สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายยืม ค้ำประกัน จำนอง จำนำ (ครั้งที่ 12-13) ครั้งสุดท้าย

สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายยืม ค้ำประกัน จำนอง จำนำ (ครั้งที่ 12-13) ครั้งสุดท้าย
อาจารย์อภิชาติ คงชาตรี
วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม 2568
**********

1. ม.733 "ถ้าเอาทรัพย์จำนองหลุดและราคาทรัพย์สินนั้นมีประมาณต่ำกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระกันอยู่ก็ดี หรือถ้าเอาทรัพย์สินซึ่งจำนองออกขายทอดตลาดใช้หนี้ได้เงินจำนวนสุทธิน้อยกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระกันอยู่นั้นก็ดี เงินยังขาดจำนวนอยู่เท่าใดลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดในเงินนั้น"
-ม.727/1 "ไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใด ผู้จำนองซึ่งจำนองทรัพย์สินของตนไว้เพื่อประกันหนี้อันบุคคลอื่นจะต้องชำระ ไม่ต้องรับผิดในหนี้นั้นเกินราคาทรัพย์สินที่จำนองในเวลาที่บังคับจำนองหรือเอาทรัพย์จำนองหลุด (ไม่มีผลย้อนหลังแก่สัญญาจำนองที่ทำก่อน 11 ก.พ.2558)
  ข้อตกลงใดอันมีผลให้ผู้จำนองรับผิดเกินที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง หรือให้ผู้จำนองรับผิดอย่างผู้ค้ำประกัน ข้อตกลงนั้นเป็นโมฆะ ไม่ว่าข้อตกลงนั้นจะมีอยู่ในสัญญาจำนองหรือทำเป็นข้อตกลงต่างหาก ทั้งนี้ เว้นแต่เป็นกรณีที่นิติบุคคลเป็นลูกหนี้และบุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการตามกฎหมายหรือบุคคลที่มีอำนาจควบคุมการดำเนินงานของนิติบุคคลนั้นเป็นผู้จำนองทรัพย์สินของตนไว้เพื่อประกันหนี้นั้นของนิติบุคคลและผู้จำนองได้ทำสัญญาค้ำประกันไว้เป็นสัญญาต่างหาก" (มีผลใช้บังคับตั้งแต่ 15 ก.ค.2558)
-เอาทรัพย์จำนองหลุด หรือเอาขายทอดตลาด แม้ได้เงินสุทธิน้อยกว่า ลูกหนี้ก็ไม่ต้องรับผิดในเงินที่ยังขาดอยู่ ตามม.733 แต่ถ้าเป็นผู้จำนองเพื่อประกันหนี้อันบุคคลอื่นจะต้องชำระ ไม่ต้องรับผิดในหนี้เกินราคาทรัพย์ที่จำนอง ถ้ามีข้อตกลงให้รับผิดเกินหรือให้ผู้จำนองรับผิดอย่างผู้ค้ำประกัน ข้อตกลงนั้นเป็นโมฆะ ตามม.727/1

