สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา (ครั้งที่ 13-14)
สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา (ครั้งที่ 13-14)
อาจารย์วรวงศ์ อัจฉราวงศ์ชัย
วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม 2568
**********
1. สิ่งที่ไม่ถือเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ (กฎหมายลิขสิทธิ์มุ่งคุ้มครองการแสดงออกซึ่งความคิด ไม่ใช่ตัวความคิด จึงมีข้อยกเว้นสำหรับสิ่งที่ไม่ถือเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ เพื่อให้สาธารณชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านั้นได้โดยไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์)
-ม.6 วรรคสอง ความคิด ขั้นตอน กรรมวิธีหรือระบบ ถ้าตอบข้อสอบว่าลิขสิทธิ์ไม่คุ้มครองความคิดต้องอ้างม.6 วรรคสอง
-ม.7 ข่าวประจำวันและข้อเท็จจริง (ถ้านำข่าว ข้อเท็จจริงมาวิเคราะห์ ถือว่ามีการริเริ่มสร้างสรรค์งานแล้ว จึงเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์) , รัฐธรรมนูญ กฎหมาย , ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง หนังสือโต้ตอบของหน่วยงานรัฐ , คำพิพากษา (ถ้าเป็นคำพิพากษาย่อสั้น ย่อยาวหรือหมายเหตุ ถือว่ามีการใช้ความวิริยะอุตสาหะ เป็นงานสร้างสรรค์อันมีลิขสิทธิ์์) คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ , คำแปลและการรวบรวมโดยหน่วยงานรัฐ
-แม้ข้อมูลพื้นฐานจะไม่มีลิขสิทธิ์ แต่หากมีการเพิ่มคุณค่าด้วยความคิดสร้างสรรค์ จัดระบบ วิเคราะห์หรือสังเคราะห์ข้อมูลใหม่ งานนั้นอาจได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ได้
2. การได้มาซึ่งลิขสิทธิ์ของบุคคลอื่นที่มิใช่ผู้สร้างสรรค์ ม.9-14
-นายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ผู้ดัดแปลงงาน ผู้รวบรวมงาน และหน่วยงานรัฐ
2.1) นายจ้างตามสัญญาจ้างแรงงาน ม.9 งานที่ผู้สร้างสรรค์ได้สร้างสรรค์ขึ้นในฐานะพนักงานหรือลูกจ้าง ถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น ให้ลิขสิทธิ์ในงานนั้นเป็นของผู้สร้างสรรค์ แต่นายจ้างมีสิทธินำงานนั้นออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้ตามที่เป็นวัตถุประสงค์แห่งการจ้างแรงงานนั้น -ถ้างานที่ลูกจ้างสร้างสรรค์ ไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์แห่งการจ้าง นายจ้างย่อมไม่มีสิทธินำงานออกเผยแพร่
(1) ในส่วนที่เกี่ยวกับวรรณกรรม ให้หมายความรวมถึง แปลวรรณกรรม เปลี่ยนรูปวรรณกรรมหรือรวบรวมวรรณกรรมโดยคัดเลือกและจัดลำดับใหม่
(2) ในส่วนที่เกี่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ให้หมายความรวมถึง ทำซ้ำโดยเปลี่ยนรูปใหม่ ปรับปรุง แก้ไขเพิ่มเติมโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในส่วนอันเป็นสาระสำคัญ โดยไม่มีลักษณะเป็นการจัดทำขึ้นใหม่
(3) ในส่วนที่เกี่ยวกับนาฏกรรม ให้หมายความรวมถึง เปลี่ยนงานที่มิใช่นาฏกรรมให้เป็นนาฏกรรม หรือเปลี่ยนนาฏกรรมให้เป็นงานที่มิใช่นาฏกรรม ทั้งนี้ ไม่ว่าในภาษาเดิมหรือต่างภาษากัน
