สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา (ครั้งที่ 8-9)
สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา (ครั้งที่ 8-9)
อาจารย์ชัชชม อรรฆภิญญ์
วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2568
**********
1. ข้อยกเว้นที่ไม่ให้ถือว่าเป็นการเปิดเผยตามม.6 วรรคสอง (2)
-การเปิดเผยที่เกิดขึ้นหรือเป็นผลจากการกระทำอันมิชอบด้วยกฎหมาย
-การเปิดเผยโดยผู้ประดิษฐ์เอง รวมทั้งการแสดงผลงานของผู้ประดิษฐ์ในงานแสดงสินค้าระหว่างประเทศ หรือในงานแสดงต่อสาธารณชนของทางราชการ และผู้ประดิษฐ์ได้ยื่นขอรับสิทธิบัตรภายใน 12 เดือน นับแต่วันที่ได้มีการเปิดเผยหรือแสดงผลงาน
2. งานที่ปรากฏอยู่แล้วตามม.6 วรรคสอง (3) การประดิษฐ์ที่ได้รับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรแล้ว ไม่ว่าในหรือนอกราชอาณาจักรก่อนวันขอรับสิทธิบัตร (ได้รับแล้ว ก็เป็นงานที่ปรากฏอยู่แล้ว)
-แม้ผู้ที่ได้รับสิทธิบัตรในประเทศหนึ่งแล้ว ก็ไม่สามารถขอรับสิทธิในประเทศไทยได้อีก เนื่องจากเป็นการประดิษฐ์ที่ได้รับสิทธิบัตรไว้แล้ว และผู้อื่นก็ไม่สามารถขอรับได้
3. สิทธิบัตรกับหลักดินแดน
-การให้ความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญานั้น ขึ้นอยู่กับกฎหมายแต่ละประเทศ และสิทธิเด็ดขาดหรือสิทธิผูกขาดนั้น ก็สามารถใช้และบังคับได้ภายในดินแดนของประเทศที่ให้ความคุ้มครองเท่านั้น
-สิทธิบัตรออกประเทศใด ก็ได้รับความคุ้มครองประเทศนั้นเท่านั้น
-ฎ.6818/2549 สิทธิบัตรที่ออกโดยอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา จะได้รับความคุ้มครองในราชอาณาจักรไทยตามทฤษฎีสากลเรื่องหลักดินแดน ซึ่งผู้ทรงสิทธิบัตรจะบังคับใช้สิทธิของตนได้เฉพาะแต่ภายในเขตอำนาจอธิปไตยของประเทศที่ออกสิทธิบัตรเท่านั้น ไม่อาจบังคับใช้สิทธิของตนต่อการกระทำละเมิดเกี่ยวกับสิทธิบัตรที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาเขตของประเทศนั้นได้ ข้อเท็จจริงรับฟังยุติว่า โจทก์เป็นผู้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิในสิทธิบัตรแบบผลิตภัณฑ์ระบบกำแพงกันดินก้อนมาตรฐาน พิซ่า ทู โดยมีสิทธิผลิต ใช้ ขาย มีไว้เพื่อขายซึ่งแบบผลิตภัณฑ์ตามสิทธิบัตรแต่เพียงผู้เดียวในภาคใต้ รวมทั้งในจังหวัดภูเก็บเป็นระยะเวลา 5 ปี และภายในระยะเวลาดังกล่าว มีการผลิตแบบผลิตภัณฑ์ดังกล่าวโดยใช้เครื่องจักรในโรงงานผลิตอิฐบล็อกชั่วคราวของจำเลยที่ 1 ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลเทพกษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็บ คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันกระทำความผิดฐานละเมิดสิทธิบัตรตามฟ้องหรือไม่ ซึ่งมีปัญหาต้องวินิจฉัยในชั้นนี้ตามอุทธรณ์ของโจทก์ข้อแรกว่า โจทก์เป็นผู้เสียหาย และมีอำนาจฟ้องหรือไม่ เห็นว่า สิทธิบัตรที่จะได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ.2522 ต้องเป็นสิทธิบัตรที่ได้ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรต่ออธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ พร้อมทั้งเปิดเผยรายละเอียดการประดิษฐ์หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์เมื่อผ่านการตรวจสอบว่ามีลักษณะครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว อธิบดีจึงจะออกสิทธิบัตรให้ผู้ขอ ตามม.33 แห่งพ.