2. หลักเกณฑ์ ม.733
2.1) ต้องมีการบังคับจำนอง ผู้จำนองโอนที่ดินจำนองให้โจทก์ผู้รับจำนองเป็นการชำระหนี้ส่วนหนึ่ง เป็นการตีใช้หนี้ไม่ใช่การบังคับจำนอง ไม่อยู่ในบังคับม.733 เมื่อโจทก์ได้รับชำระหนี้ไปเพียงส่วนหนึ่ง ก็ย่อมมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้เงินกู้ชำระส่วนที่ยังขาดอยู่ได้ ฎ.300/2506 (ป) , 2737/2559
2.2) ลูกหนี้ชั้นต้นในหนี้ประธาน ไม่ต้องรับผิดในส่วนขาดไปจากวงเงินจำนอง
-สัญญาจำนองไม่มีข้อความว่า หากบังคับชำระหนี้เอาทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดได้เงินไม่พอชำระหนี้ ให้บังคับเอาจากทรัพย์สินอื่นของลูกหนี้หรือลูกหนี้จะต้องรับผิดในส่วนขาด (ไม่มีข้อตกลงยกเว้นม.733) กรณีจึงต้องอยู่ในบังคับม.733 โจทก์ยึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์ หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ ก็ไม่อาจขอให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองมาชำระหนี้แก่โจทก์จนครบถ้วนได้ ตามม.733 ฎ.6612/2559 (ป) , 3496/2563
2.3) ไม่ต้องรับผิดส่วนที่ขาด หมายถึง ขาดจากวงเงินจำนอง แต่กรณีหนี้จำนองต่ำกว่าหนี้ประธาน ลูกหนี้ยังต้องรับผิดในส่วนที่เกินจากวงเงินจำนอง
-หนี้จำนองมีจำนวนน้อยกว่าหนี้ประธาน หากเอาทรัพย์จำนองหลุดและทรัพย์สินนั้นมีราคาต่ำกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระ หรือถ้าเอาทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดใช้หนี้ ได้เงินจำนวนสุทธิน้อยกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระ เงินยังขาดอยู่เท่าใด ลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดในเงินที่ขาดนั้น แต่ในส่วนที่เกินกว่าวงเงินจำนอง ลูกหนี้ต้องรับผิดชำระหนี้ประธานต่อเจ้าหนี้จนครบจำนวนต่อไป ฎ.15363/2557
2.4) จำนองประกันหนี้อันบุคคลอื่นจะต้องชำระ ลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดส่วนที่ขาดตามม.733
-ฎ.8851/2551 ม.733 ไม่มีข้อจำกัดว่าต้องใช้บังคับเฉพาะในกรณีที่ลูกหนี้จำนองทรัพย์สินของตนเองเท่านั้น จึงใช้บังคับแก่กรณีที่บุคคลหนึ่งจำนองทรัพย์สินของตนไว้เพื่อประกันหนี้อันบุคคลอื่นจะต้องชำระด้วย
2.5) ตกลงกันยกเว้นม.733 ได้
-ข้อตกลงยกเว้นม.733 ไม่ได้มีผลให้ต้องรับภาระเกินกว่าที่พึงคาดหมายได้ ไม่เป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ฎ.6188/2561
-แม้มีข้อตกลงยกเว้นม.733 แต่ถ้าหนี้ประธานขาดอายุความ ลูกหนี้ก็รับผิดไม่เกินทรัพย์จำนองเท่านั้น ฎ.667/2549(ป)
2.6) สัญญาจำนองทำตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558 ม.727/1
-ฎ.2492/2565 จำเลยที่ 3 จำนองที่ดินของตนเป็นประกันหนี้จำเลยที่ 1 โดยมีข้อตกลงยอมชดใช้เงินที่ขาดจำนวนหากขายทอดตลาดที่ดินทรัพย์จำนองได้เงินน้อยกว่าที่ค้างชำระจนครบถ้วน แต่ข้อตกลงเป็นการต้องห้ามตามม.727/1 จึงตกเป็นโมฆะ อันมีผลให้จำเลยที่ 3 ไม่ต้องรับผิดในหนี้นั้นเกินราคาทรัพย์สินที่จำนองในเวลาที่บังคับจำนอง แต่ไม่มีผลไปถึงผู้ค้ำประกัน จำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันจึงยังต้องรับผิด (ฎีกานี้ยังไม่เคยออกข้อสอบ)
2.7) ข้อตกลงยกเว้นม.733 ไม่ผูกพันผู้รับโอนทรัพย์จำนอง
-ข้อตกลงยกเว้นม.733 เป็นบุคคลสิทธิ ผูกพันคู่สัญญา ไม่ผูกพันผู้รับโอนทรัพย์จำนอง (ทรัพยสิทธิ)
2.8) ต้องระบุจำนวนเงินตามม.708 มิฉะนั้นเป็นโมฆะ

