สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายตัวแทน ประกันภัย ตั๋วเงิน บัญชีเดินสะพัด (ครั้งที่ 11)
สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายตัวแทน ประกันภัย ตั๋วเงิน บัญชีเดินสะพัด (ครั้งที่ 11)
อาจารย์ประเสริฐ เสียงสุทธิวงศ์
วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม 2568
**********
1. วันนี้ต่อเรื่องเช็คขีดคร่อมมาตราสุดท้าย
-ม.1000 "ธนาคารใดได้รับเงินไว้เพื่อผู้เคยค้าของตนโดยสุจริตและปราศจากประมาทเลินเล่อ อันเป็นเงินเขาใช้ให้ตามเช็คขีดคร่อมทั่วไปก็ดี ขีดคร่อมเฉพาะให้แก่ตนก็ดี หากปรากฏว่าผู้เคยค้านั้นไม่มีสิทธิหรือมีสิทธิเพียงอย่างบกพร่องในเช็คนั้นไซร้ ท่านว่าเพียงแต่เหตุที่ได้รับเงินไว้หาทำให้ธนาคารนั้นต้องรับผิดต่อผู้เป็นเจ้าของอันแท้จริงแห่งเช็คนั้นแต่อย่างหนึ่งอย่างใดไม่"
2. เรื่องอายุความ จะบรรยายทีหลัง ส่วนใหญ่ถ้ามีการเสนอข้อสอบเรื่องอายุความก็จะเป็นประเด็นย่อย ๆ
3. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความในตั๋วเงิน ม.1007
-ม.1007 "ถ้าข้อความในตั๋วเงินใด หรือในคำรับรองตั๋วเงินรายใด มีผู้แก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญโดยที่คู่สัญญาทั้งปวงผู้ต้องรับผิดตามตั๋วเงินมิได้ยินยอมด้วยหมดทุกคนไซร้ ท่านว่าตั๋วเงินนั้นก็เป็นอันเสีย เว้นแต่ยังคงใช้ได้ต่อคู่สัญญาซึ่งเป็นผู้ทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนั้น หรือได้ยินยอมด้วยกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนั้น กับทั้งผู้สลักหลังในภายหลัง
แต่หากตั๋วเงินใดได้มีผู้แก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ แต่ความเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ประจักษ์ และตั๋วเงินนั้นตกอยู่ในมือผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายไซร้ ท่านว่าผู้ทรงคนนั้นจะเอาประโยชน์จากตั๋วเงินนั้นก็ได้เสมือนดังว่ามิได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเลย และจะบังคับการใช้เงินตามเนื้อความเดิมแห่งตั๋วนั้นก็ได้
กล่าวโดยเฉพาะ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นจะกล่าวต่อไปนี้ ท่านถือว่าเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ คือแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างใด ๆ แก่วันที่ลง จำนวนเงินอันจะพึงใช้ เวลาใช้เงิน สถานที่ใช้เงิน กับทั้งเมื่อตั๋วเงินเขารับรองไว้ทั่วไปไม่เจาะจงสถานที่ใช้เงิน ไปเติมความระบุสถานที่ใช้เงินเข้าโดยที่ผู้รับรองมิได้ยินยอมด้วย"
แต่หากตั๋วเงินใดได้มีผู้แก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ แต่ความเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ประจักษ์ และตั๋วเงินนั้นตกอยู่ในมือผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายไซร้ ท่านว่าผู้ทรงคนนั้นจะเอาประโยชน์จากตั๋วเงินนั้นก็ได้เสมือนดังว่ามิได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเลย และจะบังคับการใช้เงินตามเนื้อความเดิมแห่งตั๋วนั้นก็ได้