(4) ในส่วนที่เกี่ยวกับศิลปกรรม ให้หมายความรวมถึง เปลี่ยนงานที่เป็นรูปสองมิติหรือสามมิติ ให้เป็นรูปสามมิติหรือสองมิติ หรือทำหุ่นจำลองจากงานต้นฉบับ
(5) ในส่วนที่เกี่ยวกับดนตรีกรรม ให้หมายความรวมถึง จัดลำดับเรียบเรียงเสียงประสานหรือเปลี่ยนคำร้องหรือทำนองใหม่
-นายจ้างมีสิทธิเผยแพร่ รวมถึงการจำหน่ายด้วย แต่ไม่มีสิทธิดัดแปลงงาน (ลูกจ้างเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ มีสิทธิดัดแปลง)
-ถ้าต้องการให้นายจ้างเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ต้องตกลงกันเป็นหนังสือ
2.2) ผู้ว่าจ้างตามสัญญาจ้างทำของ ม.10 งานที่ผู้สร้างสรรค์ได้สร้างสรรค์ขึ้นโดยการรับจ้างบุคคลอื่น ให้ผู้ว่าจ้างเป็นผู้มีลิขสิทธิ์ในงานนั้น เว้นแต่ผู้สร้างสรรค์และผู้ว่าจ้างจะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น
2.2) ผู้ว่าจ้างตามสัญญาจ้างทำของ ม.10 งานที่ผู้สร้างสรรค์ได้สร้างสรรค์ขึ้นโดยการรับจ้างบุคคลอื่น ให้ผู้ว่าจ้างเป็นผู้มีลิขสิทธิ์ในงานนั้น เว้นแต่ผู้สร้างสรรค์และผู้ว่าจ้างจะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น
-ข้อตกลงยกเว้นตามม.10 ทำด้วยวาจาได้
-ลูกค้าว่าจ้างบริษัททัวร์ให้ถ่ายภาพ (สัญญาจ้างทำของ) บริษัททัวร์จึงให้ลูกจ้างที่เป็นช่างภาพของบริษัทเป็นผู้ถ่ายภาพ กรณีนี้ต้องดูว่าสัญญาใดเป็นสัญญาหลัก ซึ่งสัญญาจ้างทำของให้ถ่ายภาพ บริษัทจะให้ใครถ่ายก็ได้ ไม่สำคัญ ลูกค้าจึงมีลิขสิทธิ์ในภาพถ่ายตามม.10 (ไม่ใช่ลูกจ้างตามม.9)
2.3) ผู้ดัดแปลงงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้อื่น ม.11 งานใดมีลักษณะเป็นการดัดแปลงงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้โดยได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ให้ผู้ที่ได้ดัดแปลงนั้นมีลิขสิทธิ์ในงานที่ได้ดัดแปลงตามพระราชบัญญัตินี้ แต่ทั้งนี้ ไม่กระทบกระเทือนสิทธิของเจ้าของลิขสิทธิ์ที่มีอยู่ในงานของผู้สร้างสรรค์เดิมที่ถูกดัดแปลง
-"ดัดแปลง" หมายความว่า ทำซ้ำโดยเปลี่ยนรูปใหม่ ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม หรือจำลองงานต้นฉบับในส่วนอันเป็นสาระสำคัญโดยไม่มีลักษณะเป็นการจัดทำงานขึ้นใหม่ ทั้งนี้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน(1) ในส่วนที่เกี่ยวกับวรรณกรรม ให้หมายความรวมถึง แปลวรรณกรรม เปลี่ยนรูปวรรณกรรมหรือรวบรวมวรรณกรรมโดยคัดเลือกและจัดลำดับใหม่
(2) ในส่วนที่เกี่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ให้หมายความรวมถึง ทำซ้ำโดยเปลี่ยนรูปใหม่ ปรับปรุง แก้ไขเพิ่มเติมโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในส่วนอันเป็นสาระสำคัญ โดยไม่มีลักษณะเป็นการจัดทำขึ้นใหม่
(3) ในส่วนที่เกี่ยวกับนาฏกรรม ให้หมายความรวมถึง เปลี่ยนงานที่มิใช่นาฏกรรมให้เป็นนาฏกรรม หรือเปลี่ยนนาฏกรรมให้เป็นงานที่มิใช่นาฏกรรม ทั้งนี้ ไม่ว่าในภาษาเดิมหรือต่างภาษากัน
(4) ในส่วนที่เกี่ยวกับศิลปกรรม ให้หมายความรวมถึง เปลี่ยนงานที่เป็นรูปสองมิติหรือสามมิติ ให้เป็นรูปสามมิติหรือสองมิติ หรือทำหุ่นจำลองจากงานต้นฉบับ
