สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา (ครั้งที่ 11-12)
สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา (ครั้งที่ 11-12)
อาจารย์วรวงศ์ อัจฉราวงศ์ชัย
วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568
**********
1. ข้อสอบกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา 1 ข้อ อาจจะเป็นกฎหมายฉบับใดฉบับหนึ่ง หรืออาจจะออกกฎหมาย 2 ฉบับในข้อเดียว
2. พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มุ่งคุ้มครองงานสร้างสรรค์สุนทรียภาพ งานบันเทิง รวม 9 ประเภท ตามม.6
-ลิขสิทธิ์ คุ้มครองอัตโนมัติ ไม่ต้องจดทะเบียน ไม่ต้องสงวนสิทธิ (กรมทรัพย์สินทางปัญญาให้บริการรับจดแจ้ง ไม่มีผลต่อความคุ้มครอง) แตกต่างจากสิทธิบัตรที่จะต้องจดทะเบียนเท่านั้นจึงจะได้รับความคุ้มครอง ส่วนเครื่องหมายการค้าอาจจะจดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียนก็ได้
-ลิขสิทธิ์ คุ้มครองการแสดงออกซึ่งความคิด ไม่คุ้มครองตัวความคิดหรือแนวคิด
-ลิขสิทธิ์ คุ้มครองตลอดอายุของผู้สร้างสรรค์+อีก50ปีหลังตาย เพื่อตอบแทนการสร้างสรรค์งานให้สังคม หลังจากนั้นแล้ว สาธารณชนสามารถใช้งานนั้นได้
-ลิขสิทธิ์ แม้อยู่ในอายุความคุ้มครอง มีข้อยกเว้นบางกรณีที่ผู้อื่นสามารถใช้ ทำซ้ำ เผยแพร่ได้ เช่น นำวรรณกรรมมาศึกษาวิจัย ก็ได้รับการยกเว้น
-หลักการสิ้นสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา เจ้าของลิขสิทธิ์ ขายงานอันมีลิขสิทธิ์อย่างถูกต้อง เจ้าของลิขสิทธิ์สิ้นสิทธิควบคุมการจำหน่ายต่อ แต่ยังเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ห้ามมีการทำซ้ำ (ผู้ซื้อสามารถนำสินค้านั้นออกจำหน่ายให้ผู้อื่นได้ในฐานะเจ้าของทรัพย์สิน แต่ห้ามทำซ้ำเพราะไม่ใช่ฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์)
-ฎ.846/2534 สิทธิในงานอันมีลิขสิทธิ์แตกต่างจากกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทั่วไป จึงไม่อาจอ้างการได้มาซึ่งลิขสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ได้
3. เงื่อนไขทั่วไปของลิขสิทธิ์***
-ลิขสิทธิ์ คุ้มครองการแสดงออกซึ่งความคิด ไม่คุ้มครองตัวความคิดหรือแนวคิด ต้องเกิดจากการริเริ่มขึ้นเอง มิได้ทำซ้ำ ลอกเลียน หรือดัดแปลงจากงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้อื่น และเกิดจากความวิริยะอุตสาหะของผู้สร้างสรรค์ ซึ่งได้ทุ่มเทกำลัง สติปัญญา ความรู้ ความเชี่ยวชาญ วิจารณญาณ มิใช่สักแต่ว่าทำงานนั้นขึ้นหรืองานนั้นเกิดขึ้นโดยบังเอิญ การตอบข้อสอบที่จะได้คะแนนดี***
-การคุ้มครองลิขสิทธิ์ไม่เกี่ยวกับคุณค่าของงานหรือคุณค่าทางศิลปะ หากงานเกิดขึ้นโดยบังเอิญ แม้จะมีราคาหรือคุณค่าก็ไม่อาจถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์
