สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายครอบครัว (ครั้งที่ 5)

สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายครอบครัว (ครั้งที่ 5)
อาจารย์ชาติชาย อัครวิบูลย์
วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน 2568
**********

1. ผู้เยาว์ทำการสมรส (แม้จะบรรลุนิติภาวะแล้ว) ก็ต้องได้รับความยินยอม
-ม.1454 "ผู้เยาว์จะทำการสมรสให้นำความในมาตรา 1436 มาใช้บังคับโดยอนุโลม"
-ผู้ให้ความยินยอม ตามม.1436 คือ บิดาและมารดา , บิดาหรือมารดา , ผู้รับบุตรบุญธรรม , ผู้ปกครอง (ไม่รวมถึงผู้พิทักษ์ เว้นแต่บิดามารดาเป็นผู้พิทักษ์)
1.1) ข้อยกเว้น ศาลอนุญาตให้ทำการสมรส ม.1456 "ถ้าไม่มีผู้ที่มีอำนาจให้ความยินยอมตามมาตรา 1454 หรือมีแต่ไม่ให้ความยินยอม หรือไม่อยู่ในสภาพที่อาจให้ความยินยอม หรือโดยพฤติการณ์ผู้เยาว์ไม่อาจขอความยินยอมได้ ผู้เยาว์อาจร้องขอต่อศาลเพื่ออนุญาตให้ทำการสมรส" เช่น อาจเพราะเห็นว่าหญิงหรือชายที่จะสมรสหรือคู่สมรสเดิมเป็นหมัน , หรือหญิงตั้งครรภ์กับผู้ที่จะสมรส (ตามป.วิ.พ. ถือว่ากรณีนี้ผลประโยชน์ขัดกัน จึงให้สิทธิผู้เยาว์เป็นผู้มีอำนาจร้องขอต่อศาลได้)
-ม.1448 อายุยังไม่ครบ 18 ปีบริบูรณ์ ส่วนกรณีตามม.1454 , 1455 , 1456 เป็นผู้เยาว์ อายุอาจครบ 18 ปีบริบูรณ์แล้วก็ได้ เช่น อายุ 17 ปี จะทำการสมรส บิดามารดาให้ความยินยอม จึงเป็นการให้ความยินยอมทั้งสองกรณีตามม.1448 และม.1454 , กรณีอายุ 19 ปี ไม่ต้องขอความยินยอมตามม.1448 แต่ยังต้องขอความยินยอมตามม.1454
1.2) แบบความยินยอม 
-ม.1455 "การให้ความยินยอมให้ทำการสมรสจะกระทำได้แต่โดย
  (1) ลงลายมือชื่อในทะเบียนขณะจดทะเบียนสมรส
  (2) ทำเป็นหนังสือแสดงความยินยอม โดยระบุชื่อผู้จะสมรสทั้งสองฝ่ายและลงลายมือชื่อของผู้ให้ความยินยอม
  (3) ถ้ามีเหตุจำเป็น จะให้ความยินยอมด้วยวาจาต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคนก็ได้
  ความยินยอมนั้น เมื่อให้แล้วถอนไม่ได้"
-จะให้ความยินยอมโดยส่งทางไลน์ให้ฝ่ายทะเบียนดู หรือส่งทางเฟซบุ๊คไม่ได้ เพราะขัดต่อม.3 พ.ร.บ.กำหนดประเภทธุรกรรมในทางแพ่งที่ยกเว้นมิให้นำมาใช้กับธุรกรรมเกี่ยวกับครอบครัวและมรดก
-ม.1455(3) มีเหตุจำเป็น เช่น เป็นอัมพาต และพยานไม่จำต้องบรรลุนิติภาวะ (ไม่เหมือนกับพยานในพินัยกรรม)
-ความยินยอมที่ให้แล้ว ถอนไม่ได้ ไม่เป็นผล
-ถ้าให้ความยินยอมแล้ว ผู้ให้ความยินยอมตายก่อนสมรส (เท่ากับ "ไม่มีผู้ที่มีอำนาจให้ความยินยอม" ม.1456) การแสดงเจตนาย่อมสิ้นผลเพราะเป็นสิทธิเฉพาะตัว แต่ไม่กระทบถึงความยินยอมที่ให้ไปแล้ว ผู้เยาว์จึงต้องร้องขอต่อศาลให้ทำการสมรส ตามม.1456
-ไม่ใช้กับม.169 วรรคสอง เพราะเป็นการแสดงเจตนาที่กระทำต่อผู้เยาว์หรือบุคคลผู้อยู่เฉพาะหน้าต่อหน้าพยาน ต่อหน้านายทะเบียน
1.3) การสมรสของผู้เยาว์ที่ไม่ได้รับความยินยอม เมื่อมีการฝ่าฝืน เป็นโมฆียะตามม.1509 "การสมรสที่มิได้รับความยินยอมของบุคคลดังกล่าวในมาตรา 1454 การสมรสนั้นเป็นโมฆียะ" + ม.1502 "การสมรสที่เป็นโมฆียะสิ้นสุดลงเมื่อศาลพิพากษาให้เพิกถอน"
-เฉพาะบุคคลที่อาจให้ความยินยอมเท่านั้น ที่จะขอให้เพิกถอนการสมรสได้ ม.1510 วรรคหนึ่ง "การสมรสที่เป็นโมฆียะเพราะมิได้รับความยินยอมของบุคคลดังกล่าวในมาตรา 1454 เฉพาะบุคคลที่อาจให้ความยินยอมตามมาตรา 1454 เท่านั้น ขอให้เพิกถอนการสมรสได้" ผู้เยาว์ไม่อาจขอเพิกถอนได้

