สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายตัวแทน ประกันภัย ตั๋วเงิน บัญชีเดินสะพัด (ครั้งที่ 9)
สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายตัวแทน ประกันภัย ตั๋วเงิน บัญชีเดินสะพัด (ครั้งที่ 9)
อาจารย์ประเสริฐ เสียงสุทธิวงศ์
วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2568
**********
1. ม.990 ต่อจากครั้งที่แล้ว ซึ่งเป็นมาตราสำคัญ
-ผู้ทรงเช็ค ต้องไปยื่นเช็คต่อธนาคารเพื่อให้ใช้เงิน หากธนาคารปฏิเสธการใช้เงินตามเช็ค โดยหลักผู้ทรงมีสิทธิฟ้องบรรดาลูกหนี้ในตั๋วเงิน ได้แก่ ผู้สั่งจ่าย ผู้สลักหลัง หรือผู้รับอาวัล
1.1) ม.990 ผู้ทรงต้องยื่นเช็คต่อธนาคารภายใน 1 เดือน หรือ 3 เดือน นับแต่วันออกเช็ค ขึ้นอยู่กับว่าเป็นเช็คให้ใช้เงินในเมืองเดียวกันกับที่ออกเช็คหรือไม่
1.2) หากผู้ทรงไม่ได้ยื่นภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ถ้าธนาคารใช้เงินตามเช็ค หนี้ก็เป็นอันระงับสิ้นไปตามม.321 วรรคสาม , แต่ถ้าธนาคารปฏิเสธการใช้เงิน ผู้ทรงจะสิ้นสิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ผู้สลักหลังทั้งปวง***
-ฎ.1007/2542 จำเลยที่ 2 สลักหลังเช็คผู้ถือ ย่อมเป็นเพียงประกันอาวัลสำหรับผู้สั่งจ่าย ไม่ได้อยู่ในฐานะผู้สลักหลังทั้งปวงตามม.990 จะอ้างว่าผู้ทรงสิ้นสิทธิไล่เบี้ยแก่ตนไม่ได้
1.3) ม.990 ตอนท้าย เมื่อธนาคารปฏิเสธการใช้เงิน ผู้ทรงเสียสิทธิอันมีต่อผู้สั่งจ่ายด้วยเพียงเท่าที่จะเกิดความเสียหายอย่างหนึ่งอย่างใดแก่ผู้สั่งจ่ายเพราะการที่ละเลยเสียไม่ยื่นเช็คนั้น
-กรณีผู้สั่งจ่ายไม่ได้รับความเสียหาย เช่น ผู้สั่งจ่ายไม่มีเงินในบัญชี เงินในบัญชีไม่พอจ่าย หรือบัญชีปิดไปแล้ว เช่นนี้ผู้ทรงฟ้องผู้สั่งจ่ายได้
-กรณีผู้สั่งจ่ายได้รับความเสียหาย เช่น ผู้ทรงเช็คนำเช็คไปขึ้นเงินล่าช้า เกินกำหนดเวลา และธนาคารล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รวบรวมเงินที่มีอยู่ในบัญชีของลูกค้าธนาคาร เพื่อให้เจ้าหนี้ของธนาคารมายื่นคำร้องขอเฉลี่ย ซึ่งรวมถึงผู้สั่งจ่ายเช็คที่เป็นเจ้าหนี้ธนาคารด้วย ผู้สั่งจ่ายเช็คจึงหลุดพ้นความรับผิด ซึ่งม.990 วรรคสอง บัญญัติว่า "อนึ่ง ผู้ทรงเช็คซึ่งผู้สั่งจ่ายหลุดพ้นจากความรับผิดไปแล้วนั้น ท่านให้รับช่วงสิทธิของผู้สั่งจ่ายคนนั้นอันมีต่อธนาคาร" ผู้ทรงเช็ครับช่วงสิทธิของผู้สั่งจ่าย ผู้ทรงยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
