สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายตัวแทน ประกันภัย ตั๋วเงิน บัญชีเดินสะพัด (ครั้งที่ 13)
สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายตัวแทน ประกันภัย ตั๋วเงิน บัญชีเดินสะพัด (ครั้งที่ 13)
อาจารย์ประเสริฐ เสียงสุทธิวงศ์
วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568
**********
1. ครั้งที่แล้ว ตอนท้ายชั่วโมง เป็นเรื่องการลงลายมือชื่อปลอมหรือลงโดยปราศจากอำนาจ ตามม.1008 โดยมีม.949 , 1009 เป็นบทบัญญัติคุ้มครองผู้มีหน้าที่ใช้เงินตามตั๋วเงินแต่ละประเภท หากไม่เข้าม.949 , 1009 ค่อยมาดูม.1008
-ม.1008 วรรคหนึ่ง "ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติทั้งหลายในประมวลกฎหมายนี้ เมื่อใดลายมือชื่อในตั๋วเงินเป็นลายมือปลอมก็ดี เป็นลายมือชื่อลงไว้โดยที่บุคคลซึ่งอ้างเอาเป็นเจ้าของลายมือชื่อนั้นมิได้มอบอำนาจให้ลงก็ดี ท่านว่าลายมือชื่อปลอมหรือลงปราศจากอำนาจเช่นนั้นเป็นอันใช้ไม่ได้เลย ใครจะอ้างอิงอาศัยแสวงสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อยึดหน่วงตั๋วเงินไว้ก็ดี เพื่อทำให้ตั๋วนั้นหลุดพ้นก็ดี หรือเพื่อบังคับการใช้เงินเอาแก่คู่สัญญาแห่งตั๋วนั้นคนใดคนหนึ่งก็ดี ท่านว่าไม่อาจจะทำได้เป็นอันขาด เว้นแต่คู่สัญญาฝ่ายซึ่งจะพึงถูกยึดหน่วงหรือถูกบังคับใช้เงินนั้นจะอยู่ในฐานเป็นผู้ต้องตัดบทมิให้ยกข้อลายมือชื่อปลอม หรือข้อลงลายมือชื่อปราศจากอำนาจนั้นขึ้นเป็นข้อต่อสู้"
1.1) "..ท่านว่า...เป็นอันใช้ไม่ได้เลย" คือ ตั๋วเงินนั้นไม่มีผลผูกพันเจ้าของลายมือชื่อที่แท้จริง ไม่มีความรับผิดตามตั๋วเงิน , แต่ถ้าเจ้าของลายมือชื่อไปร่วมมือให้มีการปลอม จะอ้างว่าเป็นลายมือชื่อปลอมไม่ได้ เพราะอยู่ในในฐานเป็นผู้ต้องตัดบทมิให้ยกข้อลายมือชื่อปลอม หรือข้อลงลายมือชื่อปราศจากอำนาจนั้นขึ้นเป็นข้อต่อสู้
1.2) "..ใครจะอ้างอิงอาศัยแสวงสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อยึดหน่วงตั๋วเงินไว้ก็ดี ... ท่านว่าไม่อาจจะทำได้เป็นอันขาด.."