-ฎ.19350/2557 แม้ผู้สร้างสรรค์ได้ทำรูปปั้นพระพุทธรูปบนใบโพธิ์โดยเลียนแบบธรรมชาติหรือสิ่งที่ปรากฏอยู่ก่อนแล้ว คือ พระพักตร์พระพุทธรูป ก็ถือว่าผู้สร้างสรรค์งานรูปปั้น ได้สร้างสรรค์งานนั้นด้วยการริเริ่มขึ้นเอง และด้วยความวิริยะอุตสาหะแล้ว เพราะมิใช่การสร้างงานนั้นขึ้นโดยทำซ้ำหรือดัดแปลงจากงานประติมากรรรมรูปปั้นพระพักตร์พระพุทธรูปอันมีลิขสิทธิ์ของผู้อื่น (งานสร้างสรรค์ที่จะได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ ไม่จำเป็นต้องเป็นงานใหม่ (เหมือนเงื่อนไขการคุ้มครองสิทธิบัตร) และอาจจะเหมือนหรือคล้ายกับงานที่มีอยู่แล้ว แต่ต้องเกิดขึ้นโดยการคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของผู้สร้างสรรค์เท่านั้น โดยไม่ได้ลอกเลียนหรือทำซ้ำงานของผู้อื่น)
4. เงื่อนไขเฉพาะ***
-ม.8 "ให้ผู้สร้างสรรค์เป็นผู้มีลิขสิทธิ์ในงานที่ตนได้สร้างสรรค์ขึ้นภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้
(1) ในกรณีที่ยังไม่ได้มีการโฆษณางาน ผู้สร้างสรรค์ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทยหรืออยู่ในราชอาณาจักร หรือเป็นผู้มีสัญชาติหรืออยู่ในประเทศที่เป็นภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย ตลอดระยะเวลาหรือเป็นส่วนใหญ่ในการสร้างสรรค์งานนั้น
(2) ในกรณีที่ได้มีการโฆษณางานแล้ว การโฆษณางานนั้นในครั้งแรกได้กระทำขึ้นในราชอาณาจักร หรือในประเทศที่เป็นภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย หรือในกรณีที่การโฆษณาครั้งแรกได้กระทำนอกราชอาณาจักรหรือในประเทศอื่นที่ไม่เป็นภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย หากได้มีการโฆษณางานดังกล่าวในราชอาณาจักรหรือในประเทศที่เป็นภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ด้วยภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้มีการโฆษณาครั้งแรก หรือผู้สร้างสรรค์เป็นผู้มีลักษณะตามที่กำหนดไว้ใน (1) ในขณะที่มีการโฆษณางานครั้งแรก
ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย ถ้าผู้สร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล นิติบุคคลนั้นต้องเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย"
(1) ในกรณีที่ยังไม่ได้มีการโฆษณางาน ผู้สร้างสรรค์ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทยหรืออยู่ในราชอาณาจักร หรือเป็นผู้มีสัญชาติหรืออยู่ในประเทศที่เป็นภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย ตลอดระยะเวลาหรือเป็นส่วนใหญ่ในการสร้างสรรค์งานนั้น
(2) ในกรณีที่ได้มีการโฆษณางานแล้ว การโฆษณางานนั้นในครั้งแรกได้กระทำขึ้นในราชอาณาจักร หรือในประเทศที่เป็นภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย หรือในกรณีที่การโฆษณาครั้งแรกได้กระทำนอกราชอาณาจักรหรือในประเทศอื่นที่ไม่เป็นภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ด้วย หากได้มีการโฆษณางานดังกล่าวในราชอาณาจักรหรือในประเทศที่เป็นภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีอยู่ด้วยภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้มีการโฆษณาครั้งแรก หรือผู้สร้างสรรค์เป็นผู้มีลักษณะตามที่กำหนดไว้ใน (1) ในขณะที่มีการโฆษณางานครั้งแรก
ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย ถ้าผู้สร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล นิติบุคคลนั้นต้องเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย"
-ม.4 "การโฆษณา" หมายความว่า การนำสำเนาจำลองของงานไม่ว่าในรูปหรือลักษณะอย่างใดที่ทำขึ้นโดยความยินยอมของผู้สร้างสรรค์ออกจำหน่าย โดยสำเนาจำลองนั้นมีปรากฏต่อสาธารณชนเป็นจำนวนมากพอสมควรตามสภาพของงานนั้น แต่ทั้งนี้ไม่หมายความรวมถึง การแสดงหรือการทำให้ปรากฏซึ่งนาฏกรรม ดนตรีกรรม หรือภาพยนตร์ การบรรยายหรือการปาฐกถา ซึ่งวรรณกรรม การแพร่เสียงแพร่ภาพเกี่ยวกับงานใด การนำศิลปกรรมออกแสดง และการก่อสร้างงานสถาปัตยกรรม
-ถ้าโจทก์มีสัญชาติประเทศอื่น แต่โจทก์ไม่บรรยายฟ้องว่าประเทสที่โจทก์ถือสัญชาติเป็นภาคีแห่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองลิขสิทธิ์ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคี หรือไม่ได้ระบุเงื่อนไขอื่น ๆ ตามม.8 ถือว่าเป็นฟ้องอาญาที่ไม่ชอบ ตามพ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ ประกอบ ป.วิ.อ.ม.158(5) แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลก็ไม่อาจลงโทษได้ ฎ.7407/2553
-ฎ.7616/2560 แม้ฟ้องของโจทก์จะไม่บรรยายระบุว่าได้ทำการโฆษณางานครั้งแรกเมื่อใด แต่โจทก์อาจได้มาซึ่งลิขสิทธิ์ในงานภาพถ่ายในกรณีที่ยังไม่ได้มีการโฆษณางานได้เมื่อโจทก์มีสัญชาติไทยและเป็นผู้สร้างสรรค์งานภาพถ่ายนั้นเอง โจทก์ก็ย่อมได้มาซึ่งลิขสิทธิ์ในงานดังกล่าวทันทีที่สร้างสรรค์งานเสร็จแม้จะยังมิได้โฆษณางานนั้น ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 8 (1) ซึ่งลิขสิทธิ์ในงานภาพถ่ายนั้น มีอายุ 50 ปี นับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้นตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 21 เมื่อขณะฟ้องโจทก์มีอายุเพียง 25 ปี แม้จะฟังว่าโจทก์ได้สร้างสรรค์งานนั้นตั้งแต่เกิด งานภาพถ่ายของโจทก์ก็ยังอยู่ในอายุแห่งการคุ้มครอง จึงถือได้ว่าฟ้องของโจทก์ได้แสดงให้เห็นว่าโจทก์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานภาพถ่ายที่โจทก์สร้างสรรค์ขึ้นและยังอยู่ในอายุแห่งการคุ้มครองลิขสิทธิ์ จึงไม่ขาดองค์ประกอบของความผิดในข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานภาพถ่ายของโจทก์
5. เงื่อนไขตามคำพิพากษา***
-หลักกฎหมายที่ศาลกำหนด กฎหมายลิขสิทธิ์ไม่ให้ความคุ้มครองแก่งานที่มีลักษณะลามกอนาจาร หรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน แม้ว่างานนั้นจะผ่านเงื่อนไขอื่น ๆ ในการได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ก็ตาม
-ฎ.3705/2530 ภาพยนตร์เรื่องอาถรรพ์น้ำมันพราย มีฉากร่วมเพศระหว่างหญิงกับชาย โจทก์จึงไม่อาจเป็นผู้มีลิขสิทธิ์ในงานดังกล่าว (ต่างประเทศไม่มีหลักนี้)
-ฎ.2652/2561 วิดีโอลามกไม่ใช่งานสร้างสรรค์ที่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์
6. ฎีกาน่าสนใจ