2. ผู้ทรงเช็คต้องนำเช็คไปยื่นต่อธนาคาร แล้วธนาคารปฏิเสธการใช้เงินตามเช็ค ผู้ทรงเช็คจึงจะเกิดสิทธิฟ้องร้องลูกหนี้ตามเช็คให้ร่วมกันรับผิดใช้เงินตามเช็คได้ตามม.990 , 914 , 959 ประกอบม.989
-ข้อยกเว้น กรณีผู้ทรงเช็คยังไม่ได้นำเช็คไปยื่นต่อธนาคาร ธนาคารยังไม่ได้ปฏิเสธการใช้เงินตามเช็ค แต่ผู้ทรงสามารถนำเช็คมาฟ้องร้องได้
2.1) ผู้สั่งจ่ายเช็คตาย ม.992 (หน้าที่และความรับผิดตกทอดแก่ทายาทผู้สั่งจ่ายตามม.1599 วรรคหนึ่ง , 1600 ทายาทของลูกหนี้จึงถูกเจ้าหนี้ฟ้องได้โดยตรง เพียงแต่ไม่ต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกได้แก่ตนตามม.1601)
-ม.992 "หน้าที่และอำนาจของธนาคารซึ่งจะใช้เงินตามเช็คอันเบิกแก่ตนนั้น ท่านว่าเป็นอันสุดสิ้นไปเมื่อกรณีเป็นดังจะกล่าวต่อไปนี้ คือ (1).. (2) รู้ว่าผู้สั่งจ่ายตาย.." ธนาคารรู้ว่าผู้สั่งจ่ายตาย ธนาคารจะต้องปฏิเสธการใช้เงินตามเช็ค (หน้าที่ใช้เงินตามเช็คสิ้นสุดลง ธนาคารใช้ดุลพินิจไม่ได้ หากธนาคารฝ่าฝืนใช้เงินตามเช็คไป อาจถูกทายาทของผู้สั่งจ่ายฟ้องร้องได้)
2.2) ผู้ทรงทราบว่าบัญชีของผู้สั่งจ่ายปิดไปแล้ว จึงไม่ได้ยื่นต่อธนาคาร เพราะเมื่อบัญชีปิดแล้วธนาคารก็ไม่ใช้เงิน
-ม.959 นำไปใช้กับเช็คม.989 ผู้ทรงเช็คจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่บรรดาผู้สลักหลัง ผู้สั่งจ่าย และบุคคลอื่น ๆ ซึ่งต้องรับผิดตามตั๋วเงินนั้นก็ได้ คือ .. (ข) ไล่เบี้ยได้แม้ทั้งตั๋วเงินยังไม่ถึงกำหนดในกรณีดังจะกล่าวต่อไปนี้ คือ ..(2) ถ้าผู้จ่าย..ได้งดเว้นการใช้หนี้ ไล่เบี้ยได้แม้ทั้งเช็คยังไม่ถึงกำหนด ม.959(ข)(2)+989 ฎ.1494/2529 , 1865/2517
3. เช็ค เป็นหนังสือตราสารที่ธนาคารจัดทำขึ้น ให้ผู้สั่งจ่ายซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีใช้ในการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ (ผู้สั่งจ่ายเช็คเป็นเจ้าของบัญชี สั่งธนาคารให้ใช้เงินตามเช็คแก่ผู้รับเงิน)
-แคชเชียร์เช็ค (ธนาคารมี 2 ฐานะ คือ เป็นผู้สั่งจ่ายและเป็นผู้ใช้เงินตามเช็ค) ศาลฎีกาเคยตัดสินว่าเมื่อเช็คมีรายการครบถ้วนตามม.988 แคชเชียร์เช็คจึงถือว่าเป็นเช็คตามม.987 (มีบางมาตราใช้เฉพาะลูกค้าธนาคารเป็นผู้สั่งจ่าย ม.991 , 992 จึงไม่นำมาใช้กับธนาคาร ไม่นำมาใช้กับแคชเชียร์เช็ค)
***จบการบรรยาย***
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น