(5) ในส่วนที่เกี่ยวกับดนตรีกรรม ให้หมายความรวมถึง จัดลำดับเรียบเรียงเสียงประสานหรือเปลี่ยนคำร้องหรือทำนองใหม่
-ม.11 ถ้าดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ไม่ได้ลิขสิทธิ์ และเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
-การดัดแปลงจากงานสาธารณะก็มีลิขสิทธิ์ได้ เพราะไม่รู้ว่าจะต้องขออนุญาตจากใคร
-ฎ.14580/2557 งานที่จะมีลิขสิทธิ์ได้นั้นต้องเป็นงานสร้างสรรค์ซึ่งผู้สร้างสรรค์ได้ทำหรือก่อให้เกิดขึ้นด้วยการริเริ่มของตนเองโดยใช้ความรู้ความสามารถและความวิริยะอุตสาหะ จนทำให้งานนั้นสำเร็จจนถึงขนาดที่เรียกได้ว่าเป็นงานสร้างสรรค์โดยไม่ได้ทำซ้ำหรือดัดแปลงจากงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต , ลายผ้าของโจทก์ร่วมเป็นเพียงการนำลายโบราณมาปรับเปลี่ยนขนาดและเพิ่มเติมรายละเอียดของลายเพียงเล็กน้อย เพื่อให้ได้จำนวนลายที่สมบูรณ์บนผ้าและเหมาะกับเครื่องทอผ้า โดยยังคงเค้าโครงหลักของลายโบราณ เป็นเพียงงานคลี่คลายลายโบราณ แต่ไม่ได้ใช้ความสามารถและจินตนาการของตนผูกลายเพิ่มขึ้นมาใหม่ในส่วนอันเป็นสาระสำคัญ การที่โจทก์ร่วมเพียงแต่นำรูปแบบลายผ้ามาเลียนหรือประกอบเข้าด้วยกันแล้วเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมลายโบราณในส่วนของรายละเอียดเพียงเล็กน้อยมีลักษณะเป็นการคัดลอกหรือเลียนแบบหรือทำซ้ำซึ่งลวดลายของผ้าที่มีมาแต่โบราณซึ่งตกเป็นงานสาธารณะแล้วเท่านั้น ไม่ได้ทำหรือก่อให้เกิดงานโดยเปลี่ยนรูปใหม่หรือปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมในส่วนอันเป็นสาระสำคัญ งานดังกล่าวจึงไม่ใช่งานดัดแปลงงานที่มีมาแต่โบราณซึ่งตกเป็นงานสาธารณะแล้วถึงขนาดที่เรียกได้ว่าเป็นงานสร้างสรรค์ประเภทงานศิลปประยุกต์อันจะถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 4 และมาตรา 6
2.4) ผู้รวบรวมหรือประกอบเข้ากันซึ่งงานอันมีลิขสิทธิ์ ม.12 งานใดมีลักษณะเป็นการนำเอางานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ มารวบรวมหรือประกอบเข้ากันโดยได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ หรือเป็นการนำเอาข้อมูลหรือสิ่งอื่นใดซึ่งสามารถอ่านหรือถ่ายทอดได้โดยอาศัยเครื่องกลหรืออุปกรณ์อื่นใดมารวบรวมหรือประกอบเข้ากัน หากผู้ที่ได้รวบรวมหรือประกอบเข้ากันได้รวบรวมหรือประกอบเข้ากันซึ่งงานดังกล่าวขึ้นโดยการคัดเลือกหรือจัดลำดับในลักษณะซึ่งมิได้ลอกเลียนงานของบุคคลอื่น ให้ผู้ที่ได้รวบรวมหรือประกอบเข้ากันนั้นมีลิขสิทธิ์ในงานที่ได้รวบรวมหรือประกอบเข้ากันตามพระราชบัญญัตินี้ แต่ทั้งนี้ ไม่กระทบกระเทือนสิทธิของเจ้าของลิขสิทธิ์ที่มีอยู่ในงาน หรือข้อมูลหรือสิ่งอื่นใด ของผู้สร้างสรรค์เดิมที่ถูกนำมารวบรวมหรือประกอบเข้ากัน