-ฎ.7117/2552 ลูกล้อทางเลื่อน ไม่อาจถือเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ได้ เนื่องจากเป็นการออกแบบที่มุ่งเน้นประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก ไม่ถือว่าเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับศิลปะหรือเริ่มต้นจากงานที่มีความงามเป็นจุดเริ่มต้น
7. งานสร้างสรรค์ 9 ประเภท
-ม.6 "งานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ ได้แก่งานสร้างสรรค์ประเภทวรรณกรรม นาฏกรรม ศิลปกรรม ดนตรีกรรม โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง งานแพร่เสียงแพร่ภาพ หรืองานอื่นใดในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ ของผู้สร้างสรรค์ไม่ว่างานดังกล่าวจะแสดงออกโดยวิธีหรือรูปแบบอย่างใด
การคุ้มครองลิขสิทธิ์ไม่คลุมถึงความคิด หรือขั้นตอน กรรมวิธีหรือระบบ หรือวิธีใช้หรือทำงาน หรือแนวความคิด หลักการ การค้นพบ หรือทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์"
การคุ้มครองลิขสิทธิ์ไม่คลุมถึงความคิด หรือขั้นตอน กรรมวิธีหรือระบบ หรือวิธีใช้หรือทำงาน หรือแนวความคิด หลักการ การค้นพบ หรือทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์"
7.1) "วรรณกรรม" หมายความว่า งานนิพนธ์ที่ทำขึ้นทุกชนิด เช่น หนังสือ จุลสาร สิ่งเขียน สิ่งพิมพ์ ปาฐกถา เทศนา คำปราศรัย สุนทรพจน์ และให้หมายความรวมถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วย
-งานวรรณกรรม ต้องแสดงถึงทักษะ การตัดสินใจ และความวิริยะอุตสาหะ
-โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ถ้าดูภาษาคอมพิวเตอร์ การเขียนโค้ด ก็ถือเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่ถ้าดูสิ่งที่ปรากฏออกมา เกม เป็นงานโสตทัศนวัสดุ
7.2) "โปรแกรมคอมพิวเตอร์" หมายความว่า คำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใดที่นำไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานหรือเพื่อให้ได้รับผลอย่างหนึ่งอย่างใด ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในลักษณะใด7.3) "นาฏกรรม" หมายความว่า งานเกี่ยวกับการรำ การเต้น การทำท่า หรือการแสดงที่ประกอบขึ้นเป็นเรื่องราว และให้หมายความรวมถึงการแสดงโดยวิธีใบ้ด้วย
-ฎ.2681/2553 เกมโชว์ไม่ใช่งานนาฏกรรม เพราะผู้เล่นเกมโชว์มีอิสระที่จะกระทำการใด ๆ ภายใต้กรอบกติกาที่กำหนดไว้ เพื่อให้ตนชนะการเล่นเกมโชว์นั้นได้ หาใช่ว่าผู้เล่นเกมโชว์จะต้องปฏิบัติตนไปตามรูปแบบและกฎกติกาที่กำหนดไว้โดยไม่มีอิสระ เกมโชว์จึงมีลักษณะเช่นเดียวกับการแข่งขันกีฬา และไม่ใช่งานนาฏกรรม
7.4) "ศิลปกรรม" หมายความว่า งานอันมีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดหรือหลายอย่าง ดังต่อไปนี้
(1) งานจิตรกรรม ได้แก่ งานสร้างสรรค์รูปทรงที่ประกอบด้วยเส้น แสง สี หรือสิ่งอื่น อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน ลงบนวัสดุอย่างเดียวหรือหลายอย่าง
(2) งานประติมากรรม ได้แก่ งานสร้างสรรค์รูปทรงที่เกี่ยวกับปริมาตรที่สัมผัสและจับต้องได้
