สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ กฎหมายนิติกรรม สัญญา (ครั้งที่ 16) ครั้งสุดท้าย
สรุปคำบรรยายเนติบัณฑิต 1/78 ภาคค่ำ
กฎหมายนิติกรรม สัญญา (ครั้งที่ 16) ครั้งสุดท้าย
อาจารย์นรินทร ตั้งศรีไพโรจน์
วันพุธที่ 3 กันยายน 2568
**********
ในส่วนของอาจารย์เน้นเรื่องสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก
1. สิทธิของบุคคลภายนอก ม.374 วรรคสอง ในกรณีดังกล่าวมาในวรรคต้น สิทธิของบุคคลภายนอกย่อมเกิดมีขึ้นตั้งแต่เวลาที่แสดงเจตนาแก่ลูกหนี้ ว่าจะถือเอาประโยชน์จากสัญญานั้น
-ฎ.11228/2553 โจทก์ตกลงทำนิติกรรมยกที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยเพียงนิติกรรมเดียว การให้ดังกล่าวมิได้เป็นการแสดงเจตนาลวงโดยสมรู้กับจำเลยเพื่อปกปิดนิติกรรมอีกนิติกรรมหนึ่ง เพียงแต่โจทก์อ้างว่ามีข้อตกลงเพิ่มเติมในสัญญาไว้ว่า จำเลยต้องไปดำเนินการแบ่งแยกที่ดินพิพาทแล้วโอนให้แก่พี่น้องทุกคนในภายหลังเท่านั้น สัญญาให้ที่ดินพิพาททั้งสองแปลงตามฟ้อง จึงมิใช่นิติกรรมอำพรางที่โจทก์จะฟ้องขอให้เพิกถอนได้ และหากข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่โจทก์กล่าวอ้างในฟ้องจริง
กรณีก็เป็นเรื่องโจทก์จำเลยทำสัญญาตกลงว่าจะชำระหนี้แก่บุคคลภายนอกตามม.374 วรรคหนึ่ง กรณีนี้โจทก์ชอบที่จะใช้สิทธิเรียกร้องให้จำเลยโอนที่ดินพิพาทให้แก่บุตรทุกคน ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้ได้รับประโยชน์ตามสัญญา มิใช่มาฟ้องเพิกถอนสัญญาให้แล้วบังคับให้จำเลยโอนที่ดินพิพาทกลับมาเป็นของโจทก์ เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติให้โจทก์กระทำเช่นนั้นได้
2. การเปลี่ยนแปลงหรือระงับสิทธิ ม.375
-ม.375 เมื่อสิทธิของบุคคลภายนอกได้เกิดมีขึ้นตามบทบัญญัติแห่งมาตราก่อนแล้ว คู่สัญญาหาอาจจะเปลี่ยนแปลงหรือระงับสิทธินั้นในภายหลังไม่
-ฎ.1200/2552 สัญญาซื้อขายที่ดินมีข้อความที่เป็นเงื่อนไขว่า จะชำระหนี้แก่บุคคลภายนอกคือ
โจทก์ที่ 2 แต่สิทธิของโจทก์ที่ 2 ยังมิได้เกิดมีขึ้น เพราะโจทก์ที่ 2 มิได้รับรู้ถึงสิทธิในขณะทำสัญญา
หรือยังมิได้แสดงเจตนาแก่ลูกหนี้ว่าจะถือเอาประโยชน์จากข้อสัญญา คู่สัญญาย่อมเปลี่ยนแปลงหรือระงับสิทธินั้นในภายหลังได้ การที่โจทก์ที่ 1 และจำเลยที่ 1 ตกลงซื้อขายที่ดินกัน โดยไม่ระบุหนี้ที่จะต้องชำระคือการทำถนนและจดทะเบียนภาระจำยอมให้แก่ที่ดินของโจทก์ที่ 2 ในสัญญาขายที่ดินฉบับใหม่ ถือว่าคู่สัญญาประสงค์ระงับสิทธิที่จะต้องชำระหนี้แก่โจทก์ที่ 2 แล้ว จำเลยทั้งแปด
จึงไม่มีหนี้ที่ต้องทำถนนและจดทะเบียนภาระจำยอมให้แก่ที่ดินของโจทก์ที่ 2
2.1) ถ้าบุคคลภายนอกได้แสดงเจตนาถือเอาประโยชน์ตามสัญญาเพื่อประโยชน์ของบุคคลภายนอกนั้นแล้ว คู่สัญญาตามสัญญานั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือระงับสิทธิที่กำหนดไว้ในสัญญานั้นได้เว้นแต่
-คู่สัญญาสงวนสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลงหรือระงับสิทธิของบุคคลภายนอก โดยกำหนดเป็นเงื่อนไขไว้ในสัญญา
-บุคคลภายนอกตกลงยินยอมด้วยกับคู่สัญญา
-ฎ.611/2566 (ป)*** ส. เข้าเป็นสมาชิกของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูตาก จำกัด จำเลยที่ 1 ตามใบสมัครระบุว่า เพื่อชำระหนี้จำเลยที่ 2 ตามจำนวนที่ค้างชำระก่อน
ส. เป็นคู่สัญญากู้หรือค้ำประกันโดยตรงกับจำเลยที่ 2 และต้องถือว่าจำเลยที่ 2 ได้แสดงเจตนาว่าจะถือเอาประโยชน์จากสัญญานั้นตลอดมาตั้งแต่ ส. สมัครเข้าเป็นสมาชิกจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ย่อมมีสิทธิดีกว่าโจทก์ทั้งสองตาม ป.พ.พ. มาตรา 374 และมาตรา 375 เมื่อปรากฏว่าก่อน ส. ถึงแก่ความตาย ส. มีหนี้สินที่ต้องชำระจำเลยที่ 2 ตามคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความของ
ศาลชั้นต้น โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นภริยาของ ส. ในฐานะลูกหนี้ร่วมและฐานะทายาทโดยธรรม และโจทก์ที่ 2 ในฐานะทายาทโดยธรรมของ ส. ต้องชำระหนี้ของ ส. ให้แก่จำเลยที่ 2 ตามที่ ส. ระบุยินยอมชำระหนี้ตามใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 มีสิทธิได้รับชำระหนี้จากเงินค่าจัดการศพและสงเคราะห์ครอบครัวของ ส. ตามคำนิยาม "เงินสงเคราะห์" ในความหมาย "เงินค่าจัดการศพและสงเคราะห์ครอบครัว" ตาม พ.ร.บ.การฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 มาตรา 4
การที่จำเลยที่ 1 โอนเงินค่าจัดการศพและสงเคราะห์ครอบครัวให้แก่จำเลยที่ 2 เพื่อชำระหนี้ของ ส.
ที่มีต่อจำเลยที่ 2 หาเป็นการละเมิดต่อข้อกฎหมายหรือผิดข้อตกลงไม่
***จบการบรรยาย***
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น