3. สรุป ม.733
3.1) ต้องมีการบังคับจำนองตามม.728 , 729 , 735 รวมถึง ม.729/1 วรรคสาม
-กรณีไม่มีการบังคับจำนอง เช่น การโอนตีใช้หนี้ , เจ้าหนี้เลือกฟ้องอย่างเจ้าหนี้สามัญ , ผู้รับโอนไถ่ถอนจำนองตามม.736 , 738
3.2) ม.733 บังคับจำนองแล้ว ยังขาดอยู่ ลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดในส่วนขาดจำนวนเงินตามวงเงินจำนอง ทำให้ยึดทรัพย์อื่นไม่ได้ , ไปขอเฉลี่ยนทรัพย์คดีอื่นไม่ได้ ไม่อาจนำหนี้ที่เหือไปฟ้องคดีล้มละลายได้
3.3) ถ้ายังเหลือหนี้ประธานที่เกินวงเงินจำนอง ลูกหนี้ยังต้องรับผิด
3.4) ใช้บังคับแก่กรณีจำนองประกันหนี้อันบุคคลอื่นจะต้องชำระด้วย
3.5) ตกลงยกเว้นม.733 ได้ จึงบังคับจากทรัพย์อื่นได้ เว้นแต่หนี้ประธานขาดอายุความ บังคับได้เฉพาะทรัพย์จำนอง เพราะม.733 เป็นผลภายหลังบังคับจำนองแล้ว , หากจำนองประกันหนี้บุคคลอื่น ตกเป็นโมฆธตามม.727/1
3.6) ข้อตกลงยกเว้นม.733 เป็นการได้รับชำระหนี้อย่างเจ้าหนี้สามัญ เพราะไม่ใช่จากทรัพย์สินที่จำนองม.702
3.7) กรณีตกลงยกเว้นม.733 โจทก์ฟ้องใช้สิทธิบังคับจำนองและบังคับทรัพย์สินอื่น ศาลพิพากษาให้บังคับจำนองเป็นลำดับก่อน เป็นการพิพากษาให้โจทก์มีสิทธิในการบังคับชำระหนี้น้อยกว่าสิทธิที่มีอยู่ ทั้งที่มีคำขอท้ายฟ้องแล้ว จึงไม่ชอบ ฎ.2498/2566(ป)
3.8) ข้อตกลงยกเว้นม.733 เป็นบุคคลสิทธิ จึงไม่ผูกพันผู้รับโอนทรัพย์จำนอง

4. ความระงับสิ้นไปแห่งสัญญาจำนอง
-จำนองเป็นทรัพยสิทธิ จะสิ้นผลไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายบัญญัติเท่านั้น ม.744(1)-(6)

5. ม.744 "อันจำนองย่อมระงับสิ้นไป (1) เมื่อหนี้ที่ประกันระงับสิ้นไปด้วยเหตุประการอื่นใดมิใช่เหตุอายุความ.."
-ดูเป็นรายสัญญา ฎ.3542/2528 ทรัพย์สินรายหนึ่งอาจจำนองประกันหนี้หลายรายได้ หนี้ที่ประกันรายใดระงับสิ้นไป สัญญาจำนองที่ประกันหนี้รายนั้นย่อมระงับสิ้นไปเฉพาะราย และผู้จำนองมีสิทธิที่จะชำระหนี้เพื่อให้สัญญาจำนองรายใดรายหนึ่งระงับไปโดยไม่จำต้องชำระหนี้ทุกราย
-หากประกันหนี้หลายคน ระงับเป็นรายคน ฎ.1418/2549
-หนี้ที่ประกันระงับสิ้นไป รวมถึงดอกเบี้ยด้วย
-หนี้ประธานระงับ รวมถึงการนำดอกเบี้ยที่ตกเป็นโมฆะไปหักต้นเงินกู้ยืม (เนติ 73)
-เมื่อหนี้ที่ประกันระงับ จำนองระงับ จึงต้องจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองให้
-หนี้ประธานขาดอายุความ หนี้จำนองไม่ระงับม.745 , 193/27