(3) งานภาพพิมพ์ ได้แก่ งานสร้างสรรค์ภาพด้วยกรรมวิธีทางการพิมพ์ และหมายความรวมถึงแม่พิมพ์หรือแบบพิมพ์ที่ใช้ในการพิมพ์ด้วย
(4) งานสถาปัตยกรรม ได้แก่ งานออกแบบอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง งานออกแบบตกแต่งภายในหรือภายนอก ตลอดจนบริเวณของอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง หรือการสร้างสรรค์หุ่นจำลองของอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง
(5) งานภาพถ่าย ได้แก่ งานสร้างสรรค์ภาพที่เกิดจากการใช้เครื่องมือบันทึกภาพโดยให้แสงผ่านเลนซ์ไปยังฟิล์มหรือกระจก และล้างด้วยน้ำยาซึ่งมีสูตรเฉพาะ หรือด้วยกรรมวิธีใด ๆ อันทำให้เกิดภาพขึ้น หรือการบันทึกภาพโดยเครื่องมือหรือวิธีการอย่างอื่น
(6) งานภาพประกอบ แผนที่ โครงสร้าง ภาพร่าง หรืองานสร้างสรรค์รูปทรงสามมิติอันเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ภูมิประเทศ หรือวิทยาศาสตร์
(7) งานศิลปประยุกต์ ได้แก่ งานที่นำเอางานตาม (1) ถึง (6) อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกันไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น นอกเหนือจากการชื่นชมในคุณค่าของตัวงานดังกล่าวนั้น เช่น นำไปใช้สอย นำไปตกแต่งวัสดุหรือสิ่งของอันเป็นเครื่องใช้หรือนำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้า
ทั้งนี้ ไม่ว่างานตาม (1) ถึง (7) จะมีคุณค่าทางศิลปะหรือไม่ และให้หมายความรวมถึงภาพถ่ายและแผนผังของงานดังกล่าวด้วย
(1) งานจิตรกรรม ได้แก่ งานสร้างสรรค์รูปทรงที่ประกอบด้วยเส้น แสง สี หรือสิ่งอื่น อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน ลงบนวัสดุอย่างเดียวหรือหลายอย่าง
(2) งานประติมากรรม ได้แก่ งานสร้างสรรค์รูปทรงที่เกี่ยวกับปริมาตรที่สัมผัสและจับต้องได้
(3) งานภาพพิมพ์ ได้แก่ งานสร้างสรรค์ภาพด้วยกรรมวิธีทางการพิมพ์ และหมายความรวมถึงแม่พิมพ์หรือแบบพิมพ์ที่ใช้ในการพิมพ์ด้วย
(4) งานสถาปัตยกรรม ได้แก่ งานออกแบบอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง งานออกแบบตกแต่งภายในหรือภายนอก ตลอดจนบริเวณของอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง หรือการสร้างสรรค์หุ่นจำลองของอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง
(5) งานภาพถ่าย ได้แก่ งานสร้างสรรค์ภาพที่เกิดจากการใช้เครื่องมือบันทึกภาพโดยให้แสงผ่านเลนซ์ไปยังฟิล์มหรือกระจก และล้างด้วยน้ำยาซึ่งมีสูตรเฉพาะ หรือด้วยกรรมวิธีใด ๆ อันทำให้เกิดภาพขึ้น หรือการบันทึกภาพโดยเครื่องมือหรือวิธีการอย่างอื่น
(6) งานภาพประกอบ แผนที่ โครงสร้าง ภาพร่าง หรืองานสร้างสรรค์รูปทรงสามมิติอันเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ภูมิประเทศ หรือวิทยาศาสตร์
(7) งานศิลปประยุกต์ ได้แก่ งานที่นำเอางานตาม (1) ถึง (6) อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกันไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น นอกเหนือจากการชื่นชมในคุณค่าของตัวงานดังกล่าวนั้น เช่น นำไปใช้สอย นำไปตกแต่งวัสดุหรือสิ่งของอันเป็นเครื่องใช้หรือนำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้า
