สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายตัวแทน ประกันภัย ตั๋วเงิน บัญชีเดินสะพัด (ครั้งที่ 2)

สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายตัวแทน ประกันภัย ตั๋วเงิน บัญชีเดินสะพัด (ครั้งที่ 2)
อาจารย์ประเสริฐ เสียงสุทธิวงศ์
วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม 2568
**********

1. คราวที่แล้วอาจารย์บรรยายไม่จบในเรื่อง ลักษณะที่สำคัญของตั๋วเงิน ประการแรก ม.899 ข้อความอันใดซึ่งมิได้มีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายลักษณะตั๋วเงิน ถ้าเขียนลงในตั๋วเงิน ข้อความอันนั้นหาเป็นผลอย่างหนึ่งอย่างใดแก่ตั๋วเงินนั้นไม่ ข้อความไม่มีผล แต่ตั๋วเงินยังสมบูรณ์ ใช้บังคับได้ ไม่เสียไป***
-ฎ.4714/2547 ***อันนี้เป็นตัวอย่างที่ดี ผู้สลักหลังตั๋วสัญญาใช้เงิน เขียนข้อความว่าไล่เบี้ยกับตนไม่ได้ ม.985 ไม่ได้นำ ม.915 (1) ในเรื่องตั๋วแลกเงิน มาใช้กับตั๋วสัญญาใช้เงิน ข้อความที่เขียนจึงไม่มีผล 
1) การขีดฆ่าข้อความในตั๋วสัญญาใช้เงิน การขีดฆ่าไม่ใช่การเขียนข้อความ ดังนั้น การขีดฆ่าข้อความจึงมีผล
-ฎ.6305/2548 นาย ก. สั่งจ่ายเช็ค โดยเขียนคำว่า "สด" หลังคำว่าจ่าย หมายถึง จ่ายเงินสด และขีดฆ่าคำว่า "หรือผู้ถือ" ต่อมาโจทก์ผู้ทรงเช็คดังกล่าว นำเช็คไปขึ้นเงิน ธนาคารปฏิเสธการจ่าย โจทก์จึงฟ้องนาย ก. ให้รับผิดชำระเงินตามเช็ค ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เพราะเช็คไม่สมบูรณ์ ม.988(4) และ ม.989 ไม่มีชื่อผู้รับเงิน และไม่มีคำจดแจ้งว่าให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ เพราะขีดฆ่าข้อความ "หรือผู้ถือ" ออก โจทก์อุทธรณ์ฎีกาว่าการขีดฆ่าข้อความไม่มีบัญญัติในกฎหมายตั๋วเงิน จึงไม่มีผล เท่ากับไม่มีการขีดฆ่า รายการเช็คจึงสมบูรณ์ ศาลฎีกาตัดสินว่า การขีดฆ่าดังกล่าวไม่ใช่กรณีตาม ม.899 การขีดฆ่าข้อความจึงมีผล เช็คพิพาทจึงไม่สมบูรณ์ แม้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน นาย ก. ก็ไม่ต้องรับผิด เพราะสิทธิที่โจทก์นำมาฟ้องไม่สมบูรณ์เป็นเช็ค
2) กรณีที่กฎหมายอนุญาตให้เขียนในตั๋วเงิน มีผลผูกพันคู่ความ
-ม.911 ผู้สั่งจ่ายตั๋วแลกเงินสามารถเขียนข้อกำหนดให้คิดดอกเบี้ยได้ มีผลบังคับได้
-ม.915 ผู้สั่งจ่ายตั๋วแลกเงินและผู้สลักหลัง มีสิทธิเขียนข้อกำหนดลบล้างหรือข้อจำกัดความรับผิดของตนเองต่อผู้ทรงตั๋วเงินได้
-ม.917 วรรคสอง เมื่อผู้สั่งจ่ายตั๋วแลกเงินเขียนลงในด้านหน้า ว่าเปลี่ยนมือไม่ได้ มีผลบังคับได้ เช่น นาย ก. สั่งจ่ายเช็ค เขียนด้านหน้าว่า "เปลี่ยนมือไม่ได้" เช็คฉบับนี้จะสลักหลังส่งมอบต่อไปไม่ได้แล้ว เป็นเช็คที่ห้ามเปลี่ยนมือ
-ม.923 ผู้สลักหลังคนใดระบุข้อความห้ามสลักหลังสืบไปลงไว้แล้ว เช่น นาย ก. ผู้ทรงเช็ค ได้สลักหลังโอนเช็คให้แก่นาย ข. โดยนาย ก. ได้เขียนข้อความไว้ว่าห้ามสลักหลังต่อ มีผลใช้บังคับได้