กล่าวโดยเฉพาะ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นจะกล่าวต่อไปนี้ ท่านถือว่าเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ คือแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างใด ๆ แก่วันที่ลง จำนวนเงินอันจะพึงใช้ เวลาใช้เงิน สถานที่ใช้เงิน กับทั้งเมื่อตั๋วเงินเขารับรองไว้ทั่วไปไม่เจาะจงสถานที่ใช้เงิน ไปเติมความระบุสถานที่ใช้เงินเข้าโดยที่ผู้รับรองมิได้ยินยอมด้วย"
3.1) ม.1007 วรรคหนึ่ง คำว่า "ข้อความในตั๋วเงินใด" คือ รายการที่ต้องมีในตั๋วเงินแต่ละประเภท มิฉะนั้นจะไม่สมบูรณ์เป็นตัวเงิน รวมทั้งข้อความที่กฎหมายอนุญาตให้เขียนในตั๋วเงินได้ด้วย
-ม.899*** ข้อความซึ่งมิได้มีบัญญัติไว้ ถ้าเขียนลงในตั๋วเงิน ไม่เป็นผลแก่ตั๋วเงินนั้น , ข้อความที่จะเขียนในตั๋วเงินได้ จะต้องเป็นข้อความที่กฎหมายตั๋วเงินอนุญาต
-ม.996 การขีดคร่อมเช็ค เป็นส่วนสำคัญอันหนึ่งของเช็ค ใครจะลบล้างย่อมไม่เป็นการชอบด้วยกฎหมาย
-ม.917 วรรคสอง ผู้สั่งจ่ายเขียนลงในด้านหน้าแห่งตั๋วแลกเงินว่า "เปลี่ยนมือไม่ได้" หรือเขียนคำอื่นทำนองเช่นเดียวกัน ตั๋วเงินนั้นย่อมจะโอนให้กันได้แต่โดยรูปการและด้วยผลอย่างการโอนสามัญ
3.2) ม.1007 วรรคหนึ่ง คำว่า "คำรับรองตั๋วเงิน"
-ผู้จ่ายเงินทำการรับรอง โดยหลัก ผู้จ่ายเงินไม่จ่ายเงินตามตั๋ว ผู้ทรงจะฟ้องผู้จ่ายไม่ได้ เพราะผู้จ่ายเงินไม่ได้ลงลายมือชื่อในตั๋ว ซึ่งผู้จ่ายเงินจะตกเป็นลูกหนี้ในตั๋วเงินต่อเมื่อได้ลงลายมือชื่อในตั๋วเงิน โดยทำการรับรองตั๋วแลกเงินตามม.931 "การรับรองนั้นพึงกระทำด้วยเขียนลงไว้ในด้านหน้าแห่งตั๋วแลกเงิน เป็นถ้อยคำสำนวนว่า "รับรองแล้ว" หรือความอย่างอื่นทำนองเช่นเดียวกันนั้น และลงลายมือชื่อของผู้จ่าย อนึ่ง แต่เพียงลงลายมือชื่อของผู้จ่ายลงไว้ในด้านหน้าแห่งตั๋วแลกเงิน ท่านก็จัดว่าเป็นคำรับรองแล้ว" และมีผลตามม.937 "ผู้จ่ายได้ทำการรับรองตั๋วแลกเงินแล้ว ย่อมต้องผูกพันในอันจะจ่ายเงินจำนวนที่รับรองตามเนื้อความแห่งคำรับรองของตน" และม.900 วรรคหนึ่ง "บุคคลผู้ลงลายมือชื่อของตนในตั๋วเงิน ย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในตั๋วเงินนั้น"
3.3) กรณีที่จะเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความตามม.1007 ตั๋วเงินนั้นจะต้องมีข้อความสมบูรณ์เป็นตั๋วเงินและมีการส่งมอบตั๋วเงินเพื่อชำระหนี้ให้แก่ผู้ทรงแล้ว จากนั้นจึงมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความ
3.4) คำว่า "มีผู้แก้ไขเปลี่ยนแปลง" ทำด้วยประการใด ๆ ก็ได้ ซึ่งทำให้ข้อความนั้นเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมโดยไม่มีอำนาจ รวมถึงการลบ ตัดทอน หรือเติมข้อความในตั๋วเงินด้วย
