สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายหนี้ (ครั้งที่ 2)
สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายหนี้ (ครั้งที่ 2)
อาจารย์ดาราพร ถิระวัฒน์
วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม 2568
**********
1. บทบัญญัติต่าง ๆ ของกฎหมายหนี้ ก็เกิดจากปัญหาการไม่ชำระหนี้ของลูกหนี้ (ไม่ว่ามูลหนี้จะเกิดจากสัญญา ละเมิด หรือกฎหมายอื่น ๆ ผลของหนี้ก็คือ ลูกหนี้จะต้องชำระหนี้) และเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ จึงมีปัญหาว่าลูกหนี้จะต้องรับผิดอย่างไร ซึ่งผลของการไม่ชำระหนี้ จะอยู่ในหลักต่าง ๆ ตาม ม.194-353 ซึ่งเป็นหลักทั่วไปของหนี้ เป็นผลทางกฎหมาย ที่ไม่มีการตกลงเป็นอย่างอื่น เช่น หนี้ตามสัญญาอาจมีข้อตกลงให้คู่สัญญาฝ่ายลูกหนี้ที่ไม่ชำระหนี้ต้องรับผิดอะไรบ้าง ก็เป็นไปตามข้อตกลงที่อยู่ในสัญญานั้น แต่ถ้าไม่มีการตกลงไว้ ผลของการไม่ชำระหนี้ก็จะเป็นไปตาม ม.194-353 หรือกรณีมูลละเมิด เรื่องของการชำระหนี้ก็คือการชดใช้ค่าเสียหาย แต่จะชดใช้อย่างไร ถ้าลูกหนี้ละเมิดไม่ชำระค่าเสียหาย เราจะต้องปรับ ม.194-353
2. วัตถุแห่งหนี้ (subject of obligation)
เป็นเรื่องเนื้อหาการชำระหนี้ของลูกหนี้ที่ลูกหนี้ต้องปฏิบัติ เช่น สัญญาซื้อขายกำหนดให้ลูกหนี้ต้องชำระราคา เป็นจำนวนเงินที่แน่นอน แบบนี้ก็เป็นไปตามสัญญาไม่มีปัญหา แต่จะมีปัญหาอยู่ 3 กรณี ที่ไม่มีการกำหนดตัวการชำระหนี้ให้แน่นอน *(หนี้สมบูรณ์แล้ว แต่ตัววัตถุแห่งหนี้ยังไม่แน่นอน) กฎหมายจึงกำหนดว่ามูลแห่งหนี้นั้น ๆ ลูกหนี้จะต้องชำระหนี้อย่างไรหรืออะไรที่เป็นวัตถุแห่งหนี้ที่ลูกหนี้ต้องปฏิบัตินั่นเอง หลักการกำหนดวัตถุแห่งหนี้ให้แน่นอน ม.195-202
-กรณีที่ 1 ม.195 กรณีทรัพย์ซึ่งเป็นวัตถุแห่งหนี้เป็นทรัพย์ที่ไม่แน่นอน เช่น ทรัพย์ที่ต้องส่งมอบยังไม่เป็นทรัพย์เฉพาะสิ่ง กรณีนี้มีปัญหาเยอะ ใครมีหน้าที่ต้องรักษาตัวทรัพย์ขณะที่ยังไม่ได้ส่งมอบ หรือการพ้นวิสัย
-กรณีที่ 2 ม.196-197 กรณีการชำระหนี้เงินตราต่างประเทศ กำหนดการชำระหนี้เป็นเงินตราต่างประเทศ
-กรณีที่ 3 ม.198-202 กรณีการชำระหนี้มีหลายอย่าง (หนี้ที่ต้องเลือก) หนี้บางมูลหนี้กำหนดการชำระหนี้หลายอย่างที่กำหนดให้เลือกชำระหนี้อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น (ไม่ใช่ชำระหนี้ทั้งหมด) จึงมีปัญหาว่าลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้หรือชำระหนี้แล้วไม่ตรงใจเจ้าหนี้ ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอน เป็นการเลือกที่ถูกต้องแล้วหรือยัง