-ฎ.6528/2546 ผู้ที่จะได้ลิขสิทธิ์จากการนำลิขสิทธิ์ของผู้อื่นมารวบรวมหรือประกอบเข้าด้วยกันต้องใช้ความรู้ความสามารถหรือความวิริยะอุตสาหะในระดับหนึ่งโดยมิใช่เป็นการลอกเลียนงานอันเป็นลิขสิทธิ์ของผู้อื่น โจทก์จัดทำเอกสารเพื่อประกอบการเสนอราคารถยนต์ปฏิบัติการตรวจเก็บกู้วัตถุระเบิดต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยลอกเลียนมาจากแคตตาล็อกของบริษัท พ. ทั้งหมด เพียงจัดเรียงองค์ประกอบให้สวยงามขึ้นเท่านั้นโจทก์มิได้ใช้ความริเริ่มของตนเองเพียงพอจนเป็นส่วนสำคัญที่ก่อให้เกิดงานรวบรวมขึ้นจึงไม่ได้ลิขสิทธิ์ ดังนั้น แม้จำเลยไม่มีสิทธิที่จะนำแคตตาล็อกมาจัดทำเป็นส่วนหนึ่งเอกสารประกอบการเสนอราคาของจำเลยต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติเช่นกัน โดยที่บริษัท พ. ไม่ได้อนุญาตให้กระทำได้เพราะจำเลยไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของบริษัท พ. ซึ่งหากเป็นการไม่ชอบก็เป็นเรื่องที่จำเลยละเมิดลิขสิทธิ์ของบริษัท พ. โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย
2.5) งานที่เกิดจากการว่าจ้างหรือคำสั่งของหน่วยงานรัฐ ม.14 กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น ย่อมมีลิขสิทธิ์ในงานที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นโดยการจ้างหรือตามคำสั่งหรือในความควบคุมของตน เว้นแต่จะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่นเป็นลายลักษณ์อักษร
-ตรงข้ามกับม.9 (ม.9 เอกชน ลูกจ้างมีลิขสิทธิ์ , ม.14 รัฐ หน่วยงานรัฐมีลิขสิทธิ์)
3. ตัวอย่างข้อสอบของอาจารย์ (เนติ2567) คดีลูกฮิปโปแคระ "หมูนุ่ม" มี 2 ประเด็น ประเด็นแรก สวนสัตว์เป็นหน่วยงานรัฐมีคำสั่งให้นายแดงพนักงานถ่ายรูปฮิปโปมาใช้ผลิตสินค้าที่ระลึก นายแดงได้สร้างสรรค์งานภาพถ่ายด้วยความวิริยะอุตสาหะ เป็นงานศิลปกรรมประเภทภาพถ่ายที่ได้รับความคุ้มครอง อย่างไรก็ตามสวนสัตว์จึงเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพถ่ายตามม.6 วรรคแรก , 8 และ 14 นายแดงไม่ใช่เจ้าของลิขสิทธิ์ประเด็นที่สอง การคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการคุ้มครองการแสดงออกซึ่งความคิด ไม่ได้คุ้มครองตัวความคิดหรือแนวความคิดตามม.6 วรรคสอง (ตอบส่วนนี้เนื่องจากคำถามถามว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพถ่ายหรือไม่ ทุกคนจึงสามารถไปถ่ายภาพหรือวาดภาพฮิปโปได้) นางสาวเป็ดวาดภาพฮิปโปในอิริยาบถต่าง ๆ และทำสติกเกอร์ไลน์จำหน่าย ภาพวาดเป็นงานศิลปกรรมประเภทงานจิตรกรรมตามม.6 วรรคหนึ่ง , 8 , 15 และได้นำไปทำสติกเกอร์ไลน์จึงเป็นงานศิลปกรรมประเภทงานศิลปะประยุกต์ตามม.4
-ความละเอียดของการตอบข้อสอบ เหตุผลในการตอบ ทำให้ได้คะแนนแตกต่างกัน
4. ตัวอย่างข้อสอบผู้ช่วยผู้พิพากษา 2568 สนามใหญ่
-บริษัททันใจ จำกัด สตาร์ทอัพด้านขนส่งพัสดุ ได้จ้างนายเจี่ยเว่ย เป็นหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาแผนที่กรุงเทพฯ เฉพาะกิจ และระบบ "จัดส่งอัจฉริยะโดยการเลือกเส้นทางแบบเรียลไทม์" โดยใช้ AI วิเคราะห์จราจร และปรับเปลี่ยนเส้นทางอัตโนมัติ ซึ่งนายเจี่ยเว่ยได้นำไปจดสิทธิบัตรในนามส่วนตัวโดยไม่แจ้งบริษัท หลังจากถูกไล่ออก นายเจี่ยเว่ยได้จัดตั้งบริษัททันที จำกัด และนำแผนที่และระบบจัดส่งอัจฉริยะมาใช้กับธุรกิจใหม่ และฟ้องบริษัททันใจ จำกัด ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์แผนที่และละเมิดสิทธิบัตรระบบอัจฉริยะฯ บริษัททันใจ จำกัด โต้แย้งว่า ถนนและซอยเป็นข้อเท็จจริงที่มีอยู่แล้ว ไม่ใช่งานอันมีลิขสิทธิ์ และแม้จะเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ นายเนี่ยเว่ยก็ไม่ใช่เจ้าของ ส่วนสิทธิบัตรการประดิษฐ์ออกโดยไม่ชอบ เพราะนายเจี่ยเว่ยไม่มีสิทธิยื่นขอรับสิทธิบัตร
-ประเด็นเรื่องลิขสิทธิ์แผนที่ นายเจี่ยเว่ยใช้ความอุตสาหะวิริยะและความรู้ความสามารถในการสำรวจและจัดทำแผนที่ แม้ถนนและซอยเป็นข้อเท็จจริงทั่วไป แต่การนำเสนอข้อมูลในรูปแบบแผนที่ ถือเป็นการแสดงออกซึ่งความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นงานศิลปกรรม และได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ตามม.4 , 6 วรรคหนึ่ง , 8 วรรคหนึ่ง(1) (เทียบฎีกา 13535/2557)
-ประเด็นเรื่องความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แผนที่ แม้แผนที่จะถูกสร้างสรรค์ขึ้นในระหว่างที่นายเจี่ยเว่ยเป็นลูกจ้างของบริษัททันใจ จำกัด แต่เมื่อไม่มีข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร ลิขสิทธิ์จึงตกเป็นของนายเจียเว่ยโดยสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม บริษัททันใจ จำกัด ยังคงมีสิทธินำแผนที่นั้นออกเผยแพร่ตามวัตถุประสงค์แห่งการจ้างแรงงานนั้นได้ตามม.9
-ประเด็นเรื่องสิทธิบัตรระบบจัดส่งอัจฉริยะฯ การประดิษฐ์ระบบอัจฉริยฯ อยู่ภายใต้ขอบเขตหน้าที่การงานของจายเจี่ยเว่ยในฐานะหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของบริษัท สิทธิในการยื่นขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์นี้จึงตกเป็นของบริษัทในฐานะนายจ้างตามพ.ร.บ.สิทธิบัตรฯ ม.11 การที่นายเจี่ยเว่ยนำไปจดสิทธิบัตรนี้ในนามส่วนตัว จึงเป็นการจดสิทธิบัตรที่ไม่สมบูรณ์ บริษัททันใจ จำกัดจึงมีสิทธิ์ขอให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิบัตรของนายเจี่ยเว่ยได้ตามพ.ร.บ.สิทธิบัตรฯ ม.54
5. ฎ.1265/2563 ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 4 และมาตรา 6 งานสร้างสรรค์ประเภทศิลปกรรมที่มีลักษณะเป็นงานจิตรกรรมจะเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ที่ได้รับความคุ้มครองตามบทบัญญัติดังกล่าวของ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 นั้น ต้องเป็นงานที่ผู้สร้างสรรค์ได้ทำหรือก่อให้เกิดงานนั้นด้วยการริเริ่มขึ้นเองโดยมิได้ทำซ้ำหรือดัดแปลงจากงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต งานอันมีลิขสิทธิ์ไม่จำต้องเป็นงานใหม่อย่างเช่นกรณีของสิทธิบัตรการประดิษฐ์ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายสิทธิบัตรต่อเมื่อเป็นการประดิษฐ์ขึ้นใหม่หรือต้องไม่เป็นงานที่ปรากฏอยู่แล้ว งานอันมีลิขสิทธิ์จึงอาจเหมือนหรือคล้ายกับงานอันมีลิขสิทธิ์ที่ปรากฏอยู่แล้วได้ แต่งานที่เหมือนหรือคล้ายกันนั้นต้องเกิดจากการริเริ่มสร้างสรรค์ขึ้นเองของผู้สร้างสรรค์โดยมิได้ทำซ้ำหรือดัดแปลงจากงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต คุณค่าของงานหรือคุณค่าทางศิลปะไม่ใช่เงื่อนไขของการคุ้มครองลิขสิทธิ์ แม้งานที่สร้างขึ้นนั้นจะไม่มีคุณค่าของงานหรือคุณค่าทางศิลปะ หากผู้สร้างสรรค์ได้ทำขึ้นด้วยความวิริยะอุตสาหะ ด้วยการทุ่มเทกำลังสติปัญญาความรู้ความสามารถ ใช้ประสบการณ์และวิจารณญาณในการสร้างงานนั้น งานนั้นก็ได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ โดยการคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการให้ความคุ้มครองรูปแบบของการแสดงออกซึ่งความคิด ไม่คุ้มครองความคิดหรือแนวความคิด เมื่อพิจารณาถึงแบบซุ้มประตูเมืองที่ขยายมาตราส่วน ซึ่งอาจแบ่งได้เป็น 3 ส่วน คือ ส่วนแรก ซุ้มประตูด้านบน ซึ่งประกอบไปด้วยรูปโบราณสถานของเมือง 5 อย่าง ได้แก่ ศาลหลักเมือง พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชและกำแพงเมือง พระบรมมหาธาตุ ศาลาพุทธสิหิงค์ และหอพระนารายณ์ ส่วนที่สอง คานของซุ้มประตู โดยด้านซ้ายและขวามีลายไทย 4 มุม วงกลมล้อมรูป 12 นักษัตร ด้านละ 6 ตัว ตรงกลางเป็นแผ่นป้าย "ยินดีต้อนรับ เทศบาลนครนครศรีธรรมราช" และส่วนที่สาม เสาของซุ้มประตูเมือง โดยเสาซ้ายและขวามีลายเส้นดอกไม้ใหญ่เริ่มจากตรงกลางเสา เสาละ 1 ดอก ส่วนเสากลางมีดอกไม้ 1 ดอก เริ่มตั้งแต่ฐานล่างสุดของเสา ด้านบนเป็นตราของจำเลยที่ 1 ซึ่งโจทก์นำสืบว่าได้ออกแบบโดยปรึกษากับนายภิญโญ ค้นประวัติของเมืองนครศรีธรรมราช ตรวจสอบศึกษาสถาปัตยกรรมพื้นบ้าน วัตถุโบราณ โบราณสถานในจังหวัด ภูมิปัญญาท้องถิ่น จุดเด่นของจังหวัด รวบรวมหลายอย่างเข้าด้วยกัน แล้วจินตนาการด้วยลีลาการเขียนจิตรกรรม ทำเป็นร่างงานจิตรกรรมขึ้นมา ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ทำหรือก่อให้เกิดงานสร้างสรรค์ด้วยความวิริยะอุตสาหะแล้ว แม้การออกแบบดังกล่าวของโจทก์จะเป็นไปตามนโยบายและแนวคิดของจำเลยที่ 1 และมีการปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำของจำเลยที่ 1 ตามที่ฝ่ายจำเลยอ้างก็ตาม แต่การคุ้มครองลิขสิทธิ์นั้นเป็นการคุ้มครองในการแสดงออก ไม่คลุมถึงความคิดหรือแนวความคิด การที่โจทก์ปรับปรุงแก้ไขก็เพียงเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของทางจำเลยที่ 1 เพื่อที่โจทก์จะได้รับพิจารณาให้เป็นผู้ก่อสร้างซุ้มประตูตามแบบดังกล่าว นอกจากนี้แม้ซุ้มประตูด้านบนจะประกอบไปด้วยโบราณสถานของจังหวัดซึ่งบุคคลทั่วไปรู้จักและมีการก่อสร้างมานานแล้วก็ตาม แต่การที่โจทก์เลือกโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดมาเพียง 5 รายการ โดยออกแบบโบราณสถานทั้งห้ารายการให้มีลักษณะ มุมมอง ลายเส้น และขนาด ที่เหมาะสมกับซุ้มประตู แล้วนำมาจัดเรียงกัน ตกแต่งด้วยลายไทย ลายดอกไม้ 12 นักษัตร โจทก์ย่อมต้องใช้ความวิริยะอุตสาหะในการดำเนินการเพื่อให้ออกมาเป็นแบบได้ เมื่อไม่ปรากฏว่าแบบซุ้มประตูเมืองดังกล่าวเกิดจากการทำซ้ำหรือดัดแปลงจากงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อมถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์และเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์งานศิลปกรรมอันมีลักษณะงานจิตรกรรมในแบบซุ้มประตูเมืองดังกล่าว