6. ม.745 "ผู้รับจำนองจะบังคับจำนองแม้เมื่อหนี้ที่ประกันนั้นขาดอายุความแล้วก็ได้ แต่จะบังคับเอาดอกเบี้ยที่ค้างชำระในการจำนองเกินกว่าห้าปีไม่ได้"
-เฉพาะดอกเบี้ยก่อนฟ้อง ไม่รวมถึงดอกเบี้ยหลังฟ้อง
-ฎ.7991/2542 ม.193/27 ประกอบม.745 บังคับผู้รับจำนองว่าจะใช้สิทธิบังคับให้นำเงินจากการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่จำนองชำระดอกเบี้ยที่ค้างย้อนหลังเกิน 5 ปีขึ้นไปไม่ได้เท่านั้น แต่มิได้ห้ามผู้รับจำนองให้เรียกดอกเบี้ยเกิน 5 ปี นับแต่วันฟ้อง ผู้รับจำนองจึงมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปได้
-กรณีบังคับจำนองแก่ผู้รับโอน กรณีขาดอายุความ บังคับดอกเบี้ยไม่เกิน 5 ปี
-ฎ.859/2565*** หนี้ตามสัญญากู้เงินขาดอายุความแล้วและจําเลยที่ 1 ต่อสู้เรื่องอายุความแล้ว โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จําเลยที่ 1 ชําระหนี้ตามสัญญากู้เงิน ส่วนหนี้จํานองอันเป็นหนี้อุปกรณ์ แม้ไม่ระงับไปโดยหนี้ประธานขาดอายุความ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 744 และหนี้ประธานขาดอายุความยังบังคับจํานองได้ตามมาตรา 745 ก็ตาม แต่การบังคับจํานองย่อมต้องบังคับเอาจากผู้เป็นเจ้าของทรัพย์สินจํานอง เพราะเป็นการบังคับเอาจากตัวทรัพย์จํานอง ขณะฟ้องคดีจําเลยที่ 1 มิได้เป็นเจ้าของทรัพย์จํานองเนื่องจากมีการขายทอดตลาดทรัพย์จํานองตามคําสั่งศาลแล้ว โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิบังคับจํานองแก่จําเลยที่ 1 จําเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ดอกเบี้ยของต้นเงินและอัตราดอกเบี้ยที่ตกลงกันไว้ตามหนังสือสัญญาจํานองที่ดินเป็นประกันและข้อตกลงต่อท้ายสัญญาจํานองย่อมมีผลผูกพันถึงจําเลยที่ 2 ผู้ซื้อทรัพย์โดยติดจํานองตาม ป.พ.พ. มาตรา 715 เพราะจําเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับโอนทรัพย์จํานอง หากประสงค์จะไถ่ถอนจํานองจะต้องชําระดอกเบี้ยในอัตราตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญาจํานองนับแต่มีการผิดนัดของจําเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกหนี้ชั้นต้นหรือผู้จํานองตามมาตรา 738 โจทก์ผู้รับจํานองมีสิทธิบังคับจํานองเพื่อชําระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยได้ตามสัญญาจํานอง แต่จะใช้สิทธิบังคับให้จําเลยที่ 2 ชําระดอกเบี้ยที่ค้างย้อนหลังเกินห้าปีขึ้นไปไม่ได้ตามมาตรา 193/27

7. ม.744 "อันจำนองย่อมระงับสิ้นไป.. (2) เมื่อปลดจำนองให้แก่ผู้จำนองด้วยหนังสือเป็นสำคัญ.."
-การปลดจำนองตามม.744(2) เพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้ปลดหนี้ประธาน หนี้จำนองระงับอย่างเดียว หนี้ประธานไม่ระงับ

8. ม.746 "การชำระหนี้ไม่ว่าครั้งใด ๆ สิ้นเชิงหรือแต่บางส่วนก็ดี การระงับหนี้อย่างใด ๆ ก็ดี การตกลงกันแก้ไขเปลี่ยนแปลงจำนองหรือหนี้อันจำนองเป็นประกันนั้นเป็นประการใดก็ดี ท่านว่าต้องนำความไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในเมื่อมีคำร้องของผู้มีส่วนได้เสีย มิฉะนั้นท่านห้ามมิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอก"

9. จำนำ
-ม.747 "อันว่าจำนำนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลหนึ่ง เรียกว่าผู้จำนำ ส่งมอบสังหาริมทรัพย์สิ่งหนึ่งให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้รับจำนำ เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้"
-ม.748 "การจำนำนั้นย่อมเป็นประกันเพื่อการชำระหนี้ กับทั้งค่าอุปกรณ์ต่อไปนี้ด้วย คือ
  (1) ดอกเบี้ย
  (2) ค่าสินไหมทดแทนในการไม่ชำระหนี้
  (3) ค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับจำนำ
  (4) ค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาทรัพย์สินซึ่งจำนำ
  (5) ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่ความชำรุดบกพร่องแห่งทรัพย์สินจำนำซึ่งไม่เห็นประจักษ์"
-ม.749 "คู่สัญญาจำนำจะตกลงกันให้บุคคลภายนอกเป็นผู้เก็บรักษาทรัพย์สินจำนำไว้ก็ได้"
-จำนำต้องส่งมอบ โดยต้องส่งมอบให้อยู่ในความดูแลของผู้รับจำนำ
-หากไม่ได้ส่งมอบทรัพย์จำนำให้เจ้าหนี้ไว้ ถือไม่ได้ว่าจำนำ
-มอบโฉนดให้ยึดถือไว้เป็นประกัน ไม่ใช่ส่งมอบทรัพย์ที่จำนำ ไม่เข้าลักษณะจำนำ
-สัญญาจำนำมีข้อตกลงว่าผู้จำนำจะได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในเครื่องจักรที่จำนำ ก็ไม่ถือว่าเครื่องจักรกลับคืนไปสู่การครอบครองของผู้จำนำก็ตาม เป็นการยอมให้ทรัพย์สินจำนำกลับคืนไปสู่การครอบครองของผู้จำนำตามม.769(2) แล้ว สิทธิจำนำจึงระงับสิ้นไป
-จำนำ กฎหมายไม่ได้บังคับว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
-จำนำเป็นประกันการชำระหนี้ประธาน
-ม.750 จำนำสิทธิ "ถ้าทรัพย์สินที่จำนำเป็นสิทธิซึ่งมีตราสารและมิได้ส่งมอบตราสารนั้นให้แก่ผู้รับจำนำ ทั้งมิได้บอกกล่าวเป็นหนังสือแจ้งการจำนำแก่ลูกหนี้แห่งสิทธินั้นด้วยไซร้ ท่านว่าการจำนำย่อมเป็นโมฆะ"
-ม.753 "ถ้าจำนำใบหุ้น หรือใบหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อท่านห้ามมิให้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บริษัทหรือบุคคลภายนอก เว้นแต่จะได้จดทะเบียนการจำนำนั้นไว้ในสมุดของบริษัทตามบทบัญญัติทั้งหลายในลักษณะ 22 ว่าด้วยการโอนหุ้นหรือหุ้นกู้"

