพหนี้หรือยอมชำระหนี้บางส่วนให้ผู้ทรง ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงตามม.193/14(1) อายุความ 1 ปี ตามม.1004 เริ่มนับหนึ่งใหม่เฉพาะผู้สลักหลัง ส่วนอายุความฟ้องผู้สั่งจ่ายเช็คยังคงเดินต่อไปเหลืออีก 6 เดือน

3. ม.1005 "ถ้าตั๋วเงินได้ทำขึ้นหรือได้โอนหรือสลักหลังไปแล้วในมูลหนี้อันหนึ่งอันใด และสิทธิตามตั๋วเงินนั้นมาสูญสิ้นไปเพราะอายุความก็ดี หรือเพราะละเว้นไม่ดำเนินการให้ต้องตามวิธีใด ๆ อันจะพึงต้องทำก็ดี ท่านว่าหนี้เดิมนั้นก็ยังคงมีอยู่ตามหลักกฎหมายอันแพร่หลายทั่วไป เท่าที่ลูกหนี้มิได้ต้องเสียหายแต่การนั้น เว้นแต่จะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น"
-ถ้ามีการใช้เงินตามตั๋วเงิน หนี้เดิมก็ระงับตามม.321 วรรคสาม 
-ถ้าไม่มีการใช้เงินตามตั๋ว หนี้เดิมก็ไม่ระงับ จะฟ้องลูกหนี้ตามมูลหนี้เดิม หรือจะฟ้องตามตั๋ว ซึ่งเจ้าหนี้มีสิทธิเลือกจะฟ้องตามมูลหนี้ใดก็ได้ ส่วนใหญ่จะฟ้องตามตั๋วเงิน เพราะพิสูจน์ง่าย ผู้ลงลายมือชื่อต้องรับผิดตามเนื้อความในตั๋วเงิน และมักจะฟ้องอาญาเพื่อบังคับลูกหนี้
-หนี้ที่มีการชำระหนี้ด้วยตั๋วเงิน ต่อมาสิทธิเรียกร้องตามตั๋วเงินขาดอายุความ เจ้าหนี้ก็สามารถฟ้องลูกหนี้ตามมูลหนี้เดิมได้ 

4. อาจารย์ขอทบทวนในเรื่องตั๋วเงิน
4.1) การลงลายมือชื่อด้านหน้าตั๋วเงิน
-ผู้จ่ายเงินตามตั๋วแลกเงินทำการรับรองตั๋ว ม.931 "..อนึ่ง แต่เพียงลงลายมือชื่อของผู้จ่ายลงไว้ในด้านหน้าแห่งตั๋วแลกเงิน ท่านก็จัดว่าเป็นคำรับรองแล้ว"
-การรับอาวัล 939 วรรคสาม "อนึ่ง เพียงแต่ลงลายมือชื่อของผู้รับอาวัลในด้านหน้าแห่งตั๋วเงิน ท่านก็จัดว่าเป็นคำรับอาวัลแล้ว.." (ไม่ใช่ผู้สลักหลัง เพราะคนที่จะเป็นผู้สลักหลังได้ จะต้องเป็นผู้ทรงมาก่อน ม.920) , สลักหลังเช็คผู้ถือ ม.921
4.2) การลงลายมือชื่อด้านหลังตั๋วเงิน
-การสลักหลังลอย ม.919 วรรคสอง การสลักหลังย่อมสมบูรณ์แม้ทั้งมิได้ระบุชื่อผู้รับประโยชน์ไว้ด้วย หรือแม้ผู้สลักหลังจะมิได้กระทำอะไรยิ่งไปกว่าลงลายมือชื่อของตนที่ด้านหลังตั๋วแลกเงินหรือที่ใบประจำต่อก็ย่อมฟังเป็นสมบูรณ์ดุจกัน การสลักหลังเช่นนี้เรียกว่า "สลักหลังลอย" (ต้องอยู่ในฐานะผู้ทรง จึงจะสลักหลังลอยได้)
4.3) ม.916 ผู้รับโอนตั๋วเงินมาโดยสุจริต ย่อมมีสิทธิดีกว่าผู้โอน
"บุคคลทั้งหลายผู้ถูกฟ้องในมูลตั๋วแลกเงิน หาอาจจะต่อสู้ผู้ทรงด้วยข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างตนกับผู้สั่งจ่ายหรือกับผู้ทรงคนก่อน ๆ นั้นได้ไม่ เว้นแต่การโอนจะได้มีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉล"
-ฎ.1648/2547 , 3100/2550 , 4991/2536

นักศึกษาไม่ควรเก็งข้อสอบ ให้ทบทวนที่บรรยาย อาจารย์แต่ละท่านก็จะแต่งข้อสอบจากหลักกฎหมายที่บรรยาย

***จบการบรรยาย***

ความคิดเห็น

10 บทความยอดนิยมประจำสัปดาห์

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (30 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 (55 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ชุดที่ 1)

สาระสำคัญ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (ฉบับเตรียมสอบ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (44 ข้อ)

แนวข้อสอบ พนักงานราชการ (ข้อ 1 - 10)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 (ชุดที่ 1)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ชุดที่ 5)