-ตัวอย่าง ก.มีชื่อเป็นผู้รับเงินตามเช็ค มีคนปลอมลายมือชื่อ ก. สลักหลังโอนเช็คให้ ข. ซึ่ง ข. รับเช็คมาโดยสุจริตไม่รู้ว่ามีการสลักหลังปลอม ต่อมา ก. ทราบว่าเช็คอยู่ในความครอบครองของ ข. จึงทวงเช็คคืนจาก ข. เช่นนี้ ข. จะยึดหน่วงไม่คืนเช็คได้หรือไม่? คำตอบ ยึดหน่วงไว้ไม่ได้ตามม.1008 (ต่างจากม.905 วรรคสอง ซึ่งม.905 วรรคสอง เป็นเรื่องที่ไม่มีลายมือชื่อปลอม กฎหมายจึงคุ้มครองคนที่ได้รับเช็คมา สามารถยึดหน่วงไว้ได้)
-ตัวอย่าง ก.มีชื่อเป็นผู้รับเงินตามเช็ค ข. ใช้ปืนขู่ ก. ให้สลักหลังโอนเช็คให้ ข. ก.กลัวจึงสลักหลังโอนเช็คให้ ข. เมื่อ ข. ได้รับเช็คมาแล้ว ก็สลักหลังโอนให้ ค. ซึ่ง ค. รับเช็คมาโดยสุจริตปราศจากประมาทเลินเล่อ ต่อมา ก. มาทวงเช็คคืนจาก ค. เช่นนี้ ค. จะยึดหน่วงไม่คืนเช็คได้หรือไม่? คำตอบ ยึดหน่วงไว้ได้ตามม.905 วรรคสอง ผู้รับโอนมีสิทธิดีกว่าผู้โอน เพราะเป็นลายมือชื่อของ ก. จริง (ไม่มีการปลอม ไม่เข้าม.1008 ถ้าตอบม.1008 มา ผิด100%)
1.3) "..ใครจะอ้างอิงอาศัยแสวงสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด.. เพื่อทำให้ตั๋วนั้นหลุดพ้นก็ดี .. ท่านว่าไม่อาจจะทำได้เป็นอันขาด.."
-ตัวอย่าง ธนาคารใช้เงินตามเช็ค ซึ่งเช็คดังกล่าวมีลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายปลอม ธนาคารจะอ้างว่าใช้เงินตามเช็คโดยสุจริตปราศจากประมาทเลินเล่อ จึงหลุดพ้นจากความรับผิดตามเช็คได้หรือไม่? คำตอบ ธนาคารจะอ้างเพื่อให้หลุดพ้นไม่ได้ หรือจะอ้างอิงเพื่อบังคับการใช้เงินเอาแก่คู่สัญญาแห่งตั๋วนั้น (หักเงินในบัญชีผู้สั่งจ่าย) ก็ไม่ได้ ตามม.1008 ฎ.1795/2541 , 2274/2534
-ตัวอย่าง ธนาคารใช้เงินตามเช็ค โดยสุจริตปราศจากประมาทเลินเล่อ ซึ่งเช็คดังกล่าวมีลายมือชื่อผู้รับเงินหรือผู้สลักหลังปลอม จะเข้าม.1009 กฎหมายคุ้มครองธนาคาร ให้ถือว่าธนาคารได้ใช้เงินไปถูกระเบียบ
-ถ้าคำถามเกี่ยวกับธนาคารใช้เงินตามเช็คที่มีลายมือปลอม ดูว่าลายมือชื่อของใคร ถ้าลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายปลอม เข้าม.1008 ถ้าลายมือชื่อผู้รับเงินหรือผู้สลักหลังปลอม เข้าม.1009
1.4) "..ใครจะอ้างอิงอาศัยแสวงสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อบังคับการใช้เงินเอาแก่คู่สัญญาแห่งตั๋วนั้นคนใดคนหนึ่งก็ดี ท่านว่าไม่อาจจะทำได้เป็นอันขาด.."