3. กรณีทรัพย์ซึ่งเป็นวัตถุแห่งหนี้เป็นทรัพย์ที่ไม่แน่นอน ม.195
-ทรัพย์ที่ระบุไว้เป็นเพียงประเภท เช่น กำหนดให้ส่งมอบข้าวสาร (ไม่ใช่ข้าวเปลือก ข้าวโพด) แต่ไม่ได้กำหนดคุณภาพ
-ทรัพย์ที่ไม่แน่นอน (a fungible thing)
-ทรัพย์ทั่วไป (a generic thing)
-สังกมทรัพย์ (ปัจจุบันไม่มีคำศัพท์นี้แล้ว) = สังหาริมทรัพย์ โดยปกติอาจใช้ของอื่นอันเป็นประเภทและชนิดเดียวกันมีปริมาณเท่ากันแทนได้ (สังกมทรัพย์ หลักการในเรื่องยืมใช้สิ้นเปลือง)
4. หลักกำหนดตัวทรัพย์ที่เป็นวัตถุแห่งหนี้ให้แน่นอน
1) การกำหนดชนิด(คุณภาพ)ของทรัพย์ให้แน่นอน ม.195 วรรคหนึ่ง ลูกหนี้ต้องส่งมอบทรัพย์ชนิดปานกลาง
(หลักเฉพาะ ม.589 , ม.650 เอกเทศสัญญากำหนดเฉพาะ ก็ต้องเป็นไปตามนั้น)
2) การกำหนดตัวทรัพย์ให้แน่นอนเป็นทรัพย์เฉพาะสิ่ง ม.195 วรรคสอง
(หลักเฉพาะ ม.460 เอกเทศสัญญากำหนดเฉพาะ ก็ต้องเป็นไปตามนั้น)
5. ความแตกต่างของการเป็นทรัพย์เฉพาะสิ่งและการเป็นทรัพย์ทั่วไป 6 เรื่อง
1) ผลเกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ์ ม.458
-ฎ.339/2506 , 455/2518 , 468/2532
2) ผลเกี่ยวกับภัยพิบัติหรือการเสี่ยงภัย ม.370
-ฎ.339/2506
3) ผลเกี่ยวกับการพ้นวิสัยในการชำระหนี้ ม.202 , 217 , 218 , 219
-ฎ.711/2486 , 462/2493 , 2046/2531 , 434/2531
4) ผลเกี่ยวกับหน้าที่ในการรักษาทรัพย์ ม.323 วรรคสอง
5) ผลเกี่ยวกับสภาพของทรัพย์ส่งมอบ ม.323 วรรคหนึ่ง
6) ผลเกี่ยวกับสถานที่ส่งมอบทรัพย์ ม.324
*ปัจจุบันการซื้อขายทรัพย์ทั่วไปมีปัญหาเยอะ หลักการกำหนดวัตถุแห่งหนี้ให้แน่นอน ม.195-202
6. ปัญหากรณีหนี้เงินที่แสดงไว้เป็นเงินตราต่างประเทศ ม.196
-ความหมายของหนี้เงิน ม.196
-กฎหมายให้สิทธิลูกหนี้เลือกจะชำระเป็นเงินไทยก็ได้
-โดยคิดอัตราแลกเปลี่ยนเงิน ณ สถานที่และเวลาที่ใช้เงิน
-ฎ.5020/2547 , 568/2548 , 2863/2559
-เช่น สัญญากำหนดให้ชำระหนี้ 10,000 ยูโร แต่เวลาชำระหนี้ กฎหมาย ม.196 ก็ให้สิทธิลุกหนี้เลือกชำระเป็นเงินไทยก็ได้
7. ปัญหากรณีการอันพึงชำระหนี้มีหลายอย่าง ม.198
-หนี้ที่เลือกชำระได้ (alternative obligation)
-กรณีมีวัตถุแห่งหนี้ที่ต้องมีการเลือก