-ถ้ากฎหมายให้อำนาจเขียน มีอำนาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความ ขีดฆ่าข้อความ ก็ไม่ใช่การแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามม.1007
-ม.910 วรรคห้า "ถ้ามิได้ลงวันออกตั๋ว ท่านว่าผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายคนหนึ่งคนใดทำการโดยสุจริต จะจดวันตามที่ถูกต้องแท้จริงลงก็ได้" เช็คไม่ลงวันที่ ผู้ทรงกรอกวันที่เอง ก็ไม่ใช่การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความในเช็คม.1007 เพราะเป็นการกระทำที่กฎหมายให้อำนาจไว้ตาม.910+989 (เคยออกข้อสอบเนติ , ผู้ช่วยฯ)
-ม.905 วรรคหนึ่ง ตอนท้าย "คำสลักหลังเมื่อขีดฆ่าเสียแล้ว ท่านให้ถือเสมือนว่ามิได้มีเลย" กฎหมายให้อำนาจไว้ เช็คไม่เสีย
3.5) ม.1007 ต้องเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ คือ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่มีผลให้สิทธิ หน้าที่และความรับผิดในตั๋วเงินนั้นเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม***
-ม.1007 วรรคสาม การแก้ไขเปลี่ยนแปลงต่อไปนี้ ถือว่าเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ คือแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างใด ๆ ตัวอย่างเช่น
--วันที่ลง* การแก้ไขวันที่ลงในเช็ค อาจทำให้เช็คถึงกำหนดเร็วขึ้นหรือเนิ่นช้าออกไป หรือจากที่ขาดอายุความแล้วกลับกลายเป็นอยู่ในอายุความฟ้องร้อง จึงกระทบต่อสิทธิ หน้าที่และความรับผิดของคู่สัญญาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
--จำนวนเงินอันจะพึงใช้**
--เวลาใช้เงิน
--สถานที่ใช้เงิน
--ตั๋วเงินเขารับรองไว้ทั่วไปไม่เจาะจงสถานที่ใช้เงิน ไปเติมความระบุสถานที่ใช้เงิน โดยผู้รับรองมิได้ยินยอมด้วย
-ม.1007 วรรคสาม เป็นตัวอย่าง ยังมีข้อสำคัญอีกมาก เช่น เปลี่ยนแปลงชื่อผู้รับเงิน (มีผลเป็นการเปลี่ยนตัวผู้ทรง)
-ถ้าเป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อที่ไม่สำคัญ ตั๋วเงินนั้นก็ไม่เสีย เช่น การแก้ไขตัวอักษรที่ตกหล่นซึ่งผิดพลาดเล็กน้อย
-ฎ.1845/2524 เช็คระบุชื่อนายหนึ่ง และไม่ขีดฆ่าคำว่าหรือผู้ถือออก ถือเป็นเช็คผู้ถือ แม้เช็คจะมีรอยลบชื่อนายหนึ่ง ก็ไม่มีผล ยังคงเป็นเช็คผู้ถืออยู่
-ฎ.266/2539 ผู้ทรงฟ้องผู้สั่งจ่ายให้รับผิดตามเช็ค ผู้สั่งจ่ายเช็คต่อสู้ว่าสั่งจ่ายเช็คนี้จริง แต่เช็คมีการแก้ไขจำนวนเงิน (โดยหลักจำนวนเงิน เป็นข้อสำคัญ) โดยผู้ทรงเช็คเห็นว่าจำนวนเงินในเช็คตัวเลขระบุ 5,000 บาท ส่วนตัวอักษรระบุ หนึ่งหมื่นห้าพันบาทถ้วน ผู้ทรงจึงเติมตัวเลขเป็น 15,000 บาท ศาลฎีกาเห็นว่า การแก้ไขตัวเลขให้ตรงกับตัวอักษร โดยไม่ทราบเจตนาของผู้สั่งจ่าย เพราะแม้ไม่มีการแก้ไข ก็ต้องรับผิดตามจำนวนที่เป็นตัวอักษร ตามม.12 เช็คดังกล่าวไม่เสีย
***จบการบรรยาย***
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น