10. สิทธิและหน้าที่ของผู้รับจำนำ
-สิทธิที่จะยึดทรัพย์สินที่จำนำไว้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้ครบถ้วน
-สิทธิที่จะเอาดอกผลนิตินัยของทรัพย์สินที่จำนำมาชำระหนี้
-สิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้สามัญ
-หน้าที่ต้องรักษษและสงวนทรัพย์สินที่จำนำ
-หน้าที่ต้องไม่เอาทรัพย์สินที่จำนำออกใช้เองหรือเอาไปให้บุคคลภายนอกใช้สอยหรือเก็บรักษา

11. ม.764 "เมื่อจะบังคับจำนำ ผู้รับจำนำต้องบอกกล่าวเป็นหนังสือไปยังลูกหนี้ก่อนว่า ให้ชำระหนี้และอุปกรณ์ภายในเวลาอันควรซึ่งกำหนดให้ในคำบอกกล่าวนั้น
  ถ้าลูกหนี้ละเลยไม่ปฏิบัติตามคำบอกกล่าว ผู้รับจำนำชอบที่จะเอาทรัพย์สินซึ่งจำนำออกขายได้ แต่ต้องขายทอดตลาด
  อนึ่ง ผู้รับจำนำต้องมีจดหมายบอกกล่าวไปยังผู้จำนำบอกเวลาและสถานที่ซึ่งจะขายทอดตลาดด้วย"
-ถ้ามีเงินเหลือ ต้องคืนแก่ผู้จำนำหรือผู้ควรจะได้เงิน
-ถ้าบังคับจำนำแล้ว ได้เงินน้อยกว่าจำนวนค้างชำระ ลูกหนี้ชั้นต้นก็ยังคงต้องรรับใช้ในส่วนที่ขาดซึ่งเป็นบทบังคับตามม.767 วรรคสอง แต่ม.767 วรรคสอง ระบุเฉพาะลูกหนี้ชั้นต้น (การใช้สิทธิบังคับจากทรัพย์สินอื่น เจ้าหนี้ต้องฟ้องศาล)
-ถ้าเป็นกรณีผู้รับจำนำประกันหนี้บุคคลอื่น ไม่ต้องรับผิดส่วนที่ขาด เว้นแต่กรณีผู้จำนำประกันหนี้ของบุคคลอื่นสัญญาว่าถ้าบังคับจำนำแล้วได้เงินไม่พอชำระ จะยอมรับใช้ในส่วนที่ขาด

12. ม.769 "อันจำนำย่อมระงับสิ้นไป
  (1) เมื่อหนี้ซึ่งจำนำเป็นประกันอยู่นั้นระงับสิ้นไปเพราะเหตุประการอื่นมิใช่เพราะอายุความ หรือ
  (2) เมื่อผู้รับจำนำยอมให้ทรัพย์สินจำนำกลับคืนไปสู่ครอบครองของผู้จำนำ"

***จบการบรรยาย***

ความคิดเห็น

10 บทความยอดนิยมประจำสัปดาห์

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (30 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 (55 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ชุดที่ 1)

สาระสำคัญ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (ฉบับเตรียมสอบ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (44 ข้อ)

แนวข้อสอบ พนักงานราชการ (ข้อ 1 - 10)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 (ชุดที่ 1)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ชุดที่ 5)