-(ธนาคารปฏิเสธการใช้เงิน ผู้ทรงฟ้องใครไม่ได้เลย บางคนอ่านเร็ว ๆ แบบนี้ไม่ถูกต้อง) ความหมายที่ถูกต้องของบทบัญญัตินี้คือ จะบังคับให้คู่สัญญาแห่งตั๋วเงินที่ลงลายมือชื่อก่อนลายมือชื่อปลอมไม่ได้*** แต่สามารถฟ้องคู่สัญญาภายหลังที่มีการปลอมแล้วได้ ตามข้อยกเว้นม.1008 วรรคหนึ่ง "..เว้นแต่คู่สัญญาฝ่ายซึ่งจะพึงถูกยึดหน่วงหรือถูกบังคับใช้เงินนั้นจะอยู่ในฐานเป็นผู้ต้องตัดบทมิให้ยกข้อลายมือชื่อปลอม หรือข้อลงลายมือชื่อปราศจากอำนาจนั้นขึ้นเป็นข้อต่อสู้"
-ตัวอย่าง ก.ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็ค ระบุชื่อ ข. เป็นผู้รับเงิน (เช็คระบุชื่อผู้รับเงิน การโอนจะต้องสลักหลังและส่งมอบม.917 วรรคหนึ่ง) มีคนแอบนำเช็คไปแล้วปลอมลายมือชื่อ ข. สลักหลังโอนเช็คให้ ค. โดย ค. รับเช็คไว้โดยสุจริตปราศจากประมาทเลินเล่อ ต่อมา ค. สลักหลังโอนเช็คให้ ง. จากนั้น ง. นำเช็คไปขึ้นเงิน ธนาคารปฏิเสธการใช้เงิน เช่นนี้ ง. จะฟ้องใครได้บ้าง?
--คำตอบ ม.1006 การที่ลายมือชื่ออันหนึ่งในตั๋วเงินเป็นลายมือปลอม ย่อมไม่กระทบกระทั่งถึงความสมบูรณ์แห่งลายมือชื่ออื่น ๆ ในตั๋วเงินนั้น คือ ลายมือชื่ออันไหนปลอมก็ใช้ไม่ได้ ลายมือชื่ออันไหนแท้จริงก็สมบูรณ์ ส่วนลายมือชื่อที่แท้จริงนั้นจะต้องรับผิดไหม ก็ดูม.1008 วรรคหนึ่ง มีทั้ง 2 กรณี ทั้งต้องรับผิดและไม่ต้องรับผิด ตามคำถามมีลายมือชื่อจริงคือ ก. และ ค.
--กรณี ก. ง. ผู้ทรง จะอ้างอิงอาศัยแสวงสิทธิ ฟ้องบังคับการใช้เงินเอาแก่ ก. ผู้สั่งจ่ายไม่ได้เป็นอันขาดตามม.1008 วรรคหนึ่ง
--กรณี ข. ฟ้อง ข.ไม่ได้ เพราะลายมือชื่อปลอม เป็นอันใช้ไม่ได้เลย ตามม.1008 วรรคหนึ่ง ตอนต้น ข.ไม่ได้ลงลายมือชื่อในตั๋วเงิน ความรับผิดย่อมไม่มี (แต่ถ้ารู้ตัวคนที่ปลอมลายมือชื่อ คนที่ปลอมต้องรับผิด เพราะเป็นผู้ลงลายมือชื่อด้วยตัวเอง)
--กรณี ค. ค. เป็นบุคคลที่ลงลายมือชื่อภายหลังลายมือชื่อปลอม เป็นบุคคลผู้อยู่ในฐานเป็นผู้ต้องตัดบท (กฎหมายปิดปาก) มิให้ยกข้อลายมือชื่อปลอมนั้นขึ้นเป็นข้อต่อสู้ จึงฟ้อง ค. ได้ การที่ ง. ฟ้อง ค. ไม่ใช่การอาศัยแสวงสิทธิผ่านลายมือชื่อปลอม
--จากตัวอย่างนี้ ถ้าเป็นกรณีไม่มีการปลอมลายมือชื่อเลย ง. สามารถฟ้องผู้ที่ลงลายมือชื่อได้ทุกคน ตามม.900 วรรคหนึ่ง , 914 , 989 , 967
--จากตัวอย่างเดิม ถ้าเป็นกรณีที่เช็คไม่เด้ง ธนาคารได้ใช้เงินตามเช็คโดยสุจริตปราศจากประมาทเลินเล่อ ถือว่าธนาคารใช้เงินไปโดยถูกระเบียบตามม.1009