ร.บ.ดังกล่าว สิทธิบัตรที่ออกโดยอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาดังกล่าวจึงจะได้รับความคุ้มครองในราชอาณาจักรไทย ตามทฤษฎีสากลในเรื่องหลักดินแดนซึ่งผู้ทรงสิทธิบัตรจะบังคับใช้สิทธิของตนได้เฉพาะแต่ภายในเขตอำนาจอธิปไตยของประเทศที่ออกสิทธิบัตรนั้นเท่านั้น ไม่อาจบังคับใช้สิทธิของตนต่อการกระทำละเมิดเกี่ยวกับสิทธิบัตรที่เกิดขึ้นนอกอาณาเขตของประเทศนั้นได้ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความจากคำเบิกความตอบถามค้าของพยานโจทก์ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของโจทก์ว่า สิทธิบัติแบบผลิตภัณฑ์ระบบกำแพงกันดินก้อนมาตรฐาน พิซ่า ทู ได้รับสิทธิบัตรในประเทศสหรัฐอเมริกาตามทะเบียนเลขที่ Des. 403,437 เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2541 แต่ไม่ได้มีการยื่นขอจดทะเบียนขอรับสิทธิบัตรในประเทศไทย ดังนั้น สิทธิบัตรดังกล่าวย่อมได้รับความคุ้มครองให้ใช้บังคับได้เฉพาะภายในอาณาเขตประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นที่มีกฎหมายยอมรับบังคับได้ แต่จะไม่ได้รับความคุ้มครองในราชอาณาจักรไทย แม้โจทก์จะนำสืบว่าโจทก์เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิตามสิทธิบัตรดังกล่าวจากผู้ทรงสิทธิบัตรในประเทศสหรัฐอเมริกา ให้มีสิทธิในการผลิต ใช้ ขาย มีไว้เพื่อขาย เสนอขายผลิตภัณฑ์ตามสิทธิบัตรแต่เพียงผู้เดียวในภาคใต้ รวมทั้งในจังหวัดภูเก็บ โจทก์ก็ไม่ใช่ผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิตามสิทธิบัตรตามม.38 แห่งพ.ร.บ.ดังกล่าว ในอันที่จะมีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในพื้นที่ดังกล่าวในราชอาณาจักรไทย เพราะผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิจากผู้ทรงสิทธิบัตรที่ออกโดยอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาเท่านั้น เมื่อบริษัท จ. ผู้อนุญาต ไม่ใช่ผู้ทรงสิทธิบัตรตามกฎหมายไทย โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิตามกฎหมายไทย และไม่เป็นผู้เสียหายที่พึงจะได้รับความคุ้มครองสิทธิตามม.33 , 63 ประกอบม.65 และไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามม.85 ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วยในผล อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน
-ฎ.3094/2549 บริษัทโจทก์ไม่เคยยื่นคำขอจดทะเบียนสิทธิบัตรในประเทศไทย แต่ได้จดสิทธิบัตรที่ประเทศสหรัฐอเมริกา สิทธิบัตรดังกล่าวจึงย่อมได้รับความคุ้มครองเฉพาะภายในเขตประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นที่มีกฎหมายยอมรับบังคับได้ แม้โจทก์จะนำสืบว่าเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิบัตรดังกล่าวจากผู้ทรงสิทธิบัตร และมีสิทธิแต่ผู้เดียวในการใช้แบบผลิตภัณฑ์ตามสิทธิบัตรหรือขาย มีไว้เพื่อขาย หรือเสนอขายหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งผลิตภัณฑ์ ใช้แบบผลิตภัณฑ์ตามสิทธิบัตรที่จดทะเบียนในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่สิทธิแต่ผู้เดียวของโจทก์ดังกล่าว ไม่รวมถึงการได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายของประเทศไทย โจทก์จึงมิใช่ผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิตามม.38 เพราะผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิตามม.38 ต้องเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิจากผู้ทรงสิทธิบัตรที่ออกโดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์เท่านั้น โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายตามม.33 , 63 ประกอบม.65 และไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามม.85
4. งานที่ปรากฏอยู่แล้วตามม.6 วรรคสอง (4) การประดิษฐ์ที่มีผู้ขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรไว้แล้วนอกราชอาณาจักรเป็นเวลาเกินสิบแปดเดือนก่อนวันขอรับสิทธิบัตร แต่ยังมิได้มีการออกสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรให้
5. งานที่ปรากฏอยู่แล้วตามม.6 วรรคสอง (5) การประดิษฐ์ที่มีผู้ขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรไว้แล้ว ไม่ว่าในหรือนอกราชอาณาจักร และได้ประกาศโฆษณาแล้วก่อนวันขอรับสิทธิบัตรในราชอาณาจักร (ประกาศโฆษณาของทางราชการ เพื่อให้มีการคัดค้าน)
6. การประดิษฐ์ที่มีขั้นการประดิษฐ์สูงขึ้น inventive step ม.5(2)+ม.7
-ม.7 การประดิษฐ์ที่มีขั้นการประดิษฐ์สูงขึ้น ได้แก่ การประดิษฐ์ที่ไม่เป็นที่ประจักษ์โดยง่ายแก่บุคคลที่มีความชำนาญในระดับสามัญสำหรับงานประเภทนั้น-ต้องไม่เป็นสิ่งที่สามารถคิดค้นได้โดยง่ายเกินไป สำหรับผู้ที่มีความสามารถอยู่ในระดับปานกลาง
-ฎ.829/2549 จำเลยเป็นผู้ทรงสิทธิอุปกรณ์ล็อคก้านแป้นคลัตช์และก้านแป้นเบรค เมื่อพิจารณาการประดิษฐ์ตามสิทธิบัตรของจำเลย เปรียบเทียบกับงานที่ปรากฏอยู่แล้ว เห็นว่างานของจำเลยมีการพัฒนาส่วนประกอบซึ่งเป็นสาระสำคัญของการประดิษฐ์เพิ่มขึ้นมา ทำให้รูหรือห่วงตรงกันและสามารถใช้กุญแจคล้องเพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง เมื่อนำส่วนประกอบดังกล่าวมารวมกัน ทำให้เห็นว่าสิ่งประดิษฐ์ของจำเลยมีขั้นการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น สิทธิบัตรของจำเลยจึงเป็นสิทธิบัตรที่ออกโดยชอบด้วยกฎหมายตามม.5 แห่งพ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ.2522
-ฎ.3144/2557 การประดิษฐ์ตามสิทธิบัตรเลขที่ 25271 มีขั้นการประดิษฐ์สูงขึ้นตามม.5(2) และม.7 หรือไม่นั้น พยานโจทก์ทั้งสองเป็นผู้มีความรู้เชี่ยวชาญในด้านวิศวกรรมการเกษตร และได้อ้างอิงหลักฐานทางวิชาการที่เกี่ยวข้อง คำเบิกความจึงมีน้ำหนักและเหตุผลให้รับฟังได้ ส่วนจำเลยทั้งสองไม่ได้นำสืบหักล้างให้เห็นเป็นอย่างอื่น ประกอบกับการประดิษฐ์เครื่องปลูกอ้อยตามสิทธิบัตรดังกล่าว จำเลยที่ 1 ไม่ได้คิดค้นอุปกรณ์ซึ่งเป็นส่วนประกอบต่าง ๆ ขึ้นเอง แต่นำมาประกอบรวมเข้าด้วยกัน โดยไม่ปรากฏว่าระบบการทำงานของฐานใส่อ้อยและกล่องป้อนอ้อยตามสิทธิบัตรดังกล่าวได้ปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพแตกต่างจากที่วางพาดอ้อยและช่องเสียงลำอ้อยทั่ว ๆ ไปอย่างไร เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 1 เพียงเพิ่มปริมาณช่องป้อนต้นอ้อยให้มากขึ้น จึงเป็นการประดิษฐ์ที่ประจักษ์โดยง่ายแก่บุคคลที่มีความชำนาญในระดับสามัญสำหรับงานเครื่องจักรทางการเกษตร ไม่มีขั้นการประดิษฐ์สูงขึ้นตามม.5(2) และม.7 จึงเป็นสิทธิบัตรที่ไม่สมบูรณ์ตามพ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ.2522 ม.54 วรรคหนึ่ง ประกอบม.5(2) , ม.7