2. สิทธิในการขอเพิกถอนการสมรสจะระงับเมื่อคู่สมรสมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ หรือเมื่อหญิงมีครรภ์ตามม.1510 วรรคสอง "สิทธิขอเพิกถอนการสมรสตามมาตรานี้เป็นอันระงับเมื่อคู่สมรสนั้นมีอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์หรือในกรณีการสมรสระหว่างชายหญิง เมื่อหญิงมีครรภ์" และม.1510 วรรคท้าย "การฟ้องขอเพิกถอนการสมรสตามมาตรานี้ให้มีอายุความหนึ่งปีนับแต่วันทราบการสมรส"
-สมรสเมื่ออายุ 19 ปี แต่เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์แล้ว จึงบรรลุนิติภาวะโดยผลของกฎหมาย เช่นนี้สิทธิขอเพิกถอนการสมรสก็ย่อมระงับไป
-ถ้าร้องขอให้เพิกถอนก่อนอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ แต่ระหว่างการพิจารณาของศาลอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เหตุในการขอเพิกถอนจึงระงับไป ศาลต้องสั่งจำหน่ายคดี

3. ความยินยอมของคู่สมรส 
-ม.1458 "การสมรสจะทำได้ต่อเมื่อบุคคลสองคนยินยอมเป็นคู่สมรสกัน และต้องแสดงการยินยอมนั้นให้ปรากฏโดยเปิดเผยต่อหน้านายทะเบียน และให้นายทะเบียนบันทึกความยินยอมนั้นไว้ด้วย"
-ทั้งสองฝ่ายต้องแสดงความยินยอมเป็นคู่สมรส จะตั้งตัวแทนให้บุคคลอื่นมาแสดงเจตนายินยอมไม่ได้ 
-ต้องมีเจตนาสมรส สมัครใจเป็นคู่สมรสด้วย ถ้าไม่สมัครใจเป็นคู่สมรส ทำให้การสมรสเป็นโมฆะม.1495
-กรณีไม่ยินยอมเป็นคู่สมรสกันเลย เป็นโมฆะ เช่น แสดงบทตามละคร , ฎ.1067/2545 จดทะเบียนสมรสเพื่อให้ได้รับบำเหน็จตกทอด , ฎ.5351/2545 เชื่อหมอดู ต้องจดทะเบียนสมรสจะได้ร่ำรวย แต่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน ปล่อยเวลามา 3 ปีเศษ , ฎ.10442/2558 ชายว่าจ้างหญิงให้จดทะเบียนสมรสเพื่อผสมเทียม เพื่อให้เป็นบุตรแก่ชายโดยมิได้อยู่กินด้วยกัน