6. สิทธิในธรรมสิทธิ์ และการคุ้มครองลิขสิทธิ์ในประเทศไทย
-ม.18 ผู้สร้างสรรค์งานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้มีสิทธิที่จะแสดงว่าตนเป็นผู้สร้างสรรค์งานดังกล่าว และมีสิทธิที่จะห้ามมิให้ผู้รับโอนลิขสิทธิ์หรือบุคคลอื่นใดบิดเบือน ตัดทอน ดัดแปลงหรือทำโดยประการอื่นใดแก่งานนั้น จนเกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของผู้สร้างสรรค์ และเมื่อผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตายทายาทของผู้สร้างสรรค์มีสิทธิที่จะฟ้องร้องบังคับตามสิทธิดังกล่าวได้ตลอดอายุแห่งการคุ้มครองลิขสิทธิ์ ทั้งนี้ เว้นแต่จะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่นเป็นลายลักษณ์อักษร
-สิทธิในธรรมสิทธิ์เป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้สร้างสรรค์ แม้เจ้าของลิขสิทธิ์จะโอนลิขสิทธิ์ไปแล้ว ผู้สร้างสรรค์ยังคงมีสิทธินี้อยู่ ยกเว้นจะได้ตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษร
7. อายุการคุ้มครองลิขสิทธิ์ กรณีบุคคลธรรมดา
-ลิขสิทธิ์มีอยู่ตลอดอายุของผู้สร้างสรรค์ และมีอยู่ต่อไปอีกเป็นเวลา 50 ปี นับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตายตามม.19
-หากมีผู้สร้างสรรค์ร่วม ลิขสิทธิ์มีอยู่ตลอดอายุของผู้สร้างสรรค์ร่วม และมีอยู่ต่อไปอีกเป็นเวลา 50 ปี นับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย
-กรณีผู้สร้างสรรค์เสียชีวิตก่อนโฆษณางาน หากผู้สร้างสรรค์หรือผู้สร้างสรรค์ร่วมทุกคนถึงแก่ความตายก่อนมีการโฆษณางาน ให้ลิขสิทธิ์มีอายุ 50 ปี นับแต่มีการโฆษณาเป็นครั้งแรก
-เมื่อหมดอายุการคุ้มครอง งานนั้นจะไม่เป็นลิขสิทธิ์ต่อไป จะตกเป็นงานสาธารณะ
8. อายุการคุ้มครองลิขสิทธิ์ กรณีพิเศษ
-กรณีนิติบุคคลเป็นผู้สร้างสรรค์ ลิขสิทธิ์มีอายุ 50 ปี นับแต่ได้สร้างสรรค์ขึ้น แต่ถ้ามีการโฆษณางานในระหว่างระยะเวลานั้น ให้ลิขสิทธิ์มีอายุ 50 ปี นับแต่มีการโฆษณาเป็นครั้งแรก
-กรณีใช้นามแฝงหรือไม่ปรากฏชื่อ ลิขสิทธิ์มีอายุ 50 ปี นับแต่ได้สร้างสรรค์ขึ้น แต่ถ้ามีการโฆษณางานในระหว่างระยะเวลานั้น ให้ลิขสิทธิ์มีอายุ 50 ปี นับแต่มีการโฆษณาเป็นครั้งแรก
-งานประเภทพิเศษ ลิขสิทธิ์ในงานภาพถ่าย โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง หรืองานแพร่เสียงแพร่ภาพ มีอายุ 50 ปี นับแต่สร้างสรรค์งานขึ้น แต่ถ้ามีการโฆษณาระหว่างระยะเวลานั้น ให้มีลิขสิทธิ์ 50 ปี นับแต่มีการโฆษณาเป็นครั้งแรก
-งานศิลปะประยุกต์ มีอายุ 25 ปี นับแต่สร้างสรรค์ขึ้น แต่ถ้ามีการโฆษณางานในระหว่างระยะเวลานั้น ให้มีลิขสิทธิ์ 25 ปี นับแต่ได้มีการโฆษณาเป็นครั้งแรก
ครั้งหน้าเป็นเรื่องการอนุญาตให้ใช้สิทธิ การละเมิดลิขสิทธิ์ในรูปแบบต่าง ๆ และข้อยกเว้น
***จบการบรรยาย***
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น