ทั้งนี้ ไม่ว่างานตาม (1) ถึง (7) จะมีคุณค่าทางศิลปะหรือไม่ และให้หมายความรวมถึงภาพถ่ายและแผนผังของงานดังกล่าวด้วย
-ข้อสอบผู้ช่วยผู้พิพากษาสนามใหญ่2568 ออกเรื่องแผนที่
-ข้อสอบถ้าเป็นงานศิลปกรรม จะต้องตอบด้วยว่าเป็นงานประเภทใดใน (1)-(7) ถ้าใช้ถ้อยคำตามกฎหมายได้ ก็จะได้คะแนนดี
-ฎ.4486/22539 การดัดแปลงที่จะได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมในสาระสำคัญถึงขนาดสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ไม่ใช่เพียงแค่การลอกเลียนมาจากของเดิมที่มีอยู่แล้วหรือใช้กันทั่วไป การที่โจทก์เพียงแต่ได้นำแผนที่ของกรมทางหลวงมาแบ่งส่วนใหม่ รวมเป็นรูปเล่มและให้สีเท่านั้น ถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมแผนที่ทางหลวงของกรมทางหลวงในสาระสำคัญถึงขนาดสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ อันจะพอถือได้ว่าเป็นการดัดแปลง โจทก์จึงไม่ได้ลิขสิทธิ์ในรูปแผนที่ทางหลวงตามม.9 ประกอบม.4
-ฎ.5259/2549 โจทก์เป็นผู้ทำหรือก่อให้เกิดหนังสือชื่อผลไม้ชุดที่ 1 ด้วยตนเอง โดยใช้ความรู้ความสามารถในฐานะสำนักพิมพ์สร้างสรรค์งานด้วยการทุ่มเทความรู้ วิจารณญาณ ฝีมือ แรงงาน โดยขั้นตอนถ่ายรูปผลไม้ต้องคัดสรรผลไม้ที่มีผลสมบูรณ์จากจังหวัดระยองและจันทบุรีมาทำความสะอาด จัดวางตำแหน่งผลไม้ จากนั้นทีมงานช่างถ่ายภาพรูปลงในฟิล์มใหญ่แล้วนำภาพไปสแกนโดยระบบคอมพิวเตอร์ เสร็จแล้วมีข้อมูลอธิบายเกี่ยวกับผลไม้ประกอบรูปผลไม้ ภาพถ่ายรูปผลไม้จึงเป็นงานศิลปกรรมประเภทงานภาพถ่าย ส่วนข้อมูลอธิบายผลไม้เป็นงานวรรณกรรมอันมีลิขสิทธิ์ตามม.6
7.5) "ดนตรีกรรม" หมายความว่า งานเกี่ยวกับเพลงที่แต่งขึ้นเพื่อบรรเลงหรือขับร้องไม่ว่าจะมีทำนองและคำร้องหรือมีทำนองอย่างเดียว และให้หมายความรวมถึงโน้ตเพลงหรือแผนภูมิเพลงที่ได้แยกและเรียบเรียงเสียงประสานแล้ว
7.6) "โสตทัศนวัสดุ" หมายความว่า งานอันประกอบด้วยลำดับของภาพโดยบันทึกลงในวัสดุไม่ว่าจะมีลักษณะอย่างใด อันสามารถที่จะนำมาเล่นซ้ำได้อีก โดยใช้เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการใช้วัสดุนั้น และให้หมายความรวมถึงเสียงประกอบงานนั้นด้วย ถ้ามี7.7) "ภาพยนตร์" หมายความว่า โสตทัศนวัสดุอันประกอบด้วยลำดับของภาพ ซึ่งสามารถนำออกฉายต่อเนื่องได้อย่างภาพยนตร์หรือสามารถบันทึกลงบนวัสดุอื่น เพื่อนำออกฉายต่อเนื่องได้อย่างภาพยนตร์ และให้หมายความรวมถึงเสียงประกอบภาพยนตร์นั้นด้วย ถ้ามี
7.8) "สิ่งบันทึกเสียง" หมายความว่า งานอันประกอบด้วยลำดับของเสียงดนตรี เสียง การแสดง หรือเสียงอื่นใด โดยบันทึกลงในวัสดุไม่ว่าจะมีลักษณะใด ๆ อันสามารถที่จะนำมาเล่นซ้ำได้อีกโดยใช้เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการใช้วัสดุนั้น แต่ทั้งนี้มิให้หมายความรวมถึงเสียงประกอบภาพยนตร์หรือเสียงประกอบโสตทัศนวัสดุอย่างอื่น