7. อนุสิทธิบัตร
-การประดิษฐ์ที่ขอรับอนุสิทธิบัตรได้ เป็นการประดิษฐ์ขึ้นใหม่ และ เป็นการประดิษฐ์ที่สามารถประยุกต์ในทางอุตสาหกรรม
-สิทธิบัตรมีอายุ 20 ปี (ม.35) ส่วนอนุสิทธิบัตรมีอายุ 6 ปี ขอต่ออายุได้ 2 ครั้ง ๆ ละ 2 ปี
8. สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์
-การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ขอรับสิทธิบัตรได้ ม.56 ต้องเป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ ต้องเป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่ออุตสาหกรรมหรือหัตถกรรมเท่านั้น (ไม่จำเป็นต้องมีขั้นการประดิษฐ์สูงขึ้น)
-ฎ.7769/2547 การทดลองแบบผลิตภัณฑ์แผงสายอากาศเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ ว่าสามารถใช้รับสัญญาณโทรทัศน์และวิทยุได้หรือไม่ เป็นการทดลองเพื่อดูว่าการออกแบบผลิตภัณฑ์นั้นสามารถใช้ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องได้หรือไม่
9. ลักษณะการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถือว่าใหม่ ม.57
-ม.57(1) เป็นสิ่งที่มีหรือใช้แพร่หลายแล้วในราชอาณาจักรก่อนวันขอรับสิทธิบัตร
-ม.57(2) แบบผลิตภัณฑ์ที่ได้มีการเปิดเผยภาพ สาระสำคัญ หรือรายละเอียดในเอกสารหรือสิ่งพิมพ์ที่ได้เผยแพร่อยู่แล้ว ไม่ว่าในหรือนอกราชอาณาจักร ก่อนวันขอรับสิทธิบัตร (มีหลักการเหมือนกับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ม.6 วรรคสอง(2))
-ม.57(3) แบบผลิตภัณฑ์ที่เคยมีประกาศโฆษณาตามมาตรา 65 ประกอบด้วยมาตรา 28 มาแล้วก่อนวันขอรับสิทธิบัตร
-ม.57(4) แบบผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกับแบบผลิตภัณฑ์ดังกล่าวใน (1) (2) หรือ (3) จนเห็นได้ว่าเป็นการเลียนแบบ
-ถ้าจะถือว่าใหม่ จะต้องแตกต่างกันมากในสาระสำคัญ
-ฎ.5341/2533 โจทก์ออกแบบเหยือกน้ำ โดยออกแบบพวยรินน้ำเป็นร่องสี่เหลี่ยม โจทก์ไปขอรับสิทธิบัตร แต่ไม่ได้รับการจดทะเบียน จึงฟ้องคดี ศาลฎีกาเห็นว่าที่ปากพวยรินน้ำทำเป็นสี่เหลี่ยมนิดเดียว ต่างกับของผู้อื่นเพียงรายละเอียดเล็กน้อย จึงถือว่าไม่ใช่การออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ (แตกต่างเล็กน้อย ไม่ได้แตกต่างในสาระสำคัญ)
-ฎ.5073/2557 (น่าสนใจ ขอให้นักศึกษาไปดูเพิ่มเติม)*** การออกแบบแม่พิมพ์กระเบื้องเพื่อผลิตให้มีรูปร่าง ขนาด และรูปลักษณ์ที่แปลกใหม่แตกต่างจากกระเบื้องที่ผลิตออกจำหน่ายในประเทศไทย เป็นการออกแบบกระเบื้องให้มีรูปร่างของผลิตภัณฑ์อันมีลักษณะพิเศษ สำหรับผลิตภัณฑ์ซึ่งสามารถใช้เป็นแบบสำหรับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เข้าลักษณะแบบผลิตภัณฑ์ที่มีความใหม่ในการออกแบบ
***จบการบรรยาย***
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น