-มีข้อตกลงที่การชำระหนี้มีหลายอย่าง แต่ลูกหนี้จะต้องทำการชำระหนี้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
*หลักเกณฑ์การเลือก
-วิธีการเลือก ม.198-201
-กรณีการอันพึงต้องทำเพื่อชำระหนี้บางประการตกเป็นพ้นวินัยก่อนการเลือก ม.202
8. *กรณีการอันพึงต้องทำเพื่อชำระหนี้บางประการตกเป็นพ้นวิสัยก่อนมีการเลือก ม.202
-ถ้าไม่ได้เกิดจากความผิดของผู้ไม่มีสิทธิเลือก กฎหมายจำกัดหนี้ (จำกัดการเลือก) ชำระหนี้เท่าที่ไม่พ้นวิสัย
-ถ้าเกิดจากความผิดของผู้ไม่มีสิทธิเลือก กฎหมายไม่จำกัดหนี้ (ไม่จำกัดการเลือก) ผู้มีสิทธิเลือก อาจเลือกการที่เป็นพ้นวิสัยเป็นการชำระหนี้ได้ (สิทธิในทางกฎหมาย)
*ม.202 จะต้องพ้นวิสัยก่อนการเลือก เพราะถ้าเลือกแล้ว ผลของการเลือกคือ ม.199 วรรคสอง ให้ถือว่าการชำระหนี้ที่เลือกอย่างนั้นอย่างเดียว เป็นการชำระหนี้ที่กำหนดให้กระทำมาตั้งแต่ต้น (มีผลย้อนหลังเป็นวัตถุแห่งหนี้ที่ต้องชำระมาตั้งแต่ต้น)
-ตัวอย่าง นาย ก. (เจ้าหนี้) ตกลงยอมให้นาย ข. (ลูกหนี้) ชำระหนี้เป็นอย่างอื่น ม.321 ที่เป็นการชำระหนี้หลายอย่างซึ่งต้องมีการเลือกกัน โดยยอมให้นาย ข. นำรถยนต์มาชำระหนี้ ซึ่งนาย ข. มีรถยนต์ 3 คัน คันสีแดง คันสีน้ำเงิน คันสีเหลือง มีข้อตกลงให้นาย ก. เจ้าหนี้ เป็นผู้มีสิทธิเลือก
-หากยังไม่ได้เลือก เกิดฟ้าฝ่ารถยนต์คันสีแดงเสียหาย โดยไม่ใช่ความผิดนาย ข. เช่นนี้นาย ก. เลือกได้ระหว่างคันสีน้ำเงินหรือคันสีเหลืองที่ยังไม่พ้นวิสัย
-แต่ถ้าระหว่างที่ยังไม่ได้เลือก นาย ข. นำรถคันสีแดงไปขับชนสะพาน เกิดไฟไหม้ รถเสียหาย ผลทางกฎหมาย นาย ก. อาจเลือกคันสีแดงเป็นวัตถุแห่งหนี้ก็ได้ ทำให้การชำระหนี้อย่างอื่นไม่ระงับ จึงกลับเป็นหนี้เงินอีกครั้ง
*แต่ถ้าเปลี่ยนข้อเท็จจริงเป็นว่า มีข้อตกลงให้นาย ข. ลูกหนี้ เป็นผู้มีสิทธิเลือก
-ถ้าไฟไหม้คันสีแดง โดยไม่ใช่ความผิดของนาย ก. เช่นนี้นาย ข. ก็ต้องเลือกรถคันที่เหลืออยู่ที่ยังไม่พ้นวิสัยชำระหนี้
-แต่ถ้านาย ก. นำรถคันสีแดงไปขับชนสะพาน รถเสียหาย นาย ข. ผู้มีสิทธิเลือกอาจเลือกคันสีแดงที่เสียหายเป็นวัตถุแห่งหนี้ที่ต้องทำการชำระหนี้ได้ นาย ข. ก็หลุดพ้นจากหนี้ หรือหากนาย ข. จะเลือกรถคันอื่นชำระหนี้ก็ได้ ก็ชำระหนี้ด้วยรถคันอื่น ส่วนรถคันสีแดงที่เสียหาย ก็มีสิทธิฟ้องนาย ก. มูลละเมิดได้
*ม.202 ตอนท้าย ดูว่าผู้มีสิทธิเลือกเป็นใคร
***จบการบรรยาย***
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น