สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายยืม ค้ำประกัน จำนอง จำนำ (ครั้งที่ 12-13) ครั้งสุดท้าย
สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายยืม ค้ำประกัน จำนอง จำนำ (ครั้งที่ 12-13) ครั้งสุดท้าย
อาจารย์อภิชาติ คงชาตรี
วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม 2568
**********
-ม.727/1 "ไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใด ผู้จำนองซึ่งจำนองทรัพย์สินของตนไว้เพื่อประกันหนี้อันบุคคลอื่นจะต้องชำระ ไม่ต้องรับผิดในหนี้นั้นเกินราคาทรัพย์สินที่จำนองในเวลาที่บังคับจำนองหรือเอาทรัพย์จำนองหลุด (ไม่มีผลย้อนหลังแก่สัญญาจำนองที่ทำก่อน 11 ก.พ.2558)
ข้อตกลงใดอันมีผลให้ผู้จำนองรับผิดเกินที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง หรือให้ผู้จำนองรับผิดอย่างผู้ค้ำประกัน ข้อตกลงนั้นเป็นโมฆะ ไม่ว่าข้อตกลงนั้นจะมีอยู่ในสัญญาจำนองหรือทำเป็นข้อตกลงต่างหาก ทั้งนี้ เว้นแต่เป็นกรณีที่นิติบุคคลเป็นลูกหนี้และบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการตามกฎหมายหรือบุคคลที่มีอำนาจควบคุมการดำเนินงานของนิติบุคคลนั้นเป็นผู้จำนองทรัพย์สินของตนไว้เพื่อประกันหนี้นั้นของนิติบุคคลและผู้จำนองได้ทำสัญญาค้ำประกันไว้เป็นสัญญาต่างหาก" (มีผลใช้บังคับตั้งแต่ 15 ก.ค.2558)
ข้อตกลงใดอันมีผลให้ผู้จำนองรับผิดเกินที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง หรือให้ผู้จำนองรับผิดอย่างผู้ค้ำประกัน ข้อตกลงนั้นเป็นโมฆะ ไม่ว่าข้อตกลงนั้นจะมีอยู่ในสัญญาจำนองหรือทำเป็นข้อตกลงต่างหาก ทั้งนี้ เว้นแต่เป็นกรณีที่นิติบุคคลเป็นลูกหนี้และบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการตามกฎหมายหรือบุคคลที่มีอำนาจควบคุมการดำเนินงานของนิติบุคคลนั้นเป็นผู้จำนองทรัพย์สินของตนไว้เพื่อประกันหนี้นั้นของนิติบุคคลและผู้จำนองได้ทำสัญญาค้ำประกันไว้เป็นสัญญาต่างหาก" (มีผลใช้บังคับตั้งแต่ 15 ก.ค.2558)
-เอาทรัพย์จำนองหลุด หรือเอาขายทอดตลาด แม้ได้เงินสุทธิน้อยกว่า ลูกหนี้ก็ไม่ต้องรับผิดในเงินที่ยังขาดอยู่ ตามม.733 แต่ถ้าเป็นผู้จำนองเพื่อประกันหนี้อันบุคคลอื่นจะต้องชำระ ไม่ต้องรับผิดในหนี้เกินราคาทรัพย์ที่จำนอง ถ้ามีข้อตกลงให้รับผิดเกินหรือให้ผู้จำนองรับผิดอย่างผู้ค้ำประกัน ข้อตกลงนั้นเป็นโมฆะ ตามม.727/1
2. หลักเกณฑ์ ม.733