4. หลักความยินยอมบกพร่อง การสมรสเป็นโมฆียะ 3 เหตุเท่านั้น
4.1) สำคัญผิดตัวคู่สมรส ม.1505
-ม.1505 "การสมรสที่ได้กระทำไปโดยคู่สมรสฝ่ายหนึ่งสำคัญผิดตัวคู่สมรส การสมรสนั้นเป็นโมฆียะ
  สิทธิขอเพิกถอนการสมรสเพราะสำคัญผิดตัวคู่สมรสเป็นอันระงับเมื่อเวลาได้ผ่านพ้นไปแล้วเก้าสิบวันนับแต่วันสมรส"
-เช่น ฝาแฝด ศัลยกรรมใบหน้าให้เหมือนคนอื่น จึงสมรสผิดตัว
4.2) ถูกกลฉ้อฉล ม.1506
-ม.1506 "ถ้าคู่สมรสได้ทำการสมรสโดยถูกกลฉ้อฉลอันถึงขนาดซึ่งถ้ามิได้มีกลฉ้อฉลนั้น จะไม่ทำการสมรส การสมรสนั้นเป็นโมฆียะ
  ความในวรรคหนึ่ง ไม่ใช้บังคับในกรณีที่กลฉ้อฉลนั้นเกิดขึ้นโดยบุคคลที่สามโดยคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งมิได้รู้เห็นด้วย
  สิทธิขอเพิกถอนการสมรสเพราะถูกกลฉ้อฉลเป็นอันระงับเมื่อเวลาได้ผ่านพ้นไปแล้วเก้าสิบวันนับแต่วันที่รู้หรือควรได้รู้ถึงกลฉ้อฉล หรือเมื่อเวลาได้ผ่านพ้นไปแล้วหนึ่งปีนับแต่วันสมรส"
-เช่น อ้างว่าไม่เคยมีบุตร , สัญชาติ , การผ่านการสมรสหรือไม่ , วุฒิการศึกษา , ฐานะ
4.3) ถูกข่มขู่ ม.1507 
-ม.1507 "ถ้าคู่สมรสได้ทำการสมรสโดยถูกข่มขู่อันถึงขนาดซึ่งถ้ามิได้มีการข่มขู่นั้นจะไม่ทำการสมรส การสมรสนั้นเป็นโมฆียะ
  สิทธิขอเพิกถอนการสมรสเพราะถูกข่มขู่เป็นอันระงับ เมื่อเวลาได้ผ่านพ้นไปแล้วหนึ่งปีนับแต่วันที่พ้นจากการข่มขู่"
-ใครข่มขู่ก็ได้ จึงกลัวและยอมจดทะเบียนสมรส
4.4) ผู้มีสิทธิขอเพิกถอน ม.1508
-ม.1508 "การสมรสที่เป็นโมฆียะเพราะคู่สมรสสำคัญผิดตัวหรือถูกกลฉ้อฉลหรือถูกข่มขู่ เฉพาะแต่คู่สมรสที่สำคัญผิดตัวหรือถูกกลฉ้อฉล หรือถูกข่มขู่เท่านั้นขอเพิกถอนการสมรสได้
  ในกรณีที่ผู้มีสิทธิขอเพิกถอนการสมรสเป็นบุคคลที่ถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ ให้บุคคลซึ่งอาจร้องขอต่อศาลให้สั่งให้บุคคลวิกลจริตเป็นคนไร้ความสามารถตามมาตรา 28 ขอเพิกถอนการสมรสได้ด้วย แต่ถ้าผู้มีสิทธิขอเพิกถอนการสมรสเป็นคนวิกลจริตที่ศาลยังไม่ได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ บุคคลดังกล่าวจะร้องขอเพิกถอนการสมรสก็ได้ แต่ต้องขอให้ศาลสั่งให้คนวิกลจริตเป็นคนไร้ความสามารถพร้อมกันด้วย ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ยกคำขอให้ศาลสั่งเป็นคนไร้ความสามารถ ก็ให้ศาลมีคำสั่งยกคำขอเพิกถอนการสมรสของบุคคลดังกล่าวนั้นเสียด้วย
  คำสั่งศาลให้ยกคำขอเพิกถอนการสมรสของบุคคลตามวรรคสอง ไม่กระทบกระเทือนสิทธิการขอเพิกถอนการสมรสของคู่สมรส แต่คู่สมรสจะต้องใช้สิทธินั้นภายในกำหนดระยะเวลาที่คู่สมรสมีอยู่ ถ้าระยะเวลาดังกล่าวเหลืออยู่ไม่ถึงหกเดือนนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งให้ยกคำขอเพิกถอนการสมรสของบุคคลดังกล่าวหรือไม่มีเหลืออยู่เลย ก็ให้ขยายระยะเวลานั้นออกไปได้ให้ครบหกเดือนหรืออีกหกเดือนนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งให้ยกคำขอเพิกถอนการสมรสของบุคคลดังกล่าว แล้วแต่กรณี"
-เฉพาะคู่สมรสที่สำคัญผิดตัว ถูกฉ้อฉล หรือถูกข่มขู่ เท่านั้นที่จะขอให้เพิกถอนการสมรสได้
-ถ้าผู้มีสิทธิขอเพิกถอนตกเป็นคนไร้ความสามารถ , คนวิกลจริต ให้บุคคลตามม.28 ร้องขอให้เพิกถอนการสมรสได้ 
4.5) ระยะเวลาเพิกถอน สิทธิขอเพิกถอนเป็นอันระงับเมื่อพ้น 90 วันนับแต่วันสมรส ม.1505 วรรคสอง , 90 วันนับแต่รู้หรือควรรู้ถึงกลฉ้อฉล หรือ 1 ปี นับแต่วันสมรส ม.1506 วรรคสาม , 1 ปี นับแต่วันที่พ้นการข่มขู่ ม.1507 วรรคสอง

