สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายทรัพย์ ที่ดิน (ครั้งที่ 10)
สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายทรัพย์ ที่ดิน (ครั้งที่ 10)
อาจารย์ธวัชชัย สุรักขกะ
วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2568
**********
1. ม.1359 เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ อาจใช้สิทธิอันเกิดแต่กรรมสิทธิ์ (5 สิทธิ ตามม.1336) ครอบไปถึงทรัพย์สินทั้งหมด เพื่อต่อสู้บุคคลภายนอก แต่ในการเรียกร้องเอาทรัพย์สินคืนนั้น ท่านว่าต้องอยู่ในบังคับแห่งเงื่อนไขที่ระบุไว้ในมาตรา 302 แห่งประมวลกฎหมายนี้
-การจัดการทรัพย์สินของเจ้าของร่วมตามม.1359 เป็นบทบัญญัติใช้ระหว่างเจ้าของร่วมด้วยกันเท่านั้น
-การต่อสู้คดีของเจ้าของร่วมคนหนึ่ง ถือว่าทำแทนเจ้าของร่วมคนอื่นด้วย ผลคดีถูกพันเจ้าของร่วมคนอื่นด้วย ฎ.1249/2546
2. ม.1363 "เจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ มีสิทธิเรียกให้แบ่งทรัพย์สินได้ เว้นแต่จะมีนิติกรรมขัดอยู่ หรือถ้าวัตถุที่ประสงค์ที่เป็นเจ้าของรวมกันนั้นมีลักษณะเป็นการถาวร ก็เรียกให้แบ่งไม่ได้
สิทธิเรียกให้แบ่งทรัพย์สินนั้น ท่านว่าจะตัดโดยนิติกรรมเกินคราวละสิบปีไม่ได้
ท่านว่าเจ้าของรวมจะเรียกให้แบ่งทรัพย์สินในเวลาที่ไม่เป็นโอกาสอันควรไม่ได้"
สิทธิเรียกให้แบ่งทรัพย์สินนั้น ท่านว่าจะตัดโดยนิติกรรมเกินคราวละสิบปีไม่ได้
ท่านว่าเจ้าของรวมจะเรียกให้แบ่งทรัพย์สินในเวลาที่ไม่เป็นโอกาสอันควรไม่ได้"
2.1) การเรียกให้แบ่งทรัพย์สิน เป็นสิทธิที่จะขอแบ่งเมื่อใดก็ได้ และไม่มีอายุความ ฎ.6437/2550 , 4703/2560 , 9/2555 ผู้ฟ้องไม่จำต้องมีชื่อในทะเบียนที่ดินนั้น ฎ.1801/2560
2.2) ข้อยกเว้นที่เรียกให้แบ่งไม่ได้ 3 ข้อ
-นิติกรรมขัดกันอยู่ ฎ.3414/2555
-เจ้าของรวมมีวัตถุประสงค์ให้รวมถาวร เมื่อตกลงกันแล้ว เจ้าของร่วมคนหนึ่งจะมาขอแบ่งแยกไม่ได้ (ตกลงกันโดยไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน ก็ใช้บังคับระหว่างเจ้าของร่วมได้) ฎ.1545/2514 , แต่ถ้าเป็นไปตามความต้องการของบุคคลอื่น ก็แบ่งได้ ฎ.16469/2555
-แบ่งในเวลาที่ไม่ควร ฎ.10659/2551
3. ม.1364 "การแบ่งทรัพย์สินพึงกระทำโดยแบ่งทรัพย์สินนั้นเองระหว่างเจ้าของรวม หรือโดยขายทรัพย์สินแล้วเอาเงินที่ขายได้แบ่งกัน
ถ้าเจ้าของรวมไม่ตกลงกันว่าจะแบ่งทรัพย์สินอย่างไรไซร้ เมื่อเจ้าของรวมคนหนึ่งคนใดขอ ศาลอาจสั่งให้เอาทรัพย์สินนั้นออกแบ่ง ถ้าส่วนที่แบ่งให้ไม่เท่ากันไซร้ จะสั่งให้ทดแทนกันเป็นเงินก็ได้ ถ้าการแบ่งเช่นว่านี้ไม่อาจทำได้หรือจะเสียหายมากนักก็ดี ศาลจะสั่งให้ขายโดยประมูลราคากันระหว่างเจ้าของรวมหรือขายทอดตลาดก็ได้"