2.1) ต้องมีการบังคับจำนอง ผู้จำนองโอนที่ดินจำนองให้โจทก์ผู้รับจำนองเป็นการชำระหนี้ส่วนหนึ่ง เป็นการตีใช้หนี้ไม่ใช่การบังคับจำนอง ไม่อยู่ในบังคับม.733 เมื่อโจทก์ได้รับชำระหนี้ไปเพียงส่วนหนึ่ง ก็ย่อมมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้เงินกู้ชำระส่วนที่ยังขาดอยู่ได้ ฎ.300/2506 (ป) , 2737/2559
2.2) ลูกหนี้ชั้นต้นในหนี้ประธาน ไม่ต้องรับผิดในส่วนขาดไปจากวงเงินจำนอง
-สัญญาจำนองไม่มีข้อความว่า หากบังคับชำระหนี้เอาทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดได้เงินไม่พอชำระหนี้ ให้บังคับเอาจากทรัพย์สินอื่นของลูกหนี้หรือลูกหนี้จะต้องรับผิดในส่วนขาด (ไม่มีข้อตกลงยกเว้นม.733) กรณีจึงต้องอยู่ในบังคับม.733 โจทก์ยึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์ หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ ก็ไม่อาจขอให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองมาชำระหนี้แก่โจทก์จนครบถ้วนได้ ตามม.733 ฎ.6612/2559 (ป) , 3496/2563
2.3) ไม่ต้องรับผิดส่วนที่ขาด หมายถึง ขาดจากวงเงินจำนอง แต่กรณีหนี้จำนองต่ำกว่าหนี้ประธาน ลูกหนี้ยังต้องรับผิดในส่วนที่เกินจากวงเงินจำนอง
-หนี้จำนองมีจำนวนน้อยกว่าหนี้ประธาน หากเอาทรัพย์จำนองหลุดและทรัพย์สินนั้นมีราคาต่ำกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระ หรือถ้าเอาทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดใช้หนี้ ได้เงินจำนวนสุทธิน้อยกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระ เงินยังขาดอยู่เท่าใด ลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดในเงินที่ขาดนั้น แต่ในส่วนที่เกินกว่าวงเงินจำนอง ลูกหนี้ต้องรับผิดชำระหนี้ประธานต่อเจ้าหนี้จนครบจำนวนต่อไป ฎ.15363/2557
2.4) จำนองประกันหนี้อันบุคคลอื่นจะต้องชำระ ลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดส่วนที่ขาดตามม.733
-ฎ.8851/2551 ม.733 ไม่มีข้อจำกัดว่าต้องใช้บังคับเฉพาะในกรณีที่ลูกหนี้จำนองทรัพย์สินของตนเองเท่านั้น จึงใช้บังคับแก่กรณีที่บุคคลหนึ่งจำนองทรัพย์สินของตนไว้เพื่อประกันหนี้อันบุคคลอื่นจะต้องชำระด้วย
2.5) ตกลงกันยกเว้นม.733 ได้
-ข้อตกลงยกเว้นม.733 ไม่ได้มีผลให้ต้องรับภาระเกินกว่าที่พึงคาดหมายได้ ไม่เป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ฎ.6188/2561
-แม้มีข้อตกลงยกเว้นม.733 แต่ถ้าหนี้ประธานขาดอายุความ ลูกหนี้ก็รับผิดไม่เกินทรัพย์จำนองเท่านั้น ฎ.667/2549(ป)
2.6) สัญญาจำนองทำตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558 ม.727/1