5. แบบแห่งการสมรส ม.1457
-ม.1457 "การสมรสตามประมวลกฎหมายนี้จะมีได้เฉพาะเมื่อได้จดทะเบียนแล้วเท่านั้น"
-ต้องจดทะเบียนสมรส ในหรือนอกที่ทำการก็ได้ เชิญนายทะเบียนมาจดทะเบียนนอกที่ทำการได้โดยเสียค่าธรรมเนียมตามระเบียบ
-ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นภูมิลำเนาของตนหรือคู่สมรส
-นายทะเบียนเพียงแต่ตรวจดูสอบคุณสมบัติว่าฝ่าฝืนเงื่อนไขการสมรสหรือไม่เท่านั้น
-ฎ.4302/2528 ถ้าเงื่อนไขไม่ต้องห้าม นายทะเบียนไม่รับจดทะเบียนสมรส อ้างระเบียบหรือคำสั่งของกระทรวงมหาดไทยไม่ได้ ถือว่าโต้แย้งสิทธิ สามารถฟ้องศาลได้
-ฎ.3740/2525 เป็นชาญญวนอพยพแล้วมีลูก แต่ลูกไม่มีบัตรประชาชน นายทะเบียนไม่รับจดทะเบียนสมรสให้ลูกชาวญวนอพยพไม่ได้ (ไม่มีกฎหมายกำหนดว่าคนที่มาสมรสต้องมีบัตรประชาชน)
-ฎ.3057/2526 นายทะเบียนจะอ้างว่าต้องมีใบสำคัญประจำคนต่างด้าวก่อนสมรสไม่ได้
-ฎ.2616/2543 แม้ใบทะเบียนสมรสไม่ได้ประทับตรานายทะเบียน ก็ไม่มีผลทำให้ทะเบียนการสมรสไม่สมบูรณ์หรือเป็นโมฆะ เพราะพระราชบัญญัติการจดทะเบียนครอบครัวฯ กำหนดเพียงให้นายทะเบียนลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญเท่านั้น
-ฎ.2510/2545 ทะเบียนการสมรสมีลายมือชื่อพยานเพียงคนเดียว ฝ่าฝืนพ.ร.บ.จดทะเบียนครอบครัว ม.6 วรรคสอง ที่กำหนดให้คู่สมรสลงลายมือชื่อต่อหน้านายทะเบียนและพยาน 2 คน การจดทะเบียนสมรสไม่มีผลสมบูรณ์ 

6. การจดทะเบียนสมรสในต่างประเทศ ม.1459
-ม.1459 "การสมรสในต่างประเทศระหว่างคนที่มีสัญชาติไทยด้วยกัน หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสัญชาติไทย จะทำตามแบบที่กำหนดไว้ตามกฎหมายไทยหรือกฎหมายแห่งประเทศนั้นก็ได้
  ในกรณีที่คู่สมรสประสงค์จะจดทะเบียนตามกฎหมายไทย ให้พนักงานทูตหรือกงสุลไทยเป็นผู้รับจดทะเบียน"
-เมื่อจดทะเบียนสมรสตามม.1459 แล้ว มีผลสมบูรณ์ ไม่ต้องมาบันทึกการสมรสในประเทศไทยอีก
6.1) พ.ร.บ.ว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมาย พ.ศ.2481 
-ม.20 วรรคหนึ่ง การสมรสที่ได้ทำไว้ในกฎหมายแห่งประเทศที่ทำการสมรส ย่อมเป็นอันสมบูรณ์
-การสมรสระหว่างคนในบังคับสยาม หรือคนในบังคับสยามกับคนต่างด้าว ซึ่งได้ทำในต่างประเทศโดยถูกต้องตามแบบที่กฎหมายสยามกำหนดไว้ ย่อมเป็นอันสมบูรณ์
-ม.19 เงื่อนไขการสมรส ให้เป็นไปตามกฎหมายสัญชาติของคู่กรณีแต่ละฝ่าย
-ฎ.218/2562 A สัญชาติลิทัวเนีย B สัญชาติไอร์แลนด์ เงื่อนไขแห่งการสมรสจึงต้องเป็นไปตามกฎหมายแห่งสัญชาติของทั้งสองคน แต่ A กับ B มิได้นำสืบให้เห็นว่ากฎหมายของทั้งสองประเทศมีบัญญัติเงื่อนไขไว้อย่างไร จึงต้องใช้กฎหมายภายในของประเทศไทย ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมายฯ ม.8

ครั้งหน้าเป็นเรื่องความสัมพันธ์ในทางส่วนตัว ม.1461-1464/1

***จบการบรรยาย***

ความคิดเห็น

10 บทความยอดนิยมประจำสัปดาห์

แนวข้อสอบ พนักงานราชการ (ข้อ 1 - 10)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 (55 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (30 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ชุดที่ 1)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539

แนวข้อสอบ ระเบียบฯ สารบรรณ (ชุดที่ 3)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (44 ข้อ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542

สาระสำคัญ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 (ฉบับเตรียมสอบ)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ชุดที่ 5)