ถ้าเจ้าของรวมไม่ตกลงกันว่าจะแบ่งทรัพย์สินอย่างไรไซร้ เมื่อเจ้าของรวมคนหนึ่งคนใดขอ ศาลอาจสั่งให้เอาทรัพย์สินนั้นออกแบ่ง ถ้าส่วนที่แบ่งให้ไม่เท่ากันไซร้ จะสั่งให้ทดแทนกันเป็นเงินก็ได้ ถ้าการแบ่งเช่นว่านี้ไม่อาจทำได้หรือจะเสียหายมากนักก็ดี ศาลจะสั่งให้ขายโดยประมูลราคากันระหว่างเจ้าของรวมหรือขายทอดตลาดก็ได้"
-การแบ่งทรัพย์สินระหว่างเจ้าของรวม กฎหมายได้กำหนดว่าต้องเป็นไปตามลำดับ* ฎ.6405/2554
-การแบ่งทรัพย์สินตามม.1364 ไม่ใช่การทำนิติกรรม จึงไม่อาจใช้คำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาได้ ฎ.6308/2558
-การแบ่งทรัพย์สินอาจแบ่งให้เจ้าของรวมออกไปเพียงบางคนได้ ฎ.5352/2552
-การแบ่งทรัพย์สินต้องดำเนินการตามม.1364 จะนำม.1358 เรื่องการจัดการทรัพย์สินของเจ้าของรวมมาใช้ไม่ได้ ฎ.1866/2559
-ตัวอย่างกรณีที่ถือว่าตกลงกันไม่ได้ ฎ.6308/2558 , กรณีที่ตกลงกันได้ ฎ.7899/2555
-ข้อตกลงการแบ่งทรัพย์สินของเจ้าของรวม ถ้าเป็นผู้เยาว์ต้องขออนุญาตจากศาล ฎ.4860/2548
-การแบ่งทรัพย์สินกรณีนี้ บุคคลภายนอกไม่อาจร้องขัดทรัพย์ได้ ฎ.17918/2555
4. การครอบครอง
-ทรัพยสิทธิมี 7 อย่าง กรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครอง ภาระจำยอม สิทธิอาศัย สิทธิเก็บกิน สิทธิเหนือพื้นดิน และภาระติดพันอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ , ทรัพยสิทธิทั้ง 7 ตัวเป็นอสังหาริมทรัพย์ เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ใช่เรื่องแบบของกฎหมาย จะต้องเข้าม.1299 ไม่วรรคหนึ่ง ก็ต้องวรรคสอง
-ทรัพยสิทธิตัวที่ 2 ที่จะเรียนคือ สิทธิครอบครอง ยิ่งใหญ่รองจากกรรมสิทธิ์ ผู้ทรงสิทธิปลดเปลื้องการรบกวนการครอบครอง เรียกเอาคืนซึ่งการครอบครอง มีสิทธิได้ดอกผล
-ม.1367 "บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินโดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตน ท่านว่าบุคคลนั้นได้ซึ่งสิทธิครอบครอง"
-การยึดถือทรัพย์สิน ไม่จำต้องยึดถือหรือครอบครองไว้ด้วยตนเอง ผู้อื่นยึดถือหรือครอบครองแทนได้ ฎ.13058/2556 , 12376/2555
-ครอบครอง หมายถึง กิริยาเข้ายึดถือทรัพย์สิน ฎ.6142/2544 , 3277/2553
-เจตนายึดถือทรัพย์สินไว้เพื่อตน ฎ.215/2477 , 344/2534
-ที่ดินที่ทางราชการยังควบคุมอยู่ ฎ.5596/2536
-สิทธิครอบครองที่ดินมือเปล่ามีซ้ำกันได้
-การยึดถือทรัพย์ไว้แทนผู้อื่น ฎ.3315/2552
***จบการบรรยาย***
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น