-ฎ.2492/2565 จำเลยที่ 3 จำนองที่ดินของตนเป็นประกันหนี้จำเลยที่ 1 โดยมีข้อตกลงยอมชดใช้เงินที่ขาดจำนวนหากขายทอดตลาดที่ดินทรัพย์จำนองได้เงินน้อยกว่าที่ค้างชำระจนครบถ้วน แต่ข้อตกลงเป็นการต้องห้ามตามม.727/1 จึงตกเป็นโมฆะ อันมีผลให้จำเลยที่ 3 ไม่ต้องรับผิดในหนี้นั้นเกินราคาทรัพย์สินที่จำนองในเวลาที่บังคับจำนอง แต่ไม่มีผลไปถึงผู้ค้ำประกัน จำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันจึงยังต้องรับผิด (ฎีกานี้ยังไม่เคยออกข้อสอบ)
2.7) ข้อตกลงยกเว้นม.733 ไม่ผูกพันผู้รับโอนทรัพย์จำนอง
-ข้อตกลงยกเว้นม.733 เป็นบุคคลสิทธิ ผูกพันคู่สัญญา ไม่ผูกพันผู้รับโอนทรัพย์จำนอง (ทรัพยสิทธิ)
2.8) ต้องระบุจำนวนเงินตามม.708 มิฉะนั้นเป็นโมฆะ
3. สรุป ม.733
3.1) ต้องมีการบังคับจำนองตามม.728 , 729 , 735 รวมถึง ม.729/1 วรรคสาม
-กรณีไม่มีการบังคับจำนอง เช่น การโอนตีใช้หนี้ , เจ้าหนี้เลือกฟ้องอย่างเจ้าหนี้สามัญ , ผู้รับโอนไถ่ถอนจำนองตามม.736 , 738
3.2) ม.733 บังคับจำนองแล้ว ยังขาดอยู่ ลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดในส่วนขาดจำนวนเงินตามวงเงินจำนอง ทำให้ยึดทรัพย์อื่นไม่ได้ , ไปขอเฉลี่ยนทรัพย์คดีอื่นไม่ได้ ไม่อาจนำหนี้ที่เหือไปฟ้องคดีล้มละลายได้
3.3) ถ้ายังเหลือหนี้ประธานที่เกินวงเงินจำนอง ลูกหนี้ยังต้องรับผิด
3.4) ใช้บังคับแก่กรณีจำนองประกันหนี้อันบุคคลอื่นจะต้องชำระด้วย
3.5) ตกลงยกเว้นม.733 ได้ จึงบังคับจากทรัพย์อื่นได้ เว้นแต่หนี้ประธานขาดอายุความ บังคับได้เฉพาะทรัพย์จำนอง เพราะม.733 เป็นผลภายหลังบังคับจำนองแล้ว , หากจำนองประกันหนี้บุคคลอื่น ตกเป็นโมฆธตามม.727/1
3.6) ข้อตกลงยกเว้นม.733 เป็นการได้รับชำระหนี้อย่างเจ้าหนี้สามัญ เพราะไม่ใช่จากทรัพย์สินที่จำนองม.702
3.7) กรณีตกลงยกเว้นม.733 โจทก์ฟ้องใช้สิทธิบังคับจำนองและบังคับทรัพย์สินอื่น ศาลพิพากษาให้บังคับจำนองเป็นลำดับก่อน เป็นการพิพากษาให้โจทก์มีสิทธิในการบังคับชำระหนี้น้อยกว่าสิทธิที่มีอยู่ ทั้งที่มีคำขอท้ายฟ้องแล้ว จึงไม่ชอบ ฎ.2498/2566(ป)
3.8) ข้อตกลงยกเว้นม.733 เป็นบุคคลสิทธิ จึงไม่ผูกพันผู้รับโอนทรัพย์จำนอง
4. ความระงับสิ้นไปแห่งสัญญาจำนอง
-จำนองเป็นทรัพยสิทธิ จะสิ้นผลไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายบัญญัติเท่านั้น ม.744(1)-(6)
5. ม.744 "อันจำนองย่อมระงับสิ้นไป (1) เมื่อหนี้ที่ประกันระงับสิ้นไปด้วยเหตุประการอื่นใดมิใช่เหตุอายุความ.."