2. ลักษณะที่สำคัญของตั๋วเงิน ประการที่สอง การลงลายมือชื่อ
การลงลายมือชื่อจะมีลักษณะพิเศษ 2 ประการ
1) การลงลายมือชื่อในตั๋วเงิน จะต้องลงลายมือชื่อที่แท้จริงเท่านั้น จะลงเพียงเครื่องหมายอย่างหนึ่งอย่างใด แกงใด ลายพิมพ์นิ้วมือ พยานลงลายมือชื่อรับรอง 2 คน ก็ไม่มีผลเป็นการลงลายมือชื่อในตั๋วเงิน ตาม ม.900 วรรคสอง (ต่างจากสัญญาทั่วไป ม.9 วรรคสอง ลายพิมพ์นิ้วมือ พยานลงลายมือชื่อรับรอง 2 คน มีผลเสมอกับการลงลายมือชื่อ จึงกล่าวได้ว่า ม.900 วรรคสอง เป็นข้อยกเว้นของ ม.9 วรรคสอง)
2) การลงลายมือชื่อแทน (ในทางทฤษฎี ในความเป็นจริงคงไม่เกิดขึ้น) ม.1008 วรรคสอง นาย ข. ลงลายมือชื่อนาย ก. โดยไม่ได้รับมอบอำนาจ นาย ก. ก็สามารถให้สัตยาบันรับรองได้ ดังนั้นการมอบอำนาจก็ยิ่งทำได้ นาย ก. สามารถมอบอำนาจให้นาย ข. ลงลายมือชื่อนาย ก. ในตั๋วเงินได้ (ปกติไม่สามารถลงลายมือชื่อแทนกันได้ แม้เจ้าของลายมือชื่อจะมอบหมายให้ลงลายมือชื่อแทนก็ไม่ได้)

3. ม.900 วรรคหนึ่ง เป็นมาตราที่ใช้กันมากที่สุดในกฎหมายตั๋วเงิน บุคคลผู้ลงลายมือชื่อของตนในตั๋วเงิน ย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในตั๋วเงิน คดีที่เกิดขึ้น หากจำเลยยอมรับว่าเป็นผู้ลงลายมือชื่อในตั๋วเงินจริง เป็นผู้สั่งจ่าย เป็นผู้สลักหลัง เป็นผู้ออกตั๋ว เป็นผู้รับอาวัลจริง แต่ยกข้อต่อสู้ว่าตนไม่ต้องรับผิด เช่นนี้ภาระการพิสูจน์ตกแก่ฝ่ายจำเลยทันที โจทก์ไม่ต้องพิสูจน์อะไรแล้ว
*ม.900 ก็คือลูกหนี้ตามตั๋วเงิน ถ้าคำถาม ถามว่าบุคคลใดบ้างต้องรับผิดตามตั๋วเงิน ให้จดชื่อมีบุคคลใดบ้างที่ลงลายมือชื่อในตั๋วเงินฉบับนั้น บุคคลเหล่านั้นเป็นลูกหนี้ในตั๋วเงิน ที่จะถูกฟ้องให้รับผิดตามตั๋วเงิน ตามฐานะที่ได้ลงลายมือชื่อ
-บุคคลผู้เขียนรายการ กรอกข้อความ เขียนข้อความต่าง ๆ ลงในตั๋วเงิน บุคคลเหล่านี้ไม่มีความรับผิดตาม ม.900 วรรคหนึ่ง เพราะไม่ใช่การลงลายมือชื่อ (ฎ.2512/2539 , ฎ.5645/2564)
-ม.910 วรรคท้าย ***มักจะนำมาเป็นคำถามบ่อยครั้ง เช็คไม่ลงวันที่ ผู้ทรงลงวันที่ถูกต้องได้ แสดงให้เห็นว่า ผู้สั่งจ่ายไม่จำเป็นต้องเป็นคนเขียนรายการต่าง ๆ ด้วยตัวเองเท่านั้น
-"บุคคลผู้ลงลายมือชื่อของตน" ศาลฎีกาตัดสินว่า ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาก็คือคนที่เขียนลายมือชื่อด้วยตนเอง จะเป็นภาษาไทย อังกฤษ ชื่อจริง ชื่อเล่น นามสกุล ได้หมด , ถ้าเป็นนิติบุคคลก็คือผู้แทนนิติบุคคล และอาจมีการประทับตรานิติบุคคลตามข้อบังคับ
นาย ก. ออกเช็คผู้ถือ ชำระหนี้นาย ข. นาย ข. สลักหลังโอนเช็คผู้ถือชำระหนี้นาย ค. โดยนาย ข. ไม่ได้ใช้ชื่อตนเอง แต่ใช้ชื่อร้านแสงรุ่งเรือง นาย ค. เอาเช็คไปขึ้นเงิน ธนาคารไม่ใช้เงินตามเช็ค นาย ค. จึงฟ้องนาย ก. และนาย ข. ให้รับผิด ในส่วนของนาย ข. ต่อสู้ว่าไม่ได้ลงลายมือชื่อสลักหลังเช็ค จึงไม่มีความรับผิดตามเช็ค ศาลฎีกาวางหลักเกณฑ์ว่ากรณีบุคคลธรรมดาลงลายมือชื่อ จะลงชื่อสมมุติ นามแฝง หรือชื่อเสียงที่ใช้ในทางการค้าก็ได้ ขอเพียงให้เป็นที่แน่นอนว่าหมายถึงบุคคลใด โดยมีเจตนาให้ลายมือชื่อที่ลงเป็นชื่อตน นาย ข. จึงต้องรับผิด และเมื่อเป็นเช็คผู้ถือ การสลักหลังก็รับผิดในฐานะผู้รับอาวัล ตาม ม.921 (ฎ.2417/2536)