7.8) "สิ่งบันทึกเสียง" หมายความว่า งานอันประกอบด้วยลำดับของเสียงดนตรี เสียง การแสดง หรือเสียงอื่นใด โดยบันทึกลงในวัสดุไม่ว่าจะมีลักษณะใด ๆ อันสามารถที่จะนำมาเล่นซ้ำได้อีกโดยใช้เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการใช้วัสดุนั้น แต่ทั้งนี้มิให้หมายความรวมถึงเสียงประกอบภาพยนตร์หรือเสียงประกอบโสตทัศนวัสดุอย่างอื่น
-ความคุ้มครองทางกฎหมายของลิขสิทธิ์เพลง เพลงหนึ่งเพลงอาจมีเจ้าของลิขสิทธิ์หลายคน ได้แก่
--ลิขสิทธิ์ในทำนอง ผู้ประพันธ์ทำนองเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในฐานะดนตรีกรรม
--ลิขสิทธิ์ในคำร้อง นักแต่งเพลงหรือผู้ประพันธ์คำร้องเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในฐานะงานวรรณกรรม
--ลิขสิทธิ์ในการเรียบเรียง ผู้เรียบเรียงเสียงประสานเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ฐานะเป็นงานดัดแปลงที่ได้รับความคุ้มครอง
--ลิขสิทธิ์ในการบันทึกเสียง ผู้ผลิตหรือค่ายเพลงมักเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในฐานะโสตทัศนวัสดุ
--สิทธินักแสดง นักร้องและนักดนตรีมีสิทธินักแสดงในการขับร้องหรือบรรเลงเพลง ได้รับความคุ้มครองแยกต่างหากจากลิขสิทธิ์
7.9) "งานแพร่เสียงแพร่ภาพ" หมายความว่า งานที่นำออกสู่สาธารณชนโดยการแพร่เสียงทางวิทยุกระจายเสียง การแพร่เสียงและหรือภาพทางวิทยุโทรทัศน์ หรือโดยวิธีอย่างอื่นอันคล้ายคลึงกัน
-การถ่ายทอดกีฬาไม่ใช่การละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะกีฬาไม่ได้ลิขสิทธิ์ เพียงแต่การจัดงานมีกฎกติกาห้ามถ่ายทอดเท่านั้น
7.10) งานอื่นใดในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ ของผู้สร้างสรรค์ไม่ว่างานดังกล่าวจะแสดงออกโดยวิธีหรือรูปแบบอย่างใด
8. เกมโชว์เป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ประเภทใดบ้าง วิเคราะห์ทีละประเด็น ฎ.2681/2553
-งานสถาปัตยกรรม ต้องเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง ไม่ใช่เพียงการออกแบบตกแต่งสถานที่ที่ใช้ในการผลิตรายการ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ โดยตรง
-งานภาพร่างและงานภาพประกอบ จะต้องเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ภูมิประเทศ หรือวิทยาศาสตร์ด้วย ไม่ใช่งานภาพร่างหรืองานภาพประกอบใด ๆ ก็ได้
-งานศิลปะประยุกต์ เมื่อรูปแบบรายการเกมโชว์ ไม่อาจพิจารณาว่าเป็นงานภาพร่าง งานภาพประกอบ และงานสถาปัตยกรรมแล้ว ย่อมไม่อาจเป็นงานศิลปะประยุกต์ตามฟ้องได้
-งานนาฏกรรม การเล่นเกมโชว์เป็นเช่นเดียวกับการแข่งขันกีฬา หาใช่งานเกี่ยวกับการรำ การเต้น การทำท่า หรือการแสดงที่ประกอบขึ้นเป็นเรื่องราวอันจะถือได้ว่าเป็นงานนาฏกรรมได้
-งานแพร่เสียงแพร่ภาพ ไม่ปรากฏว่าการกระทำของจำเลยจะเป็นการละเมิดงานที่นำออกสู่สาธารณชน โดยการแพร่เสียงแพร่ภาพทางโทรทัศน์ตามม.29(1)-(3) จึงไม่อาจรับฟังว่าการกระทำของจำเลยเป็นการละเมิด
ครั้งหน้าเป็นเรื่องเจ้าของลิขสิทธิ์ การละเมิดลิขสิทธิ์
***จบการบรรยาย***
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น