-ดูเป็นรายสัญญา ฎ.3542/2528 ทรัพย์สินรายหนึ่งอาจจำนองประกันหนี้หลายรายได้ หนี้ที่ประกันรายใดระงับสิ้นไป สัญญาจำนองที่ประกันหนี้รายนั้นย่อมระงับสิ้นไปเฉพาะราย และผู้จำนองมีสิทธิที่จะชำระหนี้เพื่อให้สัญญาจำนองรายใดรายหนึ่งระงับไปโดยไม่จำต้องชำระหนี้ทุกราย
-หากประกันหนี้หลายคน ระงับเป็นรายคน ฎ.1418/2549
-หนี้ที่ประกันระงับสิ้นไป รวมถึงดอกเบี้ยด้วย
-หนี้ประธานระงับ รวมถึงการนำดอกเบี้ยที่ตกเป็นโมฆะไปหักต้นเงินกู้ยืม (เนติ 73)
-เมื่อหนี้ที่ประกันระงับ จำนองระงับ จึงต้องจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองให้
-หนี้ประธานขาดอายุความ หนี้จำนองไม่ระงับม.745 , 193/27
6. ม.745 "ผู้รับจำนองจะบังคับจำนองแม้เมื่อหนี้ที่ประกันนั้นขาดอายุความแล้วก็ได้ แต่จะบังคับเอาดอกเบี้ยที่ค้างชำระในการจำนองเกินกว่าห้าปีไม่ได้"
-เฉพาะดอกเบี้ยก่อนฟ้อง ไม่รวมถึงดอกเบี้ยหลังฟ้อง
-ฎ.7991/2542 ม.193/27 ประกอบม.745 บังคับผู้รับจำนองว่าจะใช้สิทธิบังคับให้นำเงินจากการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่จำนองชำระดอกเบี้ยที่ค้างย้อนหลังเกิน 5 ปีขึ้นไปไม่ได้เท่านั้น แต่มิได้ห้ามผู้รับจำนองให้เรียกดอกเบี้ยเกิน 5 ปี นับแต่วันฟ้อง ผู้รับจำนองจึงมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปได้
-กรณีบังคับจำนองแก่ผู้รับโอน กรณีขาดอายุความ บังคับดอกเบี้ยไม่เกิน 5 ปี
-ฎ.859/2565*** หนี้ตามสัญญากู้เงินขาดอายุความแล้วและจําเลยที่ 1 ต่อสู้เรื่องอายุความแล้ว โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จําเลยที่ 1 ชําระหนี้ตามสัญญากู้เงิน ส่วนหนี้จํานองอันเป็นหนี้อุปกรณ์ แม้ไม่ระงับไปโดยหนี้ประธานขาดอายุความ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 744 และหนี้ประธานขาดอายุความยังบังคับจํานองได้ตามมาตรา 745 ก็ตาม แต่การบังคับจํานองย่อมต้องบังคับเอาจากผู้เป็นเจ้าของทรัพย์สินจํานอง เพราะเป็นการบังคับเอาจากตัวทรัพย์จํานอง ขณะฟ้องคดีจําเลยที่ 1 มิได้เป็นเจ้าของทรัพย์จํานองเนื่องจากมีการขายทอดตลาดทรัพย์จํานองตามคําสั่งศาลแล้ว โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิบังคับจํานองแก่จําเลยที่ 1 จําเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ดอกเบี้ยของต้นเงินและอัตราดอกเบี้ยที่ตกลงกันไว้ตามหนังสือสัญญาจํานองที่ดินเป็นประกันและข้อตกลงต่อท้ายสัญญาจํานองย่อมมีผลผูกพันถึงจําเลยที่ 2 ผู้ซื้อทรัพย์โดยติดจํานองตาม ป.พ.พ. มาตรา 715 เพราะจําเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับโอนทรัพย์จํานอง หากประสงค์จะไถ่ถอนจํานองจะต้องชําระดอกเบี้ยในอัตราตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญาจํานองนับแต่มีการผิดนัดของจําเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกหนี้ชั้นต้นหรือผู้จํานองตามมาตรา 738 โจทก์ผู้รับจํานองมีสิทธิบังคับจํานองเพื่อชําระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยได้ตามสัญญาจํานอง แต่จะใช้สิทธิบังคับให้จําเลยที่ 2 ชําระดอกเบี้ยที่ค้างย้อนหลังเกินห้าปีขึ้นไปไม่ได้ตามมาตรา 193/27
7. ม.744 "อันจำนองย่อมระงับสิ้นไป.. (2) เมื่อปลดจำนองให้แก่ผู้จำนองด้วยหนังสือเป็นสำคัญ.."