4. นอกจาก ม.900 ที่ต้องรับผิดเมื่อลงลายมือชื่อแล้ว ต่อไปจะดูว่ามีใครอีกที่ต้องรับผิด เมื่อลงลายมือชื่อของตนฐานะใด ก็รับผิดในฐานะนั้น 
1) คนที่ลงลายมือชื่อคนแรกในตั๋วเงิน ผู้ให้กำเนิดตั๋วเงิน ได้แก่ 
ผู้สั่งจ่ายตั๋วแลกเงิน ม.909(8) 
ผู้สั่งจ่ายเช็ค ม.988(8) 
ผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน ม.983(7)
2) คนที่สลักหลังตั๋วเงิน โอนตั๋วชนิดระบุชื่อผู้รับเงิน ผู้สลักหลังก็มีความรับผิด ม.919 คำสลักหลังต้องเขียนลงในตั๋วแลกเงิน และต้องลงลายมือชื่อผู้สลักหลัง
3) ผู้รับรองตั๋วแลกเงิน ม.931
-ในเรื่องตั๋วแลกเงิน นาย ก. เป็นผู้สั่งจ่ายตั๋วแลกเงิน สั่งนาย ข. ให้จ่ายเงินจำนวน 100,000 บาท แก่นาย ค. ในวันที่กำหนด เมื่อตั๋วแลกเงินถึงกำหนด นาย ค. เอาตั๋วไปยื่นให้นาย ข. จ่าย แต่นาย ข. ไม่จ่าย เช่นนี้ นาย ค. จะฟ้องนาย ข. ได้ไหม คำตอบ นาย ค. จะฟ้องนาย ข. ไม่ได้ เพราะนาย ข. ไม่ได้ลงลายมือชื่อในตั๋วแลกเงิน นาย ข. เพียงแต่รับคำสั่งจากนาย ก. ให้จ่ายเงินตามตั๋ว แต่นาย ข. ไม่ได้ลงลายมือชื่อ ความรับผิดจึงไม่มี *นาย ข. ผู้จ่ายเงินตามตั๋วแลกเงินจะรับผิดต่อเมื่อลงลายมือชื่อในตั๋วแลกเงิน คือ นาย ข. ผู้จ่ายเงินตามตั๋วแลกเงินได้ทำการรับรองตั๋วแลกเงิน ซึ่งการรับรองตั๋วแลกเงิน ผู้จ่ายจะต้องลงลายมือชื่อ ตาม ม.931 (ผู้จ่าย ถ้าได้รับรองตั๋วแลกเงิน แล้วไม่จ่าย ก็ต้องรับผิด)
4) ผู้รับอาวัล ในกฎหมายตั๋วเงิน อาจจะมีบุคคลค้ำประกันความรับผิดตามตั๋วเงิน เรียกว่า ผู้รับอาวัล
-ม.939 วรรคสอง และวรรคสาม ลงลายมือชื่อและรับผิดฐานะผู้รับอาวัล
5) ถ้าธนาคารไม่ใช้เงินตามเช็ค ผู้ทรงจะฟ้องธนาคารให้รับผิดตามเช็คได้ไหม ฟ้องธนาคารไม่ได้ เพราะธนาคารไม่ได้ลงลายมือชื่อในเช็ค , ธนาคารจะต้องรับผิดตามเช็คเมื่อใด จะรับผิดเมื่อธนาคารลงลายมือชื่อในเช็ค 
-ธนาคารออกแคชเชียร์เช็ค ธนาคารลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่าย ธนาคารจึงมีความรับผิดแล้ว
ในฐานะผู้สั่งจ่าย เพราะธนาคารลงลายมือชื่อ 
-ม.993 ธนาคารรับรองเช็ค ธนาคารลงลายมือชื่อรับรอง (ม.933 เป็นหมัน ในทางปฏิบัติไม่น่าจะมีการใช้ เพราะธนาคารคงไม่ไปรับรองเช็คให้ใคร)
*สรุป เมื่อลงลายมือชื่อฐานะใด ก็รับผิดตามฐานะนั้น เวลาตอบคำถาม นักศึกษาจะต้องระบุด้วยว่ารับผิดฐานะอะไร