1.5) "..เว้นแต่คู่สัญญาฝ่ายซึ่งจะพึงถูกยึดหน่วงหรือถูกบังคับใช้เงินนั้น จะอยู่ในฐานเป็นผู้ต้องตัดบท มิให้ยกข้อลายมือชื่อปลอม หรือข้อลงลายมือชื่อปราศจากอำนาจนั้นขึ้นเป็นข้อต่อสู้.." บุคคลที่กฎหมายปิดปาก ได้แก่
-บุคคลที่รู้เห็น ยินยอมเกี่ยวกับการปลอมหรือการลงลายมือชื่อโดยปราศจากอำนาจ
-ฎ.602/2563 อธิบายความหมายว่า อาจเป็นกรณีที่เจ้าของลายมือชื่อที่ถูกปลอม อาจแสดงกิริยาอย่างหนึ่งอย่างใดให้คนภายนอกหลงเชื่อ ว่าลายมือชื่อที่ลงในตั๋วเงินนั้นเป็นลายมือชื่อที่แท้จริงของตน เป็นเหตุให้บุคคลภายนอกทำการไปโดยหลงเชื่อ จนอาจเป็นที่เสียหายแก่เขา เจ้าของลายมือชื่อที่ถูกปลอมจะอ้างในภายหลังว่าเป็นลายมือชื่อปลอมให้เป็นการเสียหายแก่เขาไม่ได้
-บุคคลที่ลงลายมือชื่อภายหลังลายมือชื่อปลอม
-ฎ.918/2522 , 2168/2536 ปลอมลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายเช็คผู้ถือ มีผู้สลักหลังเช็คผู้ถือซึ่งต้องรับผิดเป็นผู้รับอาวัล เมื่อลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายปลอม ผู้สั่งจ่ายจึงไม่ต้องรับผิด ผู้รับอาวัลต้องรับผิดอยู่ในฐานเป็นผู้ต้องตัดบท (ลงลายมือชื่อภายหลังลายมือชื่อปลอม)
-(กรณีอ้างว่า ลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายปลอม เช็คไม่สมบูรณ์ ศาลวินิจฉัยว่าเช็คมีรายการครบถ้วน มีการลงลายมือชื่อของคนที่ปลอม จึงมีรายการครบถ้วนตามม.988 สมบูรณ์เป็นเช็ค)
-ฎ.2089/2531 ผู้สลักหลังต้องรับผิดต่อโจทก์ เพราะลงลายมือชื่อภายหลังลายมือชื่อปลอม
2. ม.1008 วรรคสอง แต่ข้อความใด ๆ อันกล่าวมาในมาตรานี้ ท่านมิให้กระทบกระทั่งถึงการให้สัตยาบัน (ให้คำรับรอง) แก่ลายมือชื่อซึ่งลงไว้โดยปราศจากอำนาจแต่หากไม่ถึงแก่เป็นลายมือปลอม
-เจ้าของลายมือชื่อที่ถูกปลอม จะให้สัตยาบันไม่ได้
-เจ้าของลายมือชื่อที่แท้จริงไม่ได้มอบอำนาจให้ลงชื่อในตั๋วเงิน ให้สัตยาบัน ให้คำรับรองตั๋วเงินนั้นได้ จะมีผลทำให้การลงลายมือชื่อโดยปราศจากอำนาจ เป็นการลงลายมือชื่อโดยมีอำนาจ ตั๋วเงินมีผลผูกพันเจ้าของลายมือชื่อ (ถือเป็นลักษณะพิเศษของกฎหมายตั๋วเงินอีกประการ ที่เจ้าของลายมือชื่อสามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นลงลายมือชื่อของเจ้าของลายมือชื่อในตั๋วเงินได้ คงเป็นเพียงทฤษฎี ในทางปฏิบัติอาจไม่เกิดขึ้น)
***จบการบรรยาย***
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น