-การปลดจำนองตามม.744(2) เพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้ปลดหนี้ประธาน หนี้จำนองระงับอย่างเดียว หนี้ประธานไม่ระงับ
8. ม.746 "การชำระหนี้ไม่ว่าครั้งใด ๆ สิ้นเชิงหรือแต่บางส่วนก็ดี การระงับหนี้อย่างใด ๆ ก็ดี การตกลงกันแก้ไขเปลี่ยนแปลงจำนองหรือหนี้อันจำนองเป็นประกันนั้นเป็นประการใดก็ดี ท่านว่าต้องนำความไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในเมื่อมีคำร้องของผู้มีส่วนได้เสีย มิฉะนั้นท่านห้ามมิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอก"
9. จำนำ
-ม.747 "อันว่าจำนำนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลหนึ่ง เรียกว่าผู้จำนำ ส่งมอบสังหาริมทรัพย์สิ่งหนึ่งให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้รับจำนำ เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้"-ม.748 "การจำนำนั้นย่อมเป็นประกันเพื่อการชำระหนี้ กับทั้งค่าอุปกรณ์ต่อไปนี้ด้วย คือ
(1) ดอกเบี้ย
(2) ค่าสินไหมทดแทนในการไม่ชำระหนี้
(3) ค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับจำนำ
(4) ค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาทรัพย์สินซึ่งจำนำ
(5) ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่ความชำรุดบกพร่องแห่งทรัพย์สินจำนำซึ่งไม่เห็นประจักษ์"
-ม.749 "คู่สัญญาจำนำจะตกลงกันให้บุคคลภายนอกเป็นผู้เก็บรักษาทรัพย์สินจำนำไว้ก็ได้"
-จำนำต้องส่งมอบ โดยต้องส่งมอบให้อยู่ในความดูแลของผู้รับจำนำ
-หากไม่ได้ส่งมอบทรัพย์จำนำให้เจ้าหนี้ไว้ ถือไม่ได้ว่าจำนำ
-มอบโฉนดให้ยึดถือไว้เป็นประกัน ไม่ใช่ส่งมอบทรัพย์ที่จำนำ ไม่เข้าลักษณะจำนำ
-สัญญาจำนำมีข้อตกลงว่าผู้จำนำจะได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในเครื่องจักรที่จำนำ ก็ไม่ถือว่าเครื่องจักรกลับคืนไปสู่การครอบครองของผู้จำนำก็ตาม เป็นการยอมให้ทรัพย์สินจำนำกลับคืนไปสู่การครอบครองของผู้จำนำตามม.769(2) แล้ว สิทธิจำนำจึงระงับสิ้นไป
-จำนำ กฎหมายไม่ได้บังคับว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
-จำนำเป็นประกันการชำระหนี้ประธาน
-ม.750 จำนำสิทธิ "ถ้าทรัพย์สินที่จำนำเป็นสิทธิซึ่งมีตราสารและมิได้ส่งมอบตราสารนั้นให้แก่ผู้รับจำนำ ทั้งมิได้บอกกล่าวเป็นหนังสือแจ้งการจำนำแก่ลูกหนี้แห่งสิทธินั้นด้วยไซร้ ท่านว่าการจำนำย่อมเป็นโมฆะ"