5. รับผิดตามเนื้อความในตั๋วเงิน หมายถึง จำนวนเงินที่ต้องรับผิด
-ตั๋วแลกเงิน สั่งจ่ายเงิน 100,000 บาท , ตั๋วสัญญาใช้เงิน สัญญาจะใช้เงิน 100,000 บาท , เช็คสั่งจ่ายเงิน 100,000 บาท ลูกหนี้ตามตั๋วเงินก็ต้องรับผิดตามเนื้อความในตั๋วเงินนั้น คือ 100,000 บาท 
ยกเว้นว่าจะมีการเขียนข้อความลบล้างหรือจำกัดความรับผิดในตั๋วแลกเงินตาม ม.915 หรือผู้รับอาวัล รับอาวัลจำนวนเงินตามตั๋วแต่เพียงบางส่วน

6. มีตัวอย่างคดีหนึ่ง หาฐานะที่ต้องรับผิดไม่ได้ ผู้ลงลายมือชื่อตั๋วเงิน ต้องรับผิดตามตั๋วเงินหรือไม่ เพราะหาฐานะที่ต้องรับผิดไม่ได้ จำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายเช็ค โดยขีดคำว่า "หรือผู้ถือ" ออก ระบุชื่อโจทก์เป็นผู้รับเงิน (เป็นเช็คระบุชื่อผู้รับเงิน) ขณะที่สั่งจ่ายเช็คดังกล่าว มีจำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อด้านหลังเช็คด้วย (ทำนองว่าเป็นการรับรอง ไม่ต้องห่วง ถ้าเช็คเด้ง จะร่วมรับผิดด้วย) ต่อมาเช็คเด้ง โจทก์จึงฟ้องจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่าย ส่วนจำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อด้านหลังเช็ค ม.900 วรรคหนึ่ง ต้องรับผิดตามเช็ค แต่หาฐานะที่ต้องรับผิดไม่เจอ นักศึกษาลองไล่มาตราดู 
1) เช็คระบุชื่อผู้รับเงิน ไม่ใช่เช็คผู้ถือ จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อด้านหลักเช็คโดยไม่เคยเป็นผู้ทรงมาก่อน จึงไม่ใช่ผู้สลักหลัง ม.917 , ม.919 (คนที่จะสลักหลังเช็ค ต้องเป็นผู้ทรงมาก่อน)
2) เป็นผู้รับอาวัลไหม ม.939 วรรคสาม "..เพียงแต่ลงลายมือชื่อของผู้รับอาวัลในด้านหน้าแห่งตั๋วเงิน ท่านก็จัดว่าเป็นคำรับอาวัลแล้ว" จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อด้านหลัง จึงไม่เข้า ม.939 วรรคสาม
3) เหลือมาตราเดียว ม.921 การสลักหลังเช็คซึ่งสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือนั้น ย่อมเป็นเพียงประกัน (อาวัล) สำหรับผู้สั่งจ่าย กรณีตามปัญหาไม่ใช่เช็คผู้ถือ จึงไม่เข้า ม.921
ศาลฎีกาประชุมใหญ่ตัดสินว่า ถือว่าจำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อด้านหลังเช็คด้วยความสมัครใจที่จะผูกพันต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงในอันที่จะรับผิดตามข้อความในเช็คนั้นอย่างเดียวกับจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่าย ด้วยการลงลายมือชื่อของตนในเช็ค ตาม ม.900 (ฎ.3788/2524 (ป) , ฎ.4872/2533)
-การปลอมลายมือชื่อผู้อื่น เช่น นาย ข. ปลอมลายมือชื่อนาย ก. สั่งจ่ายเช็ค นาย ข. จะต้องรับผิดไหม คำตอบ นาย ก. ไม่ต้องรับผิดแน่ เพราะไม่ได้ลงลายมือชื่อ ม.1008 ส่วนนาย ข. ต้องรับผิดตามเนื้อความในตั๋วเงิน เพราะชื่อที่ปลอม ก็มาจากลายมือนาย ข. เอง (ข้อสอบเนติ สมัย 48)

***จบการบรรยาย***

ความคิดเห็น

10 บทความยอดนิยมประจำสัปดาห์

แนวข้อสอบ พนักงานราชการ (ข้อ 1 - 10)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 (55 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (30 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ชุดที่ 1)

แนวข้อสอบ ระเบียบฯ สารบรรณ (ชุดที่ 3)

สาระสำคัญ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (ฉบับเตรียมสอบ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542

สาระสำคัญ พ.ร.บ.สถิติ พ.ศ. 2550 (ฉบับเตรียมสอบ)

การส่งเด็กเข้าเรียนตามกฎหมาย