-ม.753 "ถ้าจำนำใบหุ้น หรือใบหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อท่านห้ามมิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บริษัทหรือบุคคลภายนอก เว้นแต่จะได้จดทะเบียนการจำนำนั้นไว้ในสมุดของบริษัทตามบทบัญญัติทั้งหลายในลักษณะ 22 ว่าด้วยการโอนหุ้นหรือหุ้นกู้"
10. สิทธิและหน้าที่ของผู้รับจำนำ
-สิทธิที่จะยึดทรัพย์สินที่จำนำไว้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้ครบถ้วน
-สิทธิที่จะเอาดอกผลนิตินัยของทรัพย์สินที่จำนำมาชำระหนี้
-สิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้สามัญ
-หน้าที่ต้องรักษษและสงวนทรัพย์สินที่จำนำ
-หน้าที่ต้องไม่เอาทรัพย์สินที่จำนำออกใช้เองหรือเอาไปให้บุคคลภายนอกใช้สอยหรือเก็บรักษา
11. ม.764 "เมื่อจะบังคับจำนำ ผู้รับจำนำต้องบอกกล่าวเป็นหนังสือไปยังลูกหนี้ก่อนว่า ให้ชำระหนี้และอุปกรณ์ภายในเวลาอันควรซึ่งกำหนดให้ในคำบอกกล่าวนั้น
ถ้าลูกหนี้ละเลยไม่ปฏิบัติตามคำบอกกล่าว ผู้รับจำนำชอบที่จะเอาทรัพย์สินซึ่งจำนำออกขายได้ แต่ต้องขายทอดตลาด
อนึ่ง ผู้รับจำนำต้องมีจดหมายบอกกล่าวไปยังผู้จำนำบอกเวลาและสถานที่ซึ่งจะขายทอดตลาดด้วย"
ถ้าลูกหนี้ละเลยไม่ปฏิบัติตามคำบอกกล่าว ผู้รับจำนำชอบที่จะเอาทรัพย์สินซึ่งจำนำออกขายได้ แต่ต้องขายทอดตลาด
อนึ่ง ผู้รับจำนำต้องมีจดหมายบอกกล่าวไปยังผู้จำนำบอกเวลาและสถานที่ซึ่งจะขายทอดตลาดด้วย"
-ถ้ามีเงินเหลือ ต้องคืนแก่ผู้จำนำหรือผู้ควรจะได้เงิน
-ถ้าบังคับจำนำแล้ว ได้เงินน้อยกว่าจำนวนค้างชำระ ลูกหนี้ชั้นต้นก็ยังคงต้องรรับใช้ในส่วนที่ขาดซึ่งเป็นบทบังคับตามม.767 วรรคสอง แต่ม.767 วรรคสอง ระบุเฉพาะลูกหนี้ชั้นต้น (การใช้สิทธิบังคับจากทรัพย์สินอื่น เจ้าหนี้ต้องฟ้องศาล)
-ถ้าเป็นกรณีผู้รับจำนำประกันหนี้บุคคลอื่น ไม่ต้องรับผิดส่วนที่ขาด เว้นแต่กรณีผู้จำนำประกันหนี้ของบุคคลอื่นสัญญาว่าถ้าบังคับจำนำแล้วได้เงินไม่พอชำระ จะยอมรับใช้ในส่วนที่ขาด
12. ม.769 "อันจำนำย่อมระงับสิ้นไป
(1) เมื่อหนี้ซึ่งจำนำเป็นประกันอยู่นั้นระงับสิ้นไปเพราะเหตุประการอื่นมิใช่เพราะอายุความ หรือ
(2) เมื่อผู้รับจำนำยอมให้ทรัพย์สินจำนำกลับคืนไปสู่ครอบครองของผู้จำนำ"
(1) เมื่อหนี้ซึ่งจำนำเป็นประกันอยู่นั้นระงับสิ้นไปเพราะเหตุประการอื่นมิใช่เพราะอายุความ หรือ
(2) เมื่อผู้รับจำนำยอมให้ทรัพย์สินจำนำกลับคืนไปสู่ครอบครองของผู้จำนำ"
***